2 ก.ค. 2019 เวลา 13:55 • ธุรกิจ
หลักทรัพย์ ASL x ออมสินกับ Model Business ที่เรียกว่า Banker to Broker
ในสภาวะเศรษฐกิจซบเซาในช่วงที่ผ่านมา คงจะมีหลายๆธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งมากและน้อยต่างกันไป แต่หลายๆคนคงลืมไปว่า บริษัทหลักทรัพย์ หรือ โบรกเกอร์(Broker) ก็มีช่วงขาลงของธุรกิจจากสภาวะของตลาดเช่นเดียวกันกับธุรกิจอื่นๆ
.
โบรกเกอร์ก็เปรียบเหมือนนายหน้าของนักลงทุนในตลาดหุ้น มีรายได้มาจากค่านายหน้าและค่าบริการ เมื่อตลาดหุ้นเป็นช่วงขาลง ก็ย่อมทำให้นักลงทุนใช้บริการน้อยลง ส่งผลให้โบรกเกอร์มีรายได้ที่น้อยลงเช่นกัน
.
จะเห็นได้จากกำไรสุทธิที่ลดลงของบรรดาบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ จากทั้ง 9 บริษัทมีเพียงแค่บริษัท เคจีไอ(KGI) ที่สามารถทำกำไรสุทธิได้มากขึ้นในปี 2561 ที่ผ่านมา
.
ส่วนรายที่เหลือคือ AEC, UOBKH, MBKET, ASP, FNS, CNS, FSS และ ZMICO ล้วนมีกำไรสุทธิที่ลดลง ทำให้เหล่าบริษัทหลักทรัพย์ต้องหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อการอยู่รอดและความก้าวหน้าของธุรกิจในสภาวะถดถอยให้ได้
.
จึงเป็นที่มาของโครงการ Banker to Broker ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมช่องทางการลงทุนร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ผ่านทางธนาคารต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเปิดบัญชีหุ้นผ่านธนาคารพาณิชย์และฝึกอบรมทักษะของพนักงานธนาคารในเรื่องการลงทุนและการวิเคราะห์หลักทรัพย์เพื่อนำความรู้มาบริการลูกค้า
ปัจจุบันโครงการ Baker to Broker ก็ได้ดำเนินมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว โดยมี 9 ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมได้แก่ ธ.กรุงเทพ. ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงศรี, ธ.กสิกรไทย, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.ธนชาต, ธ.ซีไอเอมบีไทย และมีสาขาของธนาคารร่วม 6,000 สาขาที่เข้าร่วมโครงการ
.
ซึ่งโครงการนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัวเลยทีเดียว จากเดิมที่มีจำนวนผู้เปิดบัญชีใหม่อยู่ที่ 9,601 รายและ Active จำนวน 3,602 รายเมื่อปี 2554 จากนั้นจึงได้มีตัวเลขผู้ใช้งานสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนในปี 2561 มีจำนวนผู้เปิดบัญชีใหม่ถึง 91,966 รายและ Active จำนวน 40,894 ราย และมีจำนวนบุคลากรที่ผ่านการอบรมแล้วกว่า 1,840 ท่าน
.
และล่าสุด ธนาคารออมสิน ได้ประกาศว่าได้ร่วมลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ เอแอสแอล จำกัด (ASL) ในสัดส่วน 25% ทำให้ธนาคารออมสินมีสิทธิในการร่วมกำหนดนโยบาย
.
โดยธนาคารออมสิน และ ASL มีแพลนการดำเนินโมเดลธุรกิจแบบ Banker to Broker โดยมีเป้าหมายให้พนักงานธนาคารสามารถเสนอขายและให้บริการในด้านการลงทุนในหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้าได้ ซึ่งจะมีผลช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้น
.
อีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจในการลงทุนครั้งนี้ของธนาคารออมสินคือการยกระดับสู่การเป็น Digital Banking และเมื่อยิ่งมาร่วมกับ ASL ทำให้สามารถนำระบบซื้อขายหุ้นของ ASL เข้ามาอยู่บน Digital Platform ที่ทางธนาคารกำลังพัฒนาเพื่อการปรับตัวสู่โลกอนาคต
.
การเพิ่มช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์บน Platform ของธนาคารในอนาคตจะช่วยให้ทั้งธนาคารออมสินและ ASL แข่งแกร่งขึ้น เพราะจะทำให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และทำธุรกรรมต่างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยที่ทั้งคู่มีฐานลูกค้าที่ใกล้เคียงกันอยู่แล้วคือตั้งแต่รายเล็กๆ ไปจนถึงรายใหญ่
.
โดยธนาคารออมสินคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการเต็มที่ ได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า ปัจจุบันธนาคารออมสินมีการลงทุนในธุรกิจทิพยประกันภัย 11%, ทิพยประกันชีวิต 25%, กองทุนรวมของบลจ. ธนชาต 25% และบริษัทจัดการหลักทรัพย์ MFC 24.9%
.
การเข้าสนาม Banker to Broker ของธนาคารออมสินและ ASL ครั้งนี้ก็น่าเป็นที่จับตามองกันต่อไป เพราะธนาคารออมสินมีฐานลูกค้าถึง 22 ล้านราย และเตรียมเปิดให้เทรดผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo ในเวลาอันใกล้นี้
1
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ASL Securities Co.,Ltd.
สอนหุ้นแนวเทคนิค..พื้นฐานฟรี ‼️‼️
ในกลุ่มไลน์
LINE SQUARE
[PRB เรียนรู้หุ้นฟรี]
กดที่ลิงค์ได้เลย
โฆษณา