8 ส.ค. 2019 เวลา 13:09
เรื่องสั้น : รถบัสสีเหลืองกับต้นโอ้คเก่าริมทาง
รู้สึกว่ารถบัสวิ่งช้าลง ผมหันกลับมามองในรถอีกครั้ง ป้าสองคนกำลังพยายามยืดตัวให้พ้นจากพนักพิงของคนขับที่บังสายตาอยู่ ส่วนเด็กสาวเธอเลิกอ่านหนังสือแล้ว เธอยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างด้วยซ้ำ ส่วนชายในเชิ้ตขาวเขาเปลี่ยนมานั่งฝั่งเดียวกับผม ส่วนคุณลุงนั่งหลับตานิ่ง แต่ผมรู้ดีกว่าลุงยังไม่หลับแน่ๆ
"โน่น เห็นยอดต้นโอ้คแล้วค่ะ" เด็กสาวตะโกนเสียงดังจากนอกหน้าต่าง
"ไหนๆ ดูสิ โอยอย่าเบียดมาสิมาเรีย เธอก็ไปที่เบาะอีกแถวสิ" ป้าสองคนพยายามเบียดกันเพื่อมองลอดช่องหน้าต่างบานจิ๋ว
ชายในเชิ้ตขาวเลื่อนกระจกข้างขึ้นสุด
"นั่น นั่น ทุกคนค่ะ" เด็กน้อยส่งเสียงลั่น
ผมเองก็ชะโงกหน้าออกไปที่หน้าต่างบ้าง
ภาพตรงหน้าคือ ต้นโอ้คเก่าแก่ต้นเดิม มันไม่ได้ดูโตขึ้นกว่าเมื่อสองปีก่อนนี้เท่าไหร่ มันเหมือนเดิมเกือบทุกอย่างเมื่อเทียบกับในความทรงจำของผมผิดแต่ว่าตอนนี้ที่ลำต้นมีริบบิ้นสีเหลืองผูกติดอยู่จริงๆ แถมมันไม่ได้ติดไว้แค่อันเดียว แต่ที่ต้นโอ้คตอนนี้มีริบบิ้นสีเหลืองอร่ามติดไว้นับร้อยอันเลยทีเดียว
"เย้ ยาฮู้!! มันต้องแบบนี้สิ" คุณลุงผุดลุกขึ้นตบมือเสียงดัง ไม้เท้าถูกแขวนไว้ที่เบาะอีกฝั่ง ลุงลุกขึ้นยืนปรบมือโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างร้องเฮกันลั่น ป้าสองคนกอดกันกลม พลางเอาเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา เด็กสาวโบกมือไปมานอกรถทั้งๆ ที่ไม่ได้มีใครให้ทักทายแต่อย่างใด ชายในเสื้อเชิ้ตผิวปากเสียงดังหวีดยาว ไม่เว้นแม้แต่ลุงคนขับที่บีบแตรไปหลายทีแล้วตอนนี้
1
"ไปสิ รออะไรเล่า ไปเลยพ่อหนุ่ม ฉันขอให้เธอโชคดี ฝากทักทายเธอแทนฉันด้วยนะ" ลุงขยับตัวไปนั่งที่เบาะอีกฝั่งในทันที
"ครับ ขอบคุณครับ" ผมคว้าเป้แล้วลุกออกไป จับมือทักทายกับชายเชิ้ตขาว โบกมือลาป้าทั้งสองและเด็กสาวที่ยิ้มแก้มปริมาให้ และโค้งอีกเล็กน้อยให้กับลุงคนขับรถบัส ก่อนจะออกไปยืนรอที่ประตูหน้า
รถบัสจอดสนิทแล้ว ผมโบกมือลาทุกคนอีกครั้ง แล้วเดินตรงไปที่ต้นโอ้คนั่น รถบัสค่อยๆ เคลื่อนออกไป
"โชคดีนะคะ บายค่ะ" เสียงเด็กสาวตะโกนไล่หลังมา ผมโบกมือให้เธอและคนบนรถอีกครั้ง
บนต้นโอ้คมีริบบิ้นสีเหลืองมากมายติดอยู่ ผมน้ำตารื้นด้วยความยินดีในหัวใจ ที่ตอนนี้มันสว่างไสวยิ่งกว่าไฟที่ประดับประดาในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาตั้งแต่อยู่ในคุกจนก้าวขึ้นรถบัสและนั่งมาตลอดทาง หัวใจผมมันมืดหม่นและทึมเทาเหลือเกิน แต่ตอนนี้มันเจิดจ้าเหลือเกิน
ผมรีบตรงไปที่บ้านไม้หลังเก่า มันเพิ่งถูกทาสีใหม่ มันสวยน่ารักเหมือนที่เธอบรรยายในจดหมายไม่มีผิด ผ้าที่ตากไว้ที่ราวข้างสนามหญ้าปลิวไสว ราวกับพวกมันกำลังทักทายผมที่กำลังจะได้กลับมารับอ้อมกอดของบ้านหลังนี้อีกครั้ง ผมรีบถอดรองเท้าเปิดประตูเข้าไป
"สวัสดีครับ ผมกลับมาแล้ว แคทเทอรีน" ผมหยุดยืนที่ประตูมองซ้ายขวาไปทั่วห้องรับแขก
"โอ มาแล้วเหรอริค" หญิงชราเดินออกมาจากในห้องครัว ตรงดิ่งเข้ามาสวมกอดผม เธอคือแม่ของแคทเทอรีนคู่หมั้นของผม เธอน้ำตาปริ่ม ปากพร่ำบอกขอบคุณพระเจ้าอยู่ไม่ขาด
"มานี่สิ แคทเทอรีน รอเธออยู่ข้างใน มาสิตามแม่มา" เธอเดินนำลากแขนผมไปด้วยจนผมแทบเซ
ผมเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เตาผิงถูกจุด มันอบอุ่นมากในนี้ เธออยู่ที่นั่น สวมชุดสีขาวนวล ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่ผมจะไม่มีวันลืม ชุดนี้เป็นชุดที่เธอใส่ตอนพิธีหมั้นของเรา ซึ่งผมยังจำรสจูบในวันได้ดี ราวกับริมฝีปากยังเจือไปด้วยรอยจูบอันอบอุ่นจากเธอ แสงเทียนสว่างไสวที่จุดอยู่รอบๆ ทำให้เธอดูเด่นอยู่ตรงโต๊ะนั่น ตอนนี้น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างไร้การควบคุม
"เธอเพิ่งจากไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน กำชับหนักหนาว่าให้ผูกริบบิ้นไว้ที่ต้นโอ้คให้ด้วย แคทเทอรีนเขาไม่อยากให้คุณต้องจากไปโดยพกความเสียใจไปด้วยตลอดกาล แต่เธอก็เศร้าเสียใจและทำใจไม่ได้ที่จะบอกว่าเธอป่วยหนัก เธอกลัวว่าคุณจะเสียใจและหมดหวังที่จะพยายามพ้นมาจากคุกนั่น อย่าโทษหรือโกรธเธอเลยนะ ริค.." แม่ร้องไห้สะอื้นพร้อมเช็ดน้ำตาที่หลั่งไหล ด้วยผ้าคลุมไหล่สีซีด
"ทำไม….ทำไมพระเจ้าถึงกลั่นแกล้งผมแบบนี้ ทำไม" ผมยืนก้มหน้าร้อง น้ำตาหยดเป็นเม็ดตกกระจายไปทั่วพื้นไม้ที่เย็บเฉียบ
หญิงชราเอามือเหี่ยวย่นลูบที่หลังผมอย่างแผ่วเบา "พวกเราก็ต้องจากกันสักวันหนึ่ง แต่แคทเทอรีนเธอยังโชคดีที่รู้ว่ามีคนเฝ้ารอที่จะพบเธอ และเธอก็ตั้งตารอคุณเสมอ แม้ตอนนี้เธออาจไม่ได้อยู่กับเราแล้ว แต่เธอคงคอยมองดูคุณเดินหน้าต่อไปนะ ริค แล้วนี่...นี่คือของชิ้นสุดท้ายที่เธอฝากแม่เก็บเอาไว้ให้นะ..ลูกชาย" แม่หยิบเอากล่องสีแดงเลือดนกมัดด้วยริบบิ้นสีเหลืองสดยื่นให้ด้วยมือที่สั่นเทา
ผมเปิดมันออก ข้างในเป็นแหวนหมั้นสลักชื่อเราสองคน มันคล้องไว้ด้วยสร้อยเงินเส้นบางๆ แหวนแบบเดียวกับที่อยู่บนนิ้วนางซ้ายของผม พร้อมกระดาษโน๊ตเล็กๆ ที่พับวางอยู่ด้านใน
1
[หัวใจฉันไม่เคยพรากจากคุณนะ ริค รักคุณเสมอและนิรันดร ลงชื่อ แคทเทอรีน]
ผมจับแหวนที่คล้องสร้อยขึ้นมา บรรจงจูบมันพร้อมน้ำตาที่ค่อยๆ รินไปตามแก้ม แหวนที่เย็นเฉียบมันคงเหมือนหัวใจผมตอนนี้ มันเจ็บปวดและแทบจะแตกสลายราวกับน้ำแข็งที่ถูกบดจนแตกละเอียด ด้วยรสจูบอันอบอุ่นที่ตอนนี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
"ลาก่อน แคทเทอรีน ลาก่อน" ผมเอ่ยคำอำลาพร้อมกอดรูปเธอแน่นแนบอก แล้วร้องไห้อย่างไร้ซุ่มเสียง ในห้องนั่งเล่นที่เตาผิงเริ่มมอดลงทีละน้อย ทีละน้อย..
แกะริบบิ้นสีเหลืองที่เก่าซีด ใส่กล่องแห่งความทรงจำ by เพจเรื่องสั้นๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา