14 ก.ค. 2019 เวลา 01:57 • ไลฟ์สไตล์
#ไม่อยากเสียเพื่อนอย่าให้เพื่อนยืมเงิน
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินเขาพูดกันว่า “ถ้าอยากเลิกคบใคร จงให้คนนั้นยืมเงิน” ได้ยินแล้วก็คิดว่ามันไม่เกินจริงเลยนะ เพราะเห็นมาหลายรายแล้วที่ต้องผิดใจกันด้วยการให้เพื่อน “ยืมเงิน” สุดท้ายก็ถูกปล่อยให้ลำพังด้วยคำว่า “ไม่คืน” หรือนานมากกว่าจะได้คืน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้เพื่อนเลิกคบกันมานักต่อนักแล้ว
เมื่อให้เพื่อนยืมเงินสิ่งที่ตามมา คือ
1.สถานะที่เปลี่ยนไป
ทันทีที่คุณให้เพื่อนยืมเงิน จากสถานะเดิมของความเป็น “เพื่อน” จะถูกพ่วงสถานะ “เจ้าหนี้” และ “ลูกหนี้” เข้ามาด้วย ทีนี้แหละความสัมพันธ์มันอาจจะมีบทบาทที่ไม่เหมือนเดิม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ตัวอย่างเช่น เพื่อนอาจพยายามหลบหน้าคุณ ไม่ทักทายสนิทใจเหมือนเดิมในกรณีที่เขา ไม่สามารถหาเงินมาใช้คุณคืนได้ตามสัญญา หรือ เป็นคุณเองนั่นแหละอาจจะหลบหน้าเขา เพราะเกรงว่าการเข้าไปคุยไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม จะดูคล้ายกับการทวงหนี้ จึงไม่อยากทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ นานๆเข้าไปก็กลายเป็นความเหินห่าง เป็นจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างมิตรภาพของคนทั้งคู่ บางทีก็คิดนะเราเป็นเจ้าหนี้แต่เวลาทวงหนี้ทำไมรู้สึกลำบากใจทั้งที่เงินที่ยืมไปก็เป็นเงินเราเอง
2.ความรู้สึกถูกทำลาย
 “ลูกหนี้” บางคนก็แปลกนะ ภายนอกพรีเซนต์ว่าชีวิตดี กินหรู อยู่สบาย ใช้ของแพง อัพนู่น อวดนี่ ในโซเชี่ยล เห็นแล้วน่าอิจฉา ไม่เห็นใจหัวอกคนเป็น “เจ้าหนี้” หรือในที่นี้ก็คือ “เพื่อน” ของตัวเองกันบ้างเลย คือถ้ามีกินมีใช้ขนาดนั้น แล้วมีเงินมาใช้หนี้คืนด้วยก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่! ถ้าเหนียวหนี้ ขอผ่อนผันตลอดด้วยสารพัดเหตุผลที่จะหามา ไม่รู้ว่าเหตุผลที่ให้มาเป็นเรื่องจริงหรือแค่เรื่องแต่ง บางทีเจ้าหนี้อย่างเราก็คิดนะว่าเงินที่ยืมไปเขาไม่คิดบ้างเหรอว่ามีเรื่องที่เราจำเป็นต้องใช้เหมือนกันที่ให้ยืมไปตอนนั้นเพราะเรายังไม่จำเป็นต้องใช้เห็นเพื่อนเดือดร้อนเลยให้ยืมแต่!!! ตอนทวงคืนคือมันต้องใช้แล้วไงเพื่อน ถ้าคุณเจอเพื่อนแบบนี้ละก็ เชื่อสิ ! ความรู้สึกดีๆที่เคยมีมันจะเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ ความเชื่อใจหรือ เครดิตที่เคยมีให้มันจะติดลบไปหมด เพื่อนแบบนี้คงคบกันต่อไปยาก
3.ยิ่งสนิท ยิ่งไม่ได้คืน
“ความสนิท” มันแปรผกผันกับความ “เกรงใจ” เสมอเคยสังเกตไหมว่ายิ่งเราสนิทกับใครมากๆ เราจะรู้สึกสบายๆกับคนนั้น จะทำอะไรก็ได้ จะด่า จะแหย่ จะเล่นหัวก็ไม่ค่อยถือสากัน แต่คุณคะ ! สำหรับเรื่อง “เงิน” ต้องขอยกเว้นไว้ ณ จุดนี้ ต้อง “เกรงใจ” กันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เห็นมาบ่อยแล้วพวกลูกหนี้ที่ยืมเงินเพื่อนสนิทแล้วชอบตีมึน เห้ยเดือนนี้เอาไว้ก่อนนะ เพื่อนกันไม่ซีเรียสดิ หรือ เห้ยแกเดี๋ยวมีแล้วจ่ายนะอะไรแบบนี้ หรือบางที่ยืมไม่มากเฮ้ยแกแค่นี้เองไม่ต้องเอาคืนหรอกเนาะ What? สัญญาต้องเป็นสัญญาสิ แล้วยิ่งถ้าเพื่อนคนนี้เค้ามีหนี้อยู่หลายเจ้านะ ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ เค้าก็จะคิดว่าคุณน่าจะอะลุ่มอะล่วยให้ได้ ขอเอาเงินไปใช้เจ้าหนี้รายอื่นก่อนดีกว่า ส่วนเพื่อนสนิทไว้คิวสุดท้าย
4.มีครั้งแรก จะมีครั้งที่สองและครั้งต่อไป
จริงอยู่ว่าเมื่อเพื่อนลำบาก เพื่อนก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อน แต่จำไว้นะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป ครั้งที่ 2 3 4 ตามมาเรื่อยๆ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ให้ยืมง่ายนะ ลูกหนี้ยิ่งจะติดเป็นนิสัย เงินหมุนไม่ทันทีไร ก็จะนึกถึงคุณตลอด บางทีดูแล้วก็รู้สึกดีที่เพื่อนมีปัญหาแล้วนึกถึงเราตลอด แต่ แต่ แต่ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ
เอาจริงๆนะ ถ้าให้เพื่อนยืมเงินไป ตามสถิติแล้วให้คิดไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้คืน สิ่งที่ทำได้คือทำใจ เคสแบบนี้ถ้าเราเจอกับตัว บางทีมันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะมันช่วยทำให้เราเห็นอะไรต่างๆได้ชัดขึ้น เข้าใจโลก เข้าใจคนที่เรา(เคย)เรียกว่าเพื่อนมากขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลถ้าเราไม่ได้คืน แล้วเราไม่เดือดร้อนมันก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ถือว่าซื้อบทเรียนราคาเเพง คุ้มค่ากับการได้ตัดคนที่ไม่มีสัจจะออกไปจากชีวิตเราได้ แต่ถ้าให้เขายืมไปแล้วเราถังแตก เอาตัวเองไม่รอด นี่ก็ไม่โอเค ฉะนั้นก่อนจะให้ใครยืมเงินคิดทบทวนให้รอบคอบ ถ้าคิดว่าไหว เงินนี้เป็นเงินเย็น เสียไปก็ไม่ลำบาก จะเสี่ยงให้ยืมก็ได้ แต่ถ้าเป็นเงินก้อนที่สำคัญกับชีวิตของเราจริงๆ ก็ให้บอกปฎิเสธไปตรงๆ แล้วอาสาช่วยเหลือด้านอื่นตามกำลังความสามารถของเราจะดีกว่า ไม่เสียทั้งเพื่อน ไม่เสียทั้งเงิน
#ไม่อยากเสียเพื่อนอย่าให้เพื่อนยืมเงิน
#มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา