5 มิ.ย. 2019 เวลา 12:01 • การศึกษา
“ทำไงดี อยู่เฉยๆ รถ (หรือของอย่างอื่น) ก็ถูกยึดเป็นของกลาง !?”
Cr. pixabay
เคยมั้ยครับ ที่อยู่ดี ๆ รถที่ให้ลูกชายตัวแสบเอาไปใช้ ดันขับไปชนคนอื่น หรือ ปืนที่เราสะสมไว้ อยู่ดี ๆ เพื่อนเราก็แอบเอาไปใช้ทำความผิด
ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นกับเรา รับรองว่าถึงคราวซวยแล้วครับ
เพราะสิ่งของที่ถูกเอาไปใช้ทำผิดกฎหมาย เช่น รถคันที่ขับชนคนอื่นเสียชีวิต หรือปืนที่เอาไปใช้ชิงทรัพย์ สิ่งของเหล่านั้นจะต้องถูกริบไว้ตามกฎหมาย เพราะเป็นสิ่งของที่ใช้ในการกระทำความผิด (ของกลางที่เราเรียกกัน)
ถ้าสิ่งของเหล่านั้นเป็นของคนที่ทำความผิดเองก็คงไม่มีปัญหาอะไร และคงต้องยอมให้ริบไป
แต่ถ้าของที่ถูกริบไปเป็นของเรา และเราก็ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับการทำผิดนั้น จะทำยังไงล่ะทีนี้ ? จะขอคืนได้มั้ย ??
เรื่องนี้ กฎหมายกำหนดขอบเขตไว้ โดยสิ่งของที่จะถูกริบเป็นของกลางได้นั้น จะต้องเป็นสิ่งของที่ทำ หรือมีไว้เป็นความผิด เช่น ยาเสพติด อาวุธสงคราม (สิ่งของต่าง ๆ ที่กฎหมายห้ามมีไว้ครอบครอง) หรือ
สิ่งของที่ได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด เช่น รถยนต์ โดยสภาพไม่ใช่สิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด แต่เมื่อรถยนต์ได้ถูกใช้ในการทำความผิด เช่น ใช้ขนยาเสพติด หรือขับรถไปชนคนอื่น รถยนต์จึงเป็นสิ่งของที่ได้ใช้กระทำความผิด
โดยสิ่งของเหล่านี้ ศาลจะสั่งให้ริบไว้เป็นของกลาง 😥
เว้นแต่ เจ้าของสิ่งนั้น สามารถแสดงให้ศาลเห็นได้ว่าตนเองไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการทำความผิด
ปัญหาคือ อย่างไรถึงเรียกว่าไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำความผิด
ตัวอย่าง โทรศัพท์ที่เราถูกขโมยเอาไป หรือ กระเป๋าสตางค์ที่ถูกล้วงไป อย่างนี้ ชัดเจนว่าเจ้าของไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำความผิด
แต่ถ้าเหตุการณ์ที่ไม่ชัดเจนว่าเจ้าของรู้เห็น หรือไม่รู้เห็นในการทำความผิดล่ะ
ตัวอย่าง ถ้าพ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง วางกุญแจรถไว้ในที่เก็บประจำ และอนุญาตให้ลูกเอาไปใช้เมื่อไหร่ก็ได้ อย่างนี้ ถ้าเค้าได้เอาไปใช้ทำความผิด พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้
เพราะกฎหมายถือว่าไม่ได้ใช้ความระมัดระวังที่จะป้องกันไม่ให้ลูกเอารถใช้ในทางที่ผิด และถือว่า พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รู้เห็นเป็นใจด้วย
แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า ได้ป้องกันไว้ดีพอสมควรแล้ว เช่น เอากุญแจเก็บไว้ในที่มิดชิด และไม่อนุญาตให้ใช้รถ หรือเข้มงวดในการใช้รถพอสมควร ถ้าลูกเอารถไปใช้ทำความผิด เช่น ขับไปชนคนอื่น อย่างนี้ พ่อ แม่หรือผู้ปกครอง สามารถอ้างว่า ไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำความผิดนั้นได้
อันนี้สำคัญ !!! การขอคืนของกลางนั้น เจ้าของจะต้องร้องต่อศาลภายใน 1 ปี นับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด
แต่ถ้าไม่ทำตามที่เวลากำหนดไว้ สิ่งของที่ยึดไว้จะตกเป็นของแผ่นดินครับ
ขอบคุณรูปสวยๆ จาก pixabay
ถ้าได้ประโยชน์จากบทความนี้ ช่วยกดถูกใจ และติดตามผลงานด้วยนะครับ 😻

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา