3 มิ.ย. 2019 เวลา 07:43 • ธุรกิจ
เริ่มลงทุนหุ้น ต้องมีอะไรบ้าง และ ต้องรู้อะไรบ้าง ?
หนึ่ง ต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้น ...บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร ..ไปเปิดพอร์ตกันเลยครับ !!
สอง เอาเงินโอนเข้าไปใส่พอร์ตเพื่อเตรียมซื้อขายหุ้น ...เอางี้ คุณอาจไม่ทราบว่า แค่คุณโอนเงินจากบัญชีธนาคารของคุณ มาเข้าพอร์ตหุ้น คุณก็จะได้ดอกเบี้ยประมาณปีละ 1.1 % (เท่ากับว่า แค่คุณโอนเงินมารอซื้อหุ้น ..แต่ยังไม่ได้ซื้อ เขาเงินพักรอไว้ในพอร์ตหุ้น ...คุณก็ได้ผลตอบแทนมากกว่าวางเงินไว้ในบัญชีธนาคารประมาณ 2 เท่าแล้ว)
สาม “ศึกษาการลงทุนในหุ้น”
ดังนี้
1
คำถามแรก “การลงทุนในหุ้นมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?”
ตอบ การลงทุนมี 2 แบบ คือ
หนึ่ง “ลงทุนระยะยาว ก็ซื้อแล้วถือเป้นเจ้าของ แล้วรับปันผล โตและรวยไปกับบริษัท”
สอง “ลงทุนระยะสั้น” หรือ ที่เรียกว่า “นักเก็งกำไร” ก็คือ การเป็นเทรดเดอร์นั่นแหละ (อันนี้ต้องศึกษา เรื่อง กราฟหุ้น แล้วศึกษาเรื่องจังหวะในการซื้อขาย)
1
มาเริ่มคุยกันก่อนว่า ถ้าจะลงทุนแบบแรก คือ “ลงทุนระยะยาว” จะต้องรู้อะไร บ้างและต้องทำอะไรบ้าง ?
การลงทุนระยะยาว ต้องรู้อะไรบ้าง ?
การลงทุนระยะยาว ต้องมี 3 รู้ คือ
1
หนึ่ง “รู้ Mindset” คือ “รู้วิธีคิดของนักลงทุน” ดังนี้ การลงทุนในหุ้น มีผลตอบแทน 2 รูปแบบ คือ แบบแรก ผลตอบแทนจากเงินปันผล อันนี้ซื้อหุ้นแล้วถือเฉยๆ ก็ได้แล้ว ไม่ต้องทำอะไร / แบบสอง คือ ผลตอบแทน จากส่วนต่างของราคา ซึ่งโดยปกติถ้าเราลงทุนระยะยาว เราถือหุ้นในบริษัทที่ดี หุ้นก็จะโตขึ้น มูลค่าสูงขึ้น ตามกิจการที่เติบโตขึ้น ก็คือ ในระยะยาว มูลค่าของกิจการที่ดี ที่เราซื้อแล้วถือหุ้นเป็นเจ้าของก็จะโตไปเรื่อยๆ เราก็จะรวยตาม
แต่สิ่งที่ควรต้องรู้คือ ในภาวะปกติ หุ้นที่ดี ย่อมราคาไม่ถูก เช่น หุ้น 7-11 , หุ้นโรงพยาบาล หรือ หุ้นของกิจการที่ดีๆ ในภาวะปกติ ก็มักจะมีราคาสูง ...ไม่ถูกว่างั้น ..การที่เราจะสามารถซื้อหุ้นเหล่านี้ได้ในราคาถูก เราก็รอให้บริษัทเหล่านี้มีข่าวร้าย หรือ มีวิกฤต
1
...การลงทุนระยะยาว จึงต้องทำความเข้าใจประเด็นนี้ให้ดี เราต้องกล้าซื้อหุ้นในเวลาวิกฤต ทั้งในเวลาที่ตลาดหุ้นมีวิกฤต หรือ ธุรกิจมีวิกฤต
1
“Mindset ที่ถูกต้องของนักลงทุนระยะยาว ก็คือ ต้องกล้าซื้อหุ้นในเวลาวิกฤต แล้วก็ต้องกล้าถือทนรวยนั่นเอง”
สอง “รู้งบการเงิน” ..การจะวิเคราะห์ได้ว่า หุ้นที่อยากจะซื้อมีราคาถูก หรือ แพง ก็ต้องรู้วิธีการอ่านงบการเงิน ซึ่งเบื้องต้น เรามีวิธีการอ่านง่ายๆ โดยดูจาก 3 ค่า คือ P/E , P/BV และ Dividend Yield
1
พอเราอ่านงบการเงินเป็นเราก็จะสามารถแยกแยะได้ว่า หุ้นตัวไหนมีราคาถูก หุ้นตัวไหนมีราคาแพง
ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นแล้วขาดทุน หรือ ซื้อหุ้นแล้วติดดอย ก็เพราะ เขาดันไปซื้อหุ้นเวลามันแพง ...พอตลาดเกิดวิกฤต ราคาหุ้นก็ตกลงกว่าราคาที่ซื้อ ก็ขาดทุนได้ หรือ เรียกว่า “ติดดอย” นั่นเอง
1
ทางแก้ก็คือ ศึกษาแล้ว ฝึกอ่านงบการเงินแบบง่ายๆ ตามที่สอน แล้วค่อยๆ เพิ่มพูนประสบการณ์จากการลงทุนให้เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปครับ
สาม “รู้กราฟ หรือ รู้จังหวะ” อันเกี่ยวเนื่องกับข้อที่สอง ที่คนส่วนใหญ่ที่เสียหายจากการลงทุนในหุ้น เพราะ ซื้อหุ้นผิดจังหวะ คือ ไปซื้อตอนราคาหุ้นแพง
การอ่านกราฟ จะช่วยให้เราเห็น “รอบ” การขึ้นลงของราคาหุ้น ซึ่งจะช่วยให้เราซื้อหุ้นได้ถูกจังหวะ แม่นยำมากขึ้น
ทั้ง 3 รู้ที่กล่าวมา เป็นการรู้เบื้องต้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดี แต่การจะเก่งหุ้นและรวยจากหุ้น ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ด้วยเช่นกันครับ
1
#เครื่องจักรผลิตเงิน
โฆษณา