15 ก.ค. 2019 เวลา 12:25 • ธุรกิจ
10 เทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต (Ep.2) / โดย คลินิกการลงทุน
1
10 เทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต (Ep.2)
หลังจากได้เล่าไปแล้วกับ 5 เทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต ใน Ep.1 (อ่าน Ep.1 ได้ที่ลิงค์นี้ครับ 👉 https://www.blockdit.com/articles/5d1f690b97dc50047f2e53fe)
เรามาต่อกันอีก 5 เทรนด์ที่เหลือกันเลย จะมีเทรนด์ธุรกิจอะไรบ้าง?
ไปดูกันครับ …
.
3
6. "สุขภาพ"
สุขภาพ / (source: heart)
ทุกวันนี้คนหันมาใส่ใจกับ “Work life balance” มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “สุขภาพ” ทั้งเรื่องะออกกำลังกาย และอาหารการกิน รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงความเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น ของคนยุคใหม่ แม้ว่าหลายๆคน อาจจะทำงานหนักจนต้องร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่เคยมองข้ามเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ ยังเน้นต้องเน้นตอบโจทย์ “Lifestyle” การใช้ชีวิตอีกด้วย
จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคประมาณ 88% ยินดีจ่ายเงินมากขึ้นเพื่ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ 31% ของผู้บริโภคอยากจะทานอาหารที่มีการรับรองด้านสุขภาพโดยองค์กรต่าง ๆ และ 35% ของผู้บริโภค อ่านข้อมูลสินค้าก่อนการตัดสินใจซื้อ
แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพจะเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน และในอนาคตก็จะมีแนวโน้มเกี่ยวกับ “การดูแลสุขภาพ” ตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส สปา สินค้าออแกนิกส์ อาหารปลอดสารพิษ เทรนเนอร์ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงาม รูปร่างและผิวพรรณ ทั้งครีมบำรุง อาหารเสริม เครื่องสำอาง ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในกลุ่มนี้ มีการแข่งขันสูงมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจนี้ ต้องหากลยุทธ์มาพัฒนาสินค้าให้โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง พิถีพิถันในวัตถุดิบส่วนผสม ให้ตอบสนองความต้องการของตลาด และตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด
.
7. "เวลา"
เวลา / (source: epw)
มีการคาดการณ์ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า มนุษย์โลกมากกว่า 6.5 พันล้านคน คิดเป็น 48% ของมนุษย์ทั้งโลกจะอาศัยอยู่ในเมือง ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับ “เวลา” มากขึ้น มีความเร่งรีบ และอยากจะประหยัดเวลามากขึ้นมากขึ้น เพราะเวลาเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตและทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา
1
มีผลสำรวจผู้บริโภค พบว่า 49% ของผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น 39% พร้อมที่จะจ่ายเพื่อซื้อเวลากับความสะดวกสบาย 33% ของผู้บริโภคเลือกอาหารแบบพร้อมทานเพราะไม่มีเวลามากพอสำหรับการทำอาหาร
เป็นโอกาสของธุรกิจมากมายที่จะรองรับเทรนเหล่านี้ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟสไตล์ ที่สามารถช่วยให้ประหยัดเวลาได้ ช่วยย่นเวลาของผู้บริโภคได้มากที่สุด เช่น ธุรกิจการบิน ธุรกิจสื่อสาร อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ Start-Ups ต่างๆ
.
8. "การเงินและการลงทุน"
การเงินและการลงทุน / (source: thinkingbeyondnumbers)
ประชากรโลกในอนาคตนั้นจะมีวิธีคิดในเรื่องการเงินต่างจากคนยุคก่อนๆ ซึ่งพวกเขาจะวางแผนการเงินในอนาคต โดยการใช้เครื่องมือทางการเงินสร้างมูลค่าของเงินเอง กล้าเสี่ยงมากกว่าคนสมัยก่อน เช่น การเล่นหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม หรืออสังหาฯ เพื่อให้เงินทำงานแทน
วัยรุ่นยุคนี้ และจะกลายเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต มองว่าการฝากเงินในธนาคารนั้น สร้างผลตอบแทนต่ำ และยังทำให้ความมั่งคั่งของพวกเขาลดลงด้วย ทำให้พวกเขาสนใจในเรื่องของการลงทุนทางการเงินด้วยการเพิ่มมูลค่าเงินหรือสินทรัพย์ต่างๆ ให้มากขึ้น แต่ก็อย่างลืมเช็คความพร้อมในการลงทุน และความเสียงที่เรารับได้
ดังนั้น เทรนการลงทุนในอนาคต เงินจะไหลเข้าไปสู่ “Digital Asset” เช่น Cryptocurrency มากขึ้น และผลตอบแทนจาก “Real Asset” เช่น หุ้น อสังหาฯ จะค่อยๆลดลง นอกจากนี้ในด้านของ “พรมแดน” ในการลงทุนจะค่อยๆหายไป และจะเชื่อมกันทั่วโลก หรือจะเรียกว่า “Global link” ทำให้มีโอกาสในการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ช่วยให้สามารถกระจายความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบ “Global link” มันก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน นั่นคือ “การดูดเงิน” จากกระเป๋าเราง่ายขึ้น เงินจะไหลจากคนหรือประเทศที่อ่อนแอเข้ากระเป๋าของคนหรือประเทศที่แข็งแกร่งได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากเราไม่เก่งจริง ก็อาจทำให้ “ความมั่งคั่ง” ของเราลดลงอย่างง่ายดาย
.
9. "Creator"
Creator / (source: arabianmarketer)
ทุกวันนี้ เรากำลังเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคที่หุ่นยนต์ หรือ AI เข้ามาแทนที่งานต่างๆ ของมนุษย์ เห็นได้ชัดจากข่าวการปลดพนักงานของบริษัทต่างๆทั่วโลก งานแก่าๆเริ่มหายไป โดยเฉพาะงานง่ายๆ ที่ทำเป็นรูปแบบซ้ำๆ เดิมๆ อย่าว่าแต่งานง่ายๆเลย ขนาดการแข่งขันโกะ AI ก็สามารถเอาชนะแชมป์โลกมาแล้ว !!
แต่สิ่งที่หุ่นยนต์ หรือ AI เลียนแบบมนุษย์ได้ยากคือ “สมองมนุษย์” หรือ “ความคิดสร้างสรรค์”
ดังที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า “จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้”
แม้ว่าหลายๆงานจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ แต่ในอีกด้านก็มีงานใหม่ๆเพิ่มขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ “กลุ่มคนรุ่นใหม่” เริ่มเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Blogger, Youtuber, Influencer หรือ Graphic Design เป็นต้น โดยยุคนี้ก็มีเครื่องมือมากมายให้เราใช้งานได้อย่างเต็มที่
โดยจุดเด่นของคนรุ่นใหม่เหล่านี้ มีลักษณะชื่นชอบการมีตัวตน มีความเป็นตัวเองมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าที่จะแตกต่าง กล้าที่จะแสดงออกถึงความสามารถและสิ่งที่ตัวเองชอบออกมา ไม่แน่ว่าบางที สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นธุรกิจที่สร้างเงินให้เราอย่างมหาศาลก็ได้
โดยข้อมูลของ “สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(depa)” เผยมูลค่าธุรกิจ “Digital Content” ของไทยในปี 2560 มีมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 กว่าล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2562 นี้ จะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 31,000 ล้านบาท ซึงในอนาคตก็มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยหัวใจสำคัญของการเป็น “Creator” คือ ไอเดียที่ดีและสร้างสรรค์ เครื่องมือที่ทันสมัย และกลยุทธ์การวางแผนการตลาดที่เหมาะสม หากมีครบการทำให้ธุรกิจก็จะสามารถไปได้ไกลและเติบโตอย่างรวดเร็วครับ
.
10. "การเกษตร"
การเกษตร / (source: dv)
ข้อนี้คิดและลังเลอยู่นานว่าจะเอาธุรกิจอะไรดี สุดท้ายก็มาตกที่ธุรกิจ “การเกษตร” เพราะยังไงมนุษย์ทุกคนก็ต้องรับประทานอาหาร แต่ต้นกำเนิดหรือแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารเหล่านั้น ล้วนมาจากการทำการเกษตร ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีมนุษย์บนโลก ก็ต้องมีการทำการเกษตรด้วยเช่นกัน
แต่ “การเกษตร” ในที่นี้ คงไม่ใช่การทำการเกษตรแบบธรรมดาสามัญทั่วไปอย่างแน่นอน แต่หมายถึง การทำ “เกษตรอัจฉริยะ” เป็นการใช้โยชน์จาก “เทคโนโลยี” เข้าประยุกต์ใช้ในเชิงการเกษตร ครอบคลุมตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ใช้งาน แบ่งปันกัน โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรซึ่งอยู่ห่างไกล และมีอุปสรรคในการเชื่อมต่อ
ปัจจัยที่สนับสนุนการทำการเกษตรรูปแบบใหม่ๆ คือการเติบโตของพื้นที่เมือง และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสูงมากของผลผลิตทางการเกษตรที่สดใหม่ตลอดปี นอกจากนี้ การเกษตรยังเป็นรายได้หลักของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งหากเรามีการพัฒนาให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ก็คงจะดีไม่น้อย
1
การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยนั้น จะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ต้นทุนต่ำลง และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ที่ผ่านธุรกิจภาคการเกษตร ได้เเริ่มนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ที่ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะทำการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาล ผ่านอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งใช้งานในพื้นที่การเกษตร ช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตามผลผลิตได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้แบบเรียลไทม์ หากเกิดปัญหาก็สามารถรับมือได้อย่างรวดเร็ว
BIS Research เผยรายงานชื่อว่า “Global Smart Farming Market” ที่ได้คาดการณ์แนวโน้มตลาดการเกษตรอัจฉริยะว่าจะขยายตัวได้ถึง 23.14 พันล้านดอลลาร์สหร้ฐ ภายในปี ค.ศ. 2022 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 19.3% ต่อปี โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักๆ มาจากความต้องการเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร การเติบโตของการใช้เทคโนโลยีในการทำเกษตร และความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับเทคโนโลยีเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (climate-smart agriculture)
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้ การเกษตรอัจฉริยะจะสร้างผลกระทบให้กับเศรษฐกิจการเกษตรอย่างมหาศาล และปิดช่องว่างระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ทั้งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา เห็นได้ชัดจากที่รัฐบาลหลายประเทศ มีการผลักดันโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีในการพยากรณ์ที่แม่นยำสำหรับการเกษตร
.
จบไปแล้วนะครับ กับ "10 เทรนธุรกิจแห่งอนาคต" เป็นอย่างไรกันบ้าง ? หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถนำไปเป็นแนวทางในการทำธุรกิจ หรือการลงทุน และนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆได้ไม่มากก็น้อย เพื่อนๆท่านใดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร มีความคิดเห็น คำแนะนำ หรืออยากแชร์ความรู้ต่างๆ ก็สามารถ Comment ไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ขอบคุณครับ 😁🙏
10 เทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต (Ep.2) / โดย คลินิกการลงทุน
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา