Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Learning Visual Diary
•
ติดตาม
29 มิ.ย. 2019 เวลา 13:20 • ธุรกิจ
Learning Visual Diary#6 : Habit #3 of 7 Habits
1
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เรายังอยู่ในซีรีย์ของ 7habits กันอยู่นะครับ สำหรับอุปนิสัยนี้จะต่างจาก 2 อุปนิสัยแรกที่เป็นวิธีคิด ขอทวนสั้นๆนะครับ เรื่องแรกคือ Be Proactive 🔥คือ ทำก่อน ชีวิตเราต้องเลือกเอง และอุปนิสัยสองคือ Beginwith the End in Mind ♥️ คือการมีเป้าหมายที่ขัดเจนในใจ สองเรื่องคือพื้นฐานแนวคิด ส่วนอุปนิสัย 3 จะเป็นแนวปฎิบัติแทน เป็นเรื่องที่เอาไปใช้ได้จริงครับ ผมเองก็พยายามจะใช้มันทางปฎิบัติเช่นกัน เชิญรับชมครับ
คือมันอย่างนี้ครับ...
อุปนิสัยที่ 3 Put First Things First
แกนของอุปนิสัยนี้คือการทำ time management ⌚ ครับ โดยแนวคิดหลักที่คุณโควีย์พูดไม่ใช่เรื่องที่แกคิดเอง(คุณโควีย์บอกอยู่แล้วว่า 7 habits เป็นการรวบรวมสิ่งที่เขาศึกษาและตกผลึกมา) แต่เป็นแนวคิดจากท่าน Dwight D. Eisenhower ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 34 ของสหรัฐฯ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 🛩️ ขณะที่ท่านเป็นนายพล👮♂️ ก็ได้ใช้แนวคิด Eisenhower Matrix ในการตัดสินใจ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักเจ้า Eisenhower Matrix ด้วยครับ
หลักการของ Eisenhower Matrix คือการแบ่งงานออกเป็น 4 แบบ โดยแบ่งตามแกนสองแกน แกนแรกคือ งานเร่งด่วนและไม่เร่งด่วน⚡️แกนที่สองคือ สำคัญและไม่สำคัญ 🌟จากสองแกนของงานที่ว่า เราก็แบ่งงานของเราได้เป็นสี่แบบครับ คือ สำคัญและเร่งด่วน สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน และสุดท้ายไม่สำคัญและก็ไม่เร่งด่วน ลองมาพิจารณาแต่ละประเภทนะครับ
1) สำคัญและเร่งด่วน เราเรียกงานแบบนี้ว่า Do First 1️⃣ ครับ เป็นงานที่ต้อง focus แบบสุดๆ เพราะมันสำคัญและต้องเสร็จเลย ต่างจากงานเผา ตรงที่ focus ต้องมาครับ ถ้าให้เห็นภาพงานแบบนี้ก็คือ งาน Ad hoc นายสั่ง อยากได้เย็นนี้อะไรงี้ ชีวิตจริงเราก็ manage ไม่ได้ทุกเรื่องครับ แต่อะไรที่ manage ได้ก็น่าจะไม่จำเป็นต้องเร่งด่วน (หรือต้องรอจนมันด่วน) เป้าหมายของงาน Do First คือการสร้าง focus และก็ต้องพยายาม minimize งานแบบนี้ครับให้เหลือแต่ที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตการจัดการของเราได้ยิ่งดี
2) สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน อันนี้เราเรียกว่า Schedule📑 คือเป็นงานที่สำคัญแต่เราวางแผนได้ ใน matrix นี้งานแบบนี้เรียกว่าสำคัญที่สุด ยิ่งมีเยอะยิ่งดี เพราะมันหมายถึงเรากำลังบริหารจัดการเรื่องสำคัญอยู่นั่นเอง ต่างกับงานแรกที่เรามีอำนาจควบคุมต่ำ งานที่เข้าข่าย schedule ก็คืองานการวางแผนทั้งหลาย การจัดการตารางงาน การคิดกลยุทธ กว้างไปกว่านั้น ก็คือ การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย วันที่คนออกไปออกกำลังกายมากที่สุดคือวันพรุ่งนี้ 🙄เราทุกคนทราบว่าเรื่องสุขภาพสำคัญ แต่มันไม่เร่งด่วนก็เลื่อนกันไป จนวันนึงเห็นผลตรวจสุขภาพ งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน มันก็กลายเป็นเร่งขึ้นมาทันทีเลยครับ (ประสบการณ์ตรงเลยครับ) จุดหลักคือ จงทำงานสำคัญแต่เนิ่นๆก่อนที่มันจะกชายเป็นงานด่วนนั่นเอง
3) ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน หรืองาน Delegate งานพวกนี้จะเกิดมากเลยโดยเฉพาะเวลาที่เราปล่อยชีวิตให้มันผ่านไปเรื่อยๆ ไม่มีแผน งานเหล่านี้ก็จะแทรกเข้ามาดูดเวลาเราอย่างไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างที่ classic เลยก็คือ การรับโทรศัพท์ ☎️ สายมันเข้ามามันก็ต้องรับ แต่พอคุยแล้วเป็นเรื่องไม่สำคัญเท่าไร แต่ก็ดูดเวลาไปเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่งการดูซีรีย์ บางคนงงว่ามันเร่งด่วนยังไง เพราะเราอยาก update กับกลุ่มไงครับ พรุ่งนี้ต้องมาเม้าส์เรื่องละคร คืนนี้ก็ต้องไปนั่งดูไม่งั้นคุยไม่รู้เรื่อง วิธีการจัการงานกลุ่มนี้ ต้อง delegate งานออกตามชื่อครับ งานบางอย่างไม่สำคัญกับเราแต่เป็นงานสำคัญคนอื่นก็มี แล้วเอาเวลาที่ได้มาไปทำงาน Schedule หรือ Do First ถ้าจำเป็น
4) ไม่สำคัญและก็ไม่เร่งด่วน แบบนี้ขอแนะนำง่ายๆเลยครับ คือ Don't Do 👎เป็นงานที่เราอาจจะพิจารณาได้ว่าไม่จำเป็นต้องทำ บางครั้งเป็นงานที่ล้าสมัยแล้ว ไม่เข้ากับวิธีทำงานปัจจุบันแล้ว
ผมคิดว่าการที่เราจะทำ time management โดยใช้ Eisenhower Matrix มีจุดสำคัญอยู่ 2ประการ (นอกจากแค่รู้ความหมายนะครับ)
ข้อแรก คือ ต้องพยายามสร้างพื้นที่ให้งานประเภทที่สอง (Schedule) มากที่สุด ลดงานประเภทแรกลง วิธีการก็คือ ต้องใช้เวลากับการวางแผนวางตารางเวลาเยอะๆ เพื่อให้งานสำคัญถูกจัดการก่อนที่มันจะเร่งด่วนเสมอ การที่เราเพิ่มขนาดงานแบบ schedule ได้ นอกจากจะทำให้การบริหารดีขึิน ยัวช่วยเรื่องพลังใจด้วยครับ will power❤️🔥 ของท่านจะเพิ่ม เพราะท่านชนะตัวเอง ปกติงานไม่ด่วนเรายังไม่ทำครับ ต้องชนะตัวเองถึงทำได้ แล้วมันจะสร้าง winning cycle 🥇 ต่อไปครับ มันจะ spin ต่อไปทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวครับ (ผมลองมาแล้ว ใช้ได้ครับ)
ข้อสอง ต่อจากอันแรก ต้องมีเวลา revisit งานหรือกิจกรรมที่เราทำเสมอ การทำ revisit ควรทำเป็น rountine เพื่อสร้างให้เกิดการตระหนักรู้ต่อสิ่งที่ทำตลอด รู้ว้าอะไรสามารถเปลี่ยนเป็นงาน Delegate ได้ อะไรเป็นงาน Don't Do เพื่อให้พื้นที่กับงาน Schedule นั่นแหละครับ
เป็นไงครับ อุปนิสัยนี้สาธยายซะยาวเลย ลองเอาไปคิดดู แบ่งกระดาษเป็นสี่ส่วนเขียนสิ่งที่ทำทั้งเรื่องงานและส่วนตัวนะครับ อาจจะทำให้ดราเห็นมุมใหม่ๆ อย่าลืมว่าทฤษฎีจะดียังไง สำคัญที่สุดก็คือการเริ่มลงมือครับ
3 อุปนิสัย ผ่านไปเพื่อเอาชนะตัวเอง เป็นชัยชนะส่วนตัวเพื่อให้เกิดภาวะพึ่งพาตนเองครับ ผ่านจุดนี้แล้วเราจะมาคุยต่อเรื่องการไปสู่ภาวะพึ่งพากันและกัน แล้วพบกันครับ
Happy Weekend
ขอบคุณครับ
ชัชฤทธิ์
P. S. ถ้าอยากทวนลองกลับไปดู post ก่อนหน้าเรื่อง 7Habits Intro และ Habit#1-2 ได้นะครับ
ชอบรบกวนช่วยกด like ให้หน่อยนะครับ 🙏
25 บันทึก
50
4
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
7 Habits in Summary
25
50
4
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย