20 พ.ค. 2019 เวลา 07:21 • การศึกษา
ทำความเข้าใจกับ.. "การยุติการใช้ถ่านหิน" ของ"เยอรมนี"
ในฐานะที่เป็นผู้นำยุโรป เยอรมันมีพันธสัญญาต่อประชาคมในการที่จะร่วมขจัดสภาวะโลกร้อน
ภาพ DW.COM
สาเหตุหลักๆก็คือจากการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ถ่านหินน้ำมันและก๊าซ มันสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกซึ่งนำไปสู่ภาวะโลกร้อน
แต่ทำไมถึงให้ความสำคัญกับถ่านหิน?
นี่คือข้อเท็จจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับ..
"ทางออกของเยอรมนีจากถ่านหิน"
1. ทำไมต้องพูดเรื่องการเลิกใช้ถ่านหิน?
ย้อนกลับไปในยุคเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรม อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น 1 C°
สาเหตุหลัก ๆ คือ การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จนเกิดการสะสมตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศเกิดเป็นภาวะเรือนกระจกซึ่งนำไปสู่ภาวะโลกร้อน
ซึ่งหากเรายังคงเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไปอุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นประมาณ 4 C°
ในปลายศตวรรษนี้ และอาจมากกว่า 7 C°
ในปี 2200 ซึ่งการเพิ่มขึ้นระดับนี้ถือเป็นหายนะภัยแห่งมวลมนุษย์กันเลยทีเดียว
ตาม"ข้อตกลงปารีส" มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันสภาวะนี้ โดยระบุว่าอุณหภูมิไม่ควรสูงกว่า 1.5 องศา
รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) และหน่วยงานสหประชาชาติอื่น ๆเตือนว่า
เราไม่สามารถเสียเวลาได้ ภายในปี 2030 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกจะต้องลดลงครึ่งหนึ่ง และตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050
แม้การพัฒนาเทคโนโลยีจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่การเอาก๊าซเรือนกระจกออกจากชั้นบรรยากาศจะต้องใช้เทคนิคและค่าใช้จ่ายมาก
📌 ดังนั้น จะดีกว่าไหมถ้าหันมาหยุดการผลิต CO2 ร่วมกันซึ่งประหยัดและง่ายกว่า
ภาพ DW.COM
2. ทำไมต้องมุ่งเน้นไปที่ถ่านหินและไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆ ?
สาเหตุเพราะ ถ่านหินเป็นอันตรายต่อสภาพอากาศมากกว่าน้ำมันและก๊าซ
และจริงๆแล้ว เราสามารถทดแทนความต้องการไฟฟ้า ได้ด้วย "พลังงานแสงอาทิตย์" และ"พลังงานลม" ได้อย่างง่ายดาย
ที่ปรึกษาสภาสิ่งแวดล้อมเยอรมัน (SRU) กำหนดโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายสามารถปิดตัวลงในปี 2033 ซึ่งการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินจะไม่เป็นอันตรายต่อการใช้พลังงานไฟฟ้า
แต่ถ้าเราต้องการให้บรรลุเป้าหมาย 1.5 องศาเราจะต้องเปลี่ยนให้เร็วกว่านี้
ภาพ DW.COM
3. คณะกรรมาธิการถ่านหินของเยอรมนีทำหน้าที่อะไร?
ในปี 2010 รัฐบาลเยอรมันได้นำเป้าหมายไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2015 ทั่วโลกมารวมตัวกันในปารีสเพื่อวางสัตยาบันในการจำกัดภาวะโลกร้อนร่วมกันให้อยู่ที่ 1.5-2 องศา
ทางเยอรมนีได้ให้สัตยาบันต่อข้อตกลงของสหประชาชาติแต่ยังไม่ได้เพิ่มเป้าหมายการปกป้องสภาพภูมิอากาศเพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ตกลงกันในปารีส
ในเดือนมิถุนายน 2018 รัฐบาลได้สร้างคณะกรรมาธิการการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการจ้างงาน หน้าที่คือ
- การเตรียมข้อเสนอในการจัดการกับการปล่อยก๊าซคาร์บอน
- การปกป้องสภาพภูมิอากาศ
- การแก้ไขภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกใช้ถ่านหิน
อุตสาหกรรมถ่านหินในเยอรมัน ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออก
มีคนงานประมาณ 20,000 คนในอุตสาหกรรมลิกไนต์ของเยอรมนี ซึ่ง 15,000 คนทำงานในเหมืองหลุมเปิด และ 5,000 คนในโรงไฟฟ้าลิกไนต์
ความสำคัญของอุตสาหกรรมถ่านหินในเยอรมนีลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในช่วงปี 1960 มีคนงานครึ่งล้านคน ทำงานในเหมืองถ่านหินสีดำ
ในขณะที่ 150,000 คนทำงานด้าน
เหมืองถ่านหินสีน้ำตาล
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ทำให้มีพนักงานในภาคพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น จากตัวเลขล่าสุดของปี 2016 มีพนักงานประมาณ 280,000 คน
ภาพ DW.COM
4. การเลิกใช้ถ่านหินในเยอรมนีมีราคาแพงแค่ไหน?
อุตสาหกรรมถ่านหิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันออกเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาลมากถึง 70 พันล้านยูโร ซึ่งเมื่อเทียบกับการปล่อย CO2 ในระยะยาว ถือเป็นรายจ่ายที่ยอมรับได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องใช้การเจรจากัน
ภาพ DW.COM
5. ความร่วมมือของประชาชน
จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยเซนต์กาลเลินในประเทศสวิตเซอร์แลนด์พบว่า
ชาวเยอรมันร้อยละ 75 ต้องการให้รัฐบาลของพวกเขาตั้งเป้าหมายการออกจากการใช้ถ่านหินโดยเร็วที่สุด และยอมรับได้กับราคาพลังงานที่อาจเพิ่มขึ้น
การเรียกร้องให้มีการเลิกใช้ถ่านหิน ภาพ DW.com
รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะจัดหาเงินทุนสำหรับการแก้ปัญหาที่รับผิดชอบต่อสังคมสำหรับคนงาน เช่นการหางานใหม่และโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่รวมถึงอาจให้ผลตอบแทนแก่ บริษัท ที่ได้รับผลกระทบ
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
20.05.2019
💬 หากถูกใจบทความนี้ ก็อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ เเละกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ทางเพจกันด้วยนะคะ ทุกกำลังใจสำคัญเสมอ
ขอขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านนะคะ
โฆษณา