Blockdit Logo (Mobile)
หนังสะเด่าส์ - เพลงสะเด็ด
•
14 พ.ค. 2019 เวลา 13:00 • บันเทิง
ดูมาแล้ว - THE HIGHWAYMEN เรื่องเล่าของบอนนีและไคลด์ ในอีกมุมหนึ่ง
THE HIGHWAYMEN: บทสรุปของหนังเรื่องใหม่จากจอห์น ลี แฮนค็อค ผู้กำกับ Saving Mr. Banks และ The Blind Side ที่ทำให้ซานดรา บูลล็อคได้รางวัลออสการ์ไปครองเรื่องนี้ก็คือ เป็นงานที่ดีเกินกว่าจะอยู่ในจอสี่เหลี่ยมของเน็ทฟลิกซ์ และในขณะเดียวกันก็เป็นงานที่ด้อยเกินกว่าจะฉายตามโรง แม้จะเป็นหนังเน็ทฟลิกซ์อีกเรื่องที่เปิดฉายโรงก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในระบบให้สมาชิกกดรีโมทเลือกชมกันก็ตามที
​หนังเป็นเรื่องของแฟรงค์ ฮาเมอร์ และมานีย์ กอลท์ สองอดีตเท็กซัส แรงเจอร์ ที่ถูกปลดระวางไปแล้วหลังหน่วยถูกปิด รายแรกมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้บริษัทน้ำมัน ส่วนรายหลังกลายเป็นคุณตาแก่ๆ ที่คอยช่วยลูกสาวดูแลหลาน แต่เมื่อโจรคู่รักนักปล้นธนาคาร ไคลด์ แบร์โรว์กับบอนนี พาร์เคอร์และแก๊งกำเริบเสิบสานอย่างหนัก มิเรียม เฟอร์กูสันผู้ว่าการรัฐเท็กซัสไม่มีทางเลือก ต้องทำตามคำแนะนำของลี ซิมมอนส์ ผู้อำนวยการตำรวจของรัฐ จ้างสองเท็กซัสแรงเจอร์ที่ดูหมดน้ำยาแล้วมาทำหน้าที่อีกครั้ง แต่เพื่อความชัวร์ เธอเองก็ยังมอบหมายหน้าที่ให้เอฟบีไอทำคดีขนานไปด้วย
​เรื่องราวจะเกาะติดไปกับชีวิตและการทำงานฮาเมอร์และกอลท์ ที่ต้องทำงานต่อสู้กับทั้งสังขารของตัวเอง และเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่ยุคใหม่ เพื่อจัดการกับแก๊งของบอนนีและไคลด์ หนังถือว่าได้ตัวละครที่มีรายละเอียดมีปูมหลังที่น่าสนใจมาใช้งานตั้งแต่ต้น ขณะที่เรื่องราวที่เล่าก็เป็นอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากที่เคยนำเสนอ เพราะเท่าที่จำได้ส่วนใหญ่จะเป็นมุมมองของตัวไคลด์และบอนนีมากกว่า (อย่าง งานคลาสสิค Bonnie and Clyde หนังปี 1967 ของอาร์เธอร์ เพ็นน์) และหนังก็เลือกนักแสดงมาเล่นเป็นฮาเมอร์และกอลท์ได้ถูกคู่ จากการใช้บริการของเควิน คอสท์เนอร์ และวูดี ฮาร์เรลสัน (ตามลำดับ) ทั้งสองคนเล่นกันได้อย่างเข้าคู่เข้าขา แม้จะเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ต่างพันธุ์ ต่างทัศนคติกัน แต่ก็มีเรื่องของความมุ่งมั่น เป็นคนที่กัดไม่ปล่อยเหมือนๆ กัน และให้การยอมรับกันในที แม้จะไม่มีการแสดงออกมาให้เห็นก็ตาม
​ทั้งคู่ให้ภาพของเสือแก่ที่ยังมีเขี้ยวเล็บที่อยากออกล่า ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะความกระตือรือร้นเมื่อได้รู้ว่าเหยื่อกำลังจะใกล้เข้ามา และในเวลาเดียวกันก็แสดงถึงความเก๋า ความเขี้ยวประสบการณ์ ที่ทำให้พวกเขาเดินนำหนุ่มๆ จากเอฟบีไอ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีแต่ขาดการสร้างสมมติฐาน หรือประมวลเหตุการณ์จากหลักฐานที่มีอยู่ ที่เป็นเรื่องของชั่วโมงบินล้วนๆ
​แล้วกับมุมมองทางสังคม หนังยังเสนอภาพของนักการเมืองที่ห่วงเรื่องเก้าอี้ของตัวเอง จนกลายเป็นคนต้องตีสองหน้า ทั้งให้ดาบกับลี ซิมมอนส์ที่ส่งต่อไปให้ฮาเมอร์กับกอลท์อีกที ทั้งยื่นมีดให้เอฟบีไอจัดการกับบอนนีและไคลด์ไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะกวาดความสำเร็จไปเพียงลำพัง
​รวมไปถึงเรื่องของคนดัง ที่การกระทำ 'ดี' บางอย่างถูกนำมากลบลบความชั่ว ความเลวร้ายที่ตัวเองทำลงไป ตลอดจนภาพลักษณ์ที่ดูดี เก๋ เท่ ก็ช่วยทำให้คนชั่วกลายเป็นฮีโรในสายตาของคนส่วนใหญ่ ซึ่งจะว่าเป็นแล้วเป็นประเด็นที่เข้ายุคเข้าสมัยกับโลกโซเชียลมากๆ ที่ทุกวันนี้ขอให้ได้ดังไว้ก่อนไม่ว่าจะทำดีหรือทำเลว และบอนนีกับไคลด์ก็กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของยุคนั้นทั้งๆ ที่เป็นโจร ปล้นธนาคาร สังหารเจ้าหน้าที่และผู้คนอย่างเหี้ยมโหด แต่เรื่องของการปล้นธนาคารเอาเงินเพียงเศษมาหว่านให้คนจนๆ และภาพลักษณ์ที่ดูดี กับเสียงลือที่เล่าอ้างจนพวกเขาใหญ่เกินตัวจริงๆ กลบไปจนหมด
​หนังมีอะไรหลายอย่างที่แข็งแรง แต่ท้ายที่สุดแล้วบทของจอห์น ฟัสโค ก็ไม่ได้หยิบมาเล่นจริงๆ จังๆ ตัวแฮนค็อคเองก็ไม่ได้ขยี้แบบเน้นๆ อย่างเรื่องการตามล่าแก๊งโจรหนุ่มสาวของสองเสือเฒ่า ก็ออกมาดูเบาๆ ความกดดันจากสังขารก็ไม่ถูกขับเน้นมากนัก ยังดีที่หนังได้ปมเบื้องลึกของพวกเขามาทำให้มีน้ำหนักในเรื่องความสัมพันธ์ โดยเฉพาะเรื่องราวตอนพบกันครั้งแรกของเฮเมอร์กับเมนีย์ ที่ถูกเล่าในช่วงเวลาก่อนไคลแม็กซ์สำคัญของหนังจะมาถึง ที่แสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจของเฮเมอร์ ที่ทำทุกอย่างไปตาม 'หน้าที่' ก่อนจะสรุปปิดท้ายให้เห็นถึงความรู้สึกของเขา ที่ทำลงไปก็เพราะเป็นเรื่องของงาน ต่อให้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เคยเก็บเอามาเป็นความภาคภูมิใจ
​หากหนังทำได้ด้วยหัวใจของคนอย่างเฮเมอร์ก็คงดี เพราะเชื่อว่า The Highwaymen น่าจะออกมาดุเดือด เข้มข้นมากกว่านี้แน่นอน
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1279 ปักษ์แรก พฤษภาคม 2562
อ่านวิจารณ์ Bad Times at the El Royale หนังเรื่องล่าสุดของผู้เขียนบท/กำกับ The Cabin in the Woods ได้ที่นี่ > https://www.blockdit.com/articles/5cd14988f0e0df404c6ee044
อ่านเแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด่วยกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา