21 ก.ค. 2019 เวลา 11:35 • การศึกษา
"ดูไบเฟรม" กรอบรูปทะลุมิติ
ย้อนอดีต ย้อนอนาคตที่ "ดูไบ"
นี่คือ Time Machine ที่ "ดูไบ" ที่จะพาคุณย้อนอดีตวันวานของดูไบ และก้าวไปสู่อนาคต โดยผ่านสถานที่ที่เรียกว่า "กรอบรูปแห่งดูไบ" Dubai Frame
ดูไบเฟรม Dubai Frame มหาโครงการระดับยักษ์ของเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่สร้างสรรออกมาในรูปของ "กรอบรูปแห่งดูไบ"
หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ได้ให้คำจำกัดความว่า กรอบรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โครงการนี้เริ่มขึ้นในปี 2008 โดยทางเมืองดูไบและ ThyssenKrupp Elevators ได้จัดการแข่งขันการออกแบบ เพื่อเฟ้นหาสถาปัตยกรรมตึกระฟ้าที่น่าทึ่งแห่งใหม่
เครดิตภาพ @ottoorlandi
โดยสถาปนิกชื่อ Fernando Donis ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ ซึ่งเขาได้เสนอไอเดียว่า
ดูไบเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตราสัญลักษณ์และแทนที่จะเพิ่มอีกเมืองหนึ่ง เขาเสนอที่จะใส่กรอบเพื่อวางกรอบเมือง แทนที่จะสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ ข้อเสนอคือการสร้างช่องว่าง 150 เมตร
เพื่อกำหนดกรอบการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ
ดูไบจากอดีตปัจจุบันและอนาคต โดยมีโครงสร้างที่ออกมาในลักษณะเหมือนการเฉลิมฉลอง
แต่มีความขัดแย้งกันเรื่องขั้นตอนและโครงสร้างของงาน จนไม่สามารถตกลงกันได้ ในขณะที่งานก่อสร้างยังดำเนินการต่อไป
แม้ Fernando Donis จะยื่นคำร้องเรียนเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาต่อศาล เรื่องการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบ ของการออกแบบตัวโครงสร้างอาคารไปจากเดิม แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายเป็นเขาที่ไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ
ภาพ @dubaiframe
ทางเทศบาลเมืองดูไบยังคงเดินหน้าสร้าง The Dubai Frame หรือ"กรอบรูปแห่งดูไบ" ต่อไป โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างเกือบสิบปีเต็ม โดยใช้งบประมาณไปทั้งสิ้นราว 43.5 ล้านยูเอสดอลล่าร์ หรือเทียบเป็นเงินไทยราว 1.39 พันล้านบาท
ดูไบ เฟรม ตึกกรอบรูปแห่งดูไบ
มีความสูงขนาด 150 เมตร กว้าง 93 เมตร มีแผ่นหุ้มทองคำ 15,000 ตารางเมตร
ตัวอาคารแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างโดยมีการใช้ -
- คอนกรีตเสริมเหล็ก 9,900 ลูกบาศก์เมตร
- เหล็ก 2,000 ตัน
- กระจกลามิเนต 2,900 ตารางเมตร
คอนเซ็ปต์ของตึกนี้คือ การสะท้อนภาพของดูไบโดยรอบแบบ 360 องศา
เครดิตภาพ @dybaiframe
เพื่อการเข้าถึงดูไบที่ครอบคลุมทุกมิติของเมืองทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ที่ตั้งของดูไบ เฟรม อยู่บริเวณสวนสาธารณะ Zabeel Park ในเขต Al Kefaf ทางตอนเหนือของเมืองดูไบ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ดูไบ
dubai มองจากฝั่งเก่าจะเห็นเมืองยุคใหม่ มองจากฝั่งใหม่จะเห็นดูไบยุคเก่า นี่คือไอเดียสำคัญ ภาพ @dubaiframe
การมองมาจากฝั่งเมืองเก่า คุณจะเห็นดูไบยุคใหม่ ที่เรียกว่า Modern Dubai
การมองมาจากฝั่งเมืองใหม่ คุณก็จะเห็นดูไบ แบบที่นั่งไทม์แมกชีนย้อนอดีต
แน่นอนว่าดูไบ มีการเปลี่ยนแปลงในอีกฝั่งรวดเร็วมาก ความต่างตรงนี้แม้อาจจะดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับในประเทศอื่น แต่เก่ากับใหม่ที่ดูไบ มันต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ แบบก้าวกระโดด ไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไป
dubai มองจากฝั่งเก่าจะเห็นเมืองยุคใหม่ มองจากฝั่งใหม่จะเห็นดูไบยุคเก่า นี่คือไอเดียสำคัญ ภาพ @dubaiframe
📌กรอบรูปแห่งดูไบ เรื่องราวของดูไบที่จะได้เห็นจากในตัวอาคาร
1. ดูไบยุคเก่า
การเดินทางจะเริ่มต้นบนชั้นลอยที่คุณจะได้ชมทัวร์ของนิทรรศการมัลติมีเดียที่มีการฉายภาพสามมิติและเทคนิคพิเศษเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่หลากหลายของโอลดูไบ Old Dubai คุณจะได้เห็นองค์ประกอบทั้งหมดของประเพณี และมรดกของประเทศและวิธีที่เมืองได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากหมู่บ้านชาวประมงจนกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหรา
2. ดูไบปัจจุบัน
1
หลังจากคุณทัวร์ผ่าน Old Dubai แล้วคุณจะได้ขึ้นลิฟต์ด่วนซึ่งใช้เวลาเพียง 47 วินาทีในการไปถึง Sky deck จุดนี้จะแสดงถึง Present Dubai ซึ่งมีวิวที่สูงตระหง่าน ตึกระฟ้าสัญลักษณ์ Burj Khalifa คุณจะต้อง เดินข้ามพื้นกระจกใส ในระดับนี้มีหน้าจอแบบอินเทอร์แอคทีฟที่คุณสามารถใช้เพื่อระบุอาคารที่สามารถมองเห็นได้จากดาดฟ้า คุณสามารถชมท้องฟ้าและถ่ายเซลฟี่ที่นี่
3. อนาคตดูไบ
เมื่อคุณทัวร์ชมสำรับท้องฟ้าเสร็จแล้วคุณจะถูกนำกลับไปที่ชั้นลอยซึ่งคุณจะต้องเดินผ่านอุโมงค์ซึ่งใช้แสงไฟและเอฟเฟกต์เสียงพิเศษเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดูไบจะเป็นไปในอีก 50 ปีจากนี้ ด้วยสีสันที่สดใสสดใสและการฉายแบบอินเทอร์แอคทีฟ
เมื่อคุณทำทั้งสามขั้นตอนเสร็จแล้ว คุณจะถูกนำไปยังร้านขายของที่ระลึกซึ่งคุณจะซื้อของที่ระลึกได้หากคุณต้องการ
เครดิตภาพ @chensey7
การเข้าชม
ดูไบเฟรมเปิดเป็นทางการในเดือนมกราคมปีที่แล้ว โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม
มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ราว 50 ดีหแฮม ตามหน่วยเงินดูไบ คิดเป็นเงินไทยก็ราว 400 กว่าบาท เด็กครึ่งราคา ผู้พิการฟรี
* อัตราโดยประมาณ โปรดสอบถามอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม
เว็บทางการของอาคาร
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
โฆษณา