17 ก.ค. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin)” นักแสดงตลกผู้เปลี่ยนวงการภาพยนตร์โลก ตอนที่ 12
ก้าวที่รุ่งโรจน์ของยอดตลก
ภายหลังจากแต่งงานกับมิลเดรด ดูเหมือนชีวิตคู่ของชาร์ลีกับมิลเดรดก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก
ทั้งคู่มีอะไรหลายๆ อย่างที่ต่างกัน ไม่เข้าใจกัน สุดท้ายสองปีต่อมา ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกทางกัน
ค.ศ.1919 (พ.ศ.2462) ชาร์ลีร่วมกับนักแสดงระดับเอลิสต์ในฮอลลีวู้ดคนอื่นๆ ตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตนเองขึ้นมา ชื่อ “United Artists” ซึ่งประสบความสำเร็จและโด่งดังจนถึงวันนี้
ในเมื่อชาร์ลีเป็นเจ้าของบริษัทและเป็นโปรดิวเซอร์เอง เขาจึงมีอิสระในการสร้างภาพยนตร์ตามแบบที่ต้องการได้ และสิ่งที่เขาต้องการก็คือการสร้างภาพยนตร์เรื่องยาวที่มีความเป็นดราม่ามากขึ้น
ในเวลานั้น ชาร์ลีกำลังจับตามองเด็กนักเต้นบนเวทีวอเดอวิลล์คนหนึ่งชื่อ “แจ๊คกี้ คูแกน (Jackie Coogan)”
แจ๊คกี้ คูแกน (Jackie Coogan)
แจ๊คกี้เป็นเด็กที่มีสเน่ห์และทำให้ผู้ชมชื่นชอบ การได้ดูแจ๊คกี่ ทำให้ชาร์ลีคิดถึงตนเองในวัยเด็ก
ชาร์ลีได้เริ่มคิดถึงไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา นั่นคือการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กกำพร้า
1
ในยุคนั้น ได้เคยมีการใช้ดาราเด็กในภาพยนตร์ แต่แทบไม่มีหนังเรื่องไหนใช้ดาราเด็กแสดงนำมาก่อนเลย
The Kid (1921 พ.ศ.2464) ต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของชาร์ลี นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกที่ชาร์ลีเป็นผู้กำกับ ซึ่งมีความยาวถึงหนึ่งชั่วโมง และมีการดำเนินเรื่องตามบทภาพยนตร์ ที่สำคัญ มีการนำเอาความตลกและดราม่ามาใส่ในภาพยนตร์
ได้มีผู้เขียนบทภาพยนตร์หลายคนออหมาเตือนชาร์ลีว่าการทำอย่างนี้ไม่ได้ผล ภาพยนตร์จะต้องไม่ตลกก็ดราม่าไปเลย จะเอามาผสมกันไม่ได้
แต่ชาร์ลียังคงทำตามความคิดของตนต่อไป นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่คนจรจัดร้องไห้บนจอ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากและได้รับการยกย่องให้เป็นงานชิ้นเอกของชาร์ลี ฝรั่งเศสถึงกับประกาศให้วันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายเป็นวันหยุดเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของชาร์ลีคือ The Gold Rush (1925 พ.ศ.2468) ซึ่งดำเนินเรื่องในช่วงยุคตื่นทองที่อลาสก้า
ชาร์ลีทุ่มทุนให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการนำหมีขั้วโลกมาเข้าฉากจริงๆ และใช้ทุนในการสร้างฉากจำลองอลาสก้าไปเป็นจำนวนมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเช่นเคย โดยมีฉากเด็ดของเรื่องคือ การใช้ส้อมเต้นรำของคนจรจัด ฉากนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมอย่างมาก โรงภาพยนตร์บางแห่งถึงกับต้องหยุดฉายหนัง และย้อนฉากนี้ให้ผู้ชมได้ชมซ้ำ
“แชปลินคืออัจฉริยะ” คือคำกล่าวชื่นชมชาร์ลีในหนังสือพิมพ์ New York Herald Tribune
ในขณะที่ชีวิตในวงการบันเทิงของชาร์ลีพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนชีวิตส่วนตัวของชาร์ลีจะไม่รุ่งเหมือนงาน ในเวลานี้ชาร์ลีกับภรรยา “ลิต้า เกรย์ (Lita Grey)” กำลังจะหย่ากัน ซึ่งเป็นการหย่าครั้งที่สองของชาร์ลี
ชาร์ลีกับลิต้า
ชาร์ลีกับลิต้านั้นมีลูกด้วยกันสองคน แต่ลิต้ากลับไม่มีความสุข ชาร์ลีเอาแต่บ้างาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เธอจึงตัดสินใจหย่า
ที่หนักหนาคือเธอประกาศเรื่องนี้ให้สื่อมวลชนรู้ ทำให้ข่าวการหย่าร้างของเธอกับชาร์ลีเป็นพาดหัวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ทำให้ชื่อเสียงของชาร์ลีเริ่มมัวหมอง
ชีวิตทั้งการงานและชีวิตส่วนตัวของชาร์ลีจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา