18 มิ.ย. 2019 เวลา 07:34 • ธุรกิจ
ความลับทางการตลาดที่คนส่วนมากไม่รู้.......ทำไมธุรกิจรายใหม่จึงล้มเหลวและธุรกิจรายเดิมจึงถดถอย?
เคยไหมที่ก่อนทำการตลาดก็ศึกษาอบรมทั้งวิธีคิดและวิธีการต่างๆมากมากมาย ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบหรือแม้กระทั่งจ้างนักบริหารมืออาชีพมาทำงานให้ แต่ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง บางครั้งก็ไม่สำเร็จไปเลยสุดท้ายต้องเลิกกิจการหรือขายกิจการนั้นไปแบบสุดช้ำ
"ยุคใหม่การตลาดของไทย" เองได้ตกตะกอนเรื่องนี้จากการทำงานในห้างที่มุ่งเน้นในการค้าส่งซึ่งผลประกอบการดีมากทั้งยอดขายและกำไรรวมถึงการเติบโตของธุรกิจ จึงได้มีโอกาสได้ย้ายมาอยู่อีกห้างที่เป็นธุรกิจข้ามชาติที่มีสาขาทั่วโลกที่มีขนาดธุรกิจใหญ่กว่าที่เดิมมาก แต่ทว่ากว่าจะทำให้เกิดผลลัพธ์แต่ละอย่างแต่ละเรื่องพบว่าแสนสาหัสมาก ต้องเผชิญหลายสิ่งอย่างรวมทั้งบางครั้งยังถูกร้องเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม(อันนี้ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถูกร้องเรียนก็ไม่รู้เพราะทำให้ยอดขายเติบโต) สุดท้ายก็เหนื่อยหน่ายที่จะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้เพราะนอกจากจะไม่ได้แล้วยังเสียทั้งเวลาทั้งสุขภาพ และยังทำให้หลายคนไม่ชอบใจด้วยเพราะเพิ่มงานให้เขา
วันหนึ่ง "ยุคใหม่การตลาดของไทย" ได้เข้าใจในเรื่องนี้อย่างแท้จริงจากอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งต้องยอมรับว่าท่านทั้งเก่งเรื่องการสอนมีความรู้จริงและยังมีทักษะการถ่ายทอดในระดับสูงท่านหนึ่ง ที่ท่านบอกว่านักศึกษาได้เกรด A ทุกคนในวิชาที่อาจารย์สอน ถ้าหากมองในมุมจากอดีตก็คงมองว่าอาจารย์ปล่อยเกรดเอาใจนักศึกษา แต่ทว่าไม่เลยกลับกลายเป็นว่าวิชาที่เป็นวิชาเลือกในตอนนั้นกลายมาเป็นวิชาหลักของหลักสูตรปริญญาโทในตอนนี้ จากสิ่งที่อาจารย์ทำให้ลูกศิษย์ได้เกรด A ทุกคน
แล้วเกี่ยวอะไรกับหัวข้อข้างต้นหรือ บอกเลยครับเกี่ยวเต็มๆเลย เพราะการที่ทำให้นักศึกษาได้เกรด A ทุกคน การสอนต้องเป็นการสอนที่ไม่ซับซ้อน ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริง ซึ่งผู้เขียนเคยเคยคิดว่าถ้ามีโอกาสสอนผู้เขียนจะให้นักศึกษาได้ A น้อยที่สุด เพื่อที่จะภูมิใจว่าสอนเก่ง แต่กลับกันนั่นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่ "ยุคใหม่การตลาดของไทย" คิดไว้ผิดมากเพราะการที่คนได้เกรด A น้อย แสดงว่าสอนไม่ได้คุณภาพมีคนรู้เรื่องที่สอนน้อยนะสิครับ เนื่องจาก "ยุคใหม่การตลาดของไทย" สร้างความซับซ้อนในการสอนแทนที่จะหาทางสอนให้ผู้เรียนเข้าใจได้ไม่ยาก
ย้อนกลับไปในช่วงที่ทำงานในห้างค้าปลีกข้ามชาติ มีช่วงหนึ่งที่มีผู้ออกแบบตารางเพื่อที่จะใช้ในการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสินค้าเพื่อลดอัตราการสูญเสียส่งมาให้ "ยุคใหม่การตลาดของไทย"กรอกข้อมูล เมื่อได้เห็นต้องร้องออกมาเลยว่าพระเจ้าคิดได้อย่างไรเนี่ย ตารางอะไรกันที่เชื่อมโยงข้อมูลมากกว่า 300 ช่อง เป็นตารางที่ซับซ้อนมากๆเท่าที่เคยทำมา จนทำให้ผู้เขียนจำขึ้นใจเลย การกรอกแต่ละรายการต้องใช้เวลานานและไม่รู้ว่าสิ่งที่กรอกลงไปถูกหรือผิด ถ้าหากอยากรู้ต้องกลับไปตรวจสอบอีกมากกว่า 300 ช่องที่เกี่ยวข้องต่อ 1 รายการสินค้า (item) แน่นอนว่าคนออกแบบมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลที่ได้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ทว่ากลับทำให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องสูญเสียเวลาและอ่อนหล้าอย่างมาก สุดท้ายผลที่ได้คือไม่สามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงได้เลย เนื่องจากมีคนเข้าใจน้อยมากๆหรือใช้คำว่าไม่มีคนเข้าใจเลยก็ได้
นี่คือคำตอบว่าหลายองค์กรหน่วยงานหรือธุรกิจเกิดใหม่และธุรกิจดั้งเดิมต้องล้มหายตายจากไปจากตลาด ทั้งที่เอาระบบอะไรมากมายมาใช้ให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม จนลืมไปว่ามันจำเป็นหรือไม่
ลองย้อนกลับไปดูสิว่าเราเคยประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นจากการสร้างกระบวนการซับซ้อนในการทำงานมาก่อนหรือไม่ "ยุคใหม่การตลาดของไทย" กล้าฟันธงเลยว่าจากประสบการณ์มากว่า 30 ปีไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยกับธุรกิจที่เพิ่มกระบวนการเพิ่มจำนวนคนที่เกี่ยวข้อง จนคนทำงานขยับตัวทำอะไรแทบไม่ได้เลย รวมถึงการเพิ่มขั้นตอนความยุ่งยากกับคู่ค้าที่ต้องติดต่อด้วยแล้วทำให้ธุรกิจเติบโตได้
ไม่ใช่ว่า "ยุคใหม่การตลาดของไทย" ไม่เห็นประโยชน์ในการเพิ่มระบบใหม่ๆเข้าไปนะครับ "ยุคใหม่การตลาดของไทย" ก็เป็นคนหนึ่งที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆเข้าสู่องค์กรทุกแห่งที่ได้ร่วมงาน แต่ด้วยวัตถุประสงค์ตรงกันข้ามคือการช่วยลดกระบวนการเพิ่มผลผลิตไม่ใช่การเพิ่มกระบวนการเพื่อตรวจสอบและป้องกันความผิดพลาด
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั่นคือการกลับไปสู่จุดเริ่มต้น (Back to the basic) และการทำให้ขบวนการทำงานง่ายขึ้น (Make it simple) ลดกระบวนการที่ไม่จำเป็น (Lean or Just in Time) แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องลดอะไรต้องเพิ่มอะไร รอติดตามตอนหน้าครับ..............
FB page : ThailanModermMarketing Blockdit: ยุคใหม่ของตลาดของไทย
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง
อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
โหลดที่ http://www.blockdit.com
โฆษณา