19 ก.ค. 2019 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin)” นักแสดงตลกผู้เปลี่ยนวงการภาพยนตร์โลก ตอนที่ 13
ยอดตลกปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง
ในช่วงปลายยุค 20 (พ.ศ.2463-2472) ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการภาพยนตร์
ในเวลานี้ได้มีการผลิตหนังเสียงออกมาแล้ว ในไม่ช้า หนังเสียงก็แพร่ไปทั่ว เป็นที่ถูกใจคนดู แต่ก็ทำให้ดาราภาพยนตร์หลายคนต้องจบอนาคตการแสดง เนื่องจากมีเสียงที่ไม่น่าฟัง
ชาร์ลีเองก็รู้ดีว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อเขาแน่ ที่คนจรจัดเป็นที่ถูกใจผู้ชมก็เพราะจากบทตลกโดยที่ไม่ต้องมีคำพูด สเน่ห์ของคนจรจัดต้องจบลงแน่หากให้คนจรจัดพูด
ชาร์ลีจึงตัดสินใจสวนกระแส สร้างภาพยนตร์เรื่อง City Lights (1931 พ.ศ.2474) ซึ่งยังคงเป็นภาพยนตร์เงียบเช่นเดิม
ผู้ชมยังคงไม่ได้ยินเสียงคนจรจัด แต่ได้ยินเสียงสะอึกของเขาแทน
City Lights ออกฉายในปีค.ศ.1931 (พ.ศ.2474) และยังคงประสบความสำเร็จ เป็นภาพยนตร์ทำเงินเช่นเดิม
ชาร์ลีใช้เวลาสร้าง City Lights กว่าสามปี เขาจึงตัดสินใจจะพักผ่อน โดยชาร์ลีได้ล่องเรือไปยุโรปและเอเชีย ใช้เวลาท่องเที่ยวกว่า 18 เดือน
ในนะหว่างทริปนี้เอง ชาร์ลีก็ได้พบกับคนดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหาตมะ คานธี วินสตัน เชอร์ชิลล์
ขณะอยู่ในลอนดอน ชาร์ลีได้เดินทางไปเยี่ยมแฮนเวลล์ โรงเรียนที่เขาเคยเรียนสมัยยังเด็ก ซึ่งนักเรียนกว่า 400 คนต่างก็ตื่นเต้นที่ชาร์ลีมาเยี่ยม และชาร์ลีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าชาติกำเนิดที่ด้อยกว่าคนอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จไม่ได้
คืนนั้น ขณะอยู่ในห้องพักที่โรงแรม ชาร์ลีร้องไห้
ภาพความทรงจำวัยเด็กของเขากลับมา การมาลอนดอนทำให้เขาคิดถึงชีวิตวัยเด็ก
ภายหลังกลับจากเดินทาง เป็นช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ คนงานตกงานเป็นจำนวนมาก
ชาร์ลีตัดสินใจสร้างภาพยนตร์ตลกที่จะให้กำลังใจผู้คน ซึ่งจะเป็นภาพยนตร์เงียบอีกเช่นเคย
แต่จะเป็นภาพยนตร์เงียบเรื่องสุดท้ายของเขา
ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือเรื่องอะไร และจะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไปนะครับ
โฆษณา