15 พ.ค. 2019 เวลา 05:00 • บันเทิง
ดูมาแล้ว - AVENGERS: ENDGAME บทสรุปที่งดงามจากทศวรรษแรกของมาร์เวล
AVENGERS: ENDGAME: ไม่ใช่แค่เป็นตอนจบของ Avengers: Infinity War เท่านั้น Avengers: Endgame ยังเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดในหนังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่ไม่ต่างไปจากการรูดม่านปิดฉากเรื่องราวและตัวละครที่ได้เห็นกันตลอดสิบปีที่ผ่านมา
​เมื่อเรื่องราวของหนังสามารถนำพาตัวละครเก่าๆ ที่ผู้ชมเคยรู้จักและผูกพันมากมายให้กลับมามีบทบาทบนจอได้ แม้จะเป็นเพียงเวลาชั่วไม่นาน และกับบางรายก็เห็นกันแค่นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็เชื่อว่า น่าจะทำให้แฟนๆ หรือคอหนังที่ตามกันมาตั้งแต่ Iron Man หนังเรื่องแรกในจักรวาลมาร์เวลออกฉายเมื่อปี 2008 ได้ปลื้มอกปลื้มใจกับการได้เจอตัวละครที่พวกเขารักหรืออย่างน้อยก็รู้จักอีกครั้ง
​ที่บางที… อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย
​ในขณะเดียวกันบทของสตีเฟน แม็คฟีลีกับคริสโตเฟอร์ มาร์คัส ก็ยังพาตัวละครบางรายได้แก้ปัญหาค้างคาใจของตัวเองจากอดีตไปพร้อมๆ กัน
​ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งคู่สามารถผูกเรื่องราวให้ตัวละครเหล่านี้กลับมาขึ้นจอ ให้ตัวละครได้กลับไปสางปมปัญหาของตัวเองได้ในแบบที่ไม่ใช่การยัดเยียด แต่มาพร้อมกับความเป็นเหตุเป็นผลตามที่เนื้อหาเปิดโอกาสให้ แล้วก็ยังเล่าเรื่องราวได้ความ กับการให้บรรดาอเวนเจอร์สที่รอดชีวิตจากการดีดนิ้วของธานอสใน Avengers: Infinity War ได้ย้อนเวลากลับไปช่วงชิงอัญมณีทั้งหกเม็ดก่อนที่จะไปถึงมือของมัน ซึ่งพวกเขาก็ต้องแยกกันไปตามที่ตามทางที่อัญมณีเหล่านั้นถูกซุกซ่อนเอาไว้ ในช่วงเวลาต่างๆ ก่อนที่ธานอสจะค้นพบ
​แต่จะด้วยวิธีอะไร และทำให้พวกเขาได้พบกับตัวละครที่เคยเห็นกันในหนังเรื่องก่อนๆ ได้ยังไง คงต้องไปดูกันเอง
​บทของแม็คฟีลีและมาร์คัส ก็ยังมาพร้อมกับสถานการณ์หักมุมไปมา ไม่ต่างไปจากที่เห็นกันใน Avengers: Infinity War ที่ร้ายกาจกว่านั้นคือ พวกเขายังกล้าหาญถึงขั้นตัดตัวละครสำคัญไปตั้งแต่หนังผ่านไปไม่กี่นาที ในแบบที่ทำให้ผู้ชมถึงกับอึ้งว่า ที่สุดแล้วเหล่าอเวนเจอร์สที่ยังมีชีวิต ต้องทำยังไงเพื่อจะพาผู้คนและเพื่อนๆ ที่กลายเป็นฝุ่นไปแล้วครึ่งจักรวาล กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
​แต่ท้ายที่สุดทั้งสองคนก็พาตัวละครออกไปปฏิบัติภารกิจได้อย่างน่าติดตาม และมีเป้าหมายให้จัดการจนได้
​รวมไปถึงกล้าที่จะทำให้ตัวละครที่มาพร้อมภาพลักษณ์เท่ๆ แมนๆ กลายเป็นขั้วตรงข้าม ในแบบที่แม้จะดูตลกหากก็รู้สึกสงสารถึงความกดดันที่เขาต้องแบกรับเอาไว้
​หากนั่นก็ไม่ใช่ความกล้าหาญเพียงอย่างเดียวของคนทำงานผู้อยู่เบื้องหลังของ Avengers: Endgame เพราะกับบรรยากาศในการเล่าเรื่อง โทนของหนัง โจกับแอนโธนี รุสโซสองพี่น้องที่ทำงานร่วมกับมาร์เวลในหนัง Captain America สองเรื่องหลังสุด และ Avengers: Infinity War ยังกล้าที่จะทำออกมาต่างจากหนังทั้ง 21 เรื่องก่อนอย่างชัดเจน นี่คือหนังในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่ถูกนำเสนอได้อย่างอ้อยสร้อย ราวกับจะให้ผู้ชมค่อยๆ ซึมซับกับทุกนาทีของหนังอย่างช้าๆ เดินหน้าไปอย่างเนิบนาบ ชนิดที่ผู้ชมซึ่งคาดหวังความมันส์ในแบบที่เคยพบจากหนังเรื่องก่อนๆ โดยเฉพาะ Avengers: Infinity War อาจจะต้องผิดหวัง หรือคนที่คุ้นชินกับการเล่าเรื่องที่เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว เปี่ยมไปได้สีสันฉูดฉาดอาจจะต้องขัดใจ
​แต่กับแฟน และคนที่ติดตามกันมาแบบไม่ต้องถึงกับฮาร์ดคอร์ แต่แบบเกาะติดใช้ได้ นี่คือหนังที่ทำให้ได้ใช้เวลารำลึกถึงตัวละครและเรื่องราวที่ผ่านมาในหนัง 21 เรื่องได้จริงๆ แล้วมองในอีกมุมหนึ่ง Avenger: Endgame และ Avengers: Infinity War ไม่ต่างไปจากหนังที่ 'โคตร' ยาวเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อหาเชื่อมต่อกัน ที่กลางเรื่องของมันก็คือช่วงครึ่งเรื่องหลังของหนังเรื่องแรกและครึ่งเรื่องแรกของหนังเรื่องหลังพอดิบพอดี
​หากสังเกตดูที่การวางจังหวะอารมณ์ของหนังช่วงต่อที่ว่าของหนังทั้งสองเรื่อง คือช่วงเวลาที่พาอารมณ์ผู้ชม รวมไปถึงตัวละครดิ่งถึงที่สุด เมื่อต้องเจอกับความสูญเสียในแบบที่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือไว้ก่อนหน้า และไปๆ มาๆ ความหวังก็ยังสูญสลายไปอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก ไม่แปลกที่บางคนจะต้องเขาสถานฟื้นฟูสภาพจิตใจ บางคนกลายเป็นขี้เมายำเป บางคนกลายเป็นศาลเตี้ย บางคนจมอยู่กับความทรงจำเก่าๆ
​แต่พอเวลาใน Endgame ผ่านไป สถานการณ์ต่างๆ และอารมณ์ของผู้ชมก็ค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดจบลงอย่างสวยงามในแบบความเศร้าที่แสนอบอุ่น ผ่านตัวละครที่เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลก็ว่าได้
​อย่างที่บอกเอาไว้ หนังอาจจะไม่ถึงกับบันเทิงเริงใจสุดๆ หากต้องการความสนุกในแบบที่เคยได้รับจากหนังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล 21 เรื่องก่อนหน้า แต่ก็ได้แทนมาเป็นความซาบซึ้งประทับใจ ที่ Avengers: Endgame สามารถปิดฉากเรื่องราวสิบปีแรกของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลลงได้อย่างสวยงาม
​รวมไปถึงทำให้หนัง 21 เรื่องรวมถึงตัวมันเอง อยู่ในความทรงจำของผู้ชมตลอดไป…
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1279 ปักษ์แรก พฤษภาคม 2562
อ่านวิจารณ์ Bad Times at the El Royale หนังเรื่องล่าสุดของผู้เขียนบท/กำกับ The Cabin in the Woods ได้ที่นี่ > https://www.blockdit.com/articles/5cd14988f0e0df404c6ee044
อ่านเแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด่วยกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos
โฆษณา