21 ส.ค. 2019 เวลา 13:30 • บันเทิง
เรื่องเล่าชาวร็อค เมื่อ Queen ขโมยคอนเสิร์ทไลฟว์ เอด เป็นของตัวเอง
​แม้จะมีศิลปินขึ้นเวทีแสดงมากมายในงานคอนเสิร์ทไลฟว์ เอด ทั้งที่เวมบลีย์ สเตเดียมในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และเจเอฟเค สเตเดียม ในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการจดจำ และหากพูดถึงการแสดงที่เป็นไฮไลท์ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือแสดงของ Queen ที่เวมบลีย์ สเตเดียม ที่ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของควีนหรือในไลฟว์ เอดเท่านั้น
​แต่ยังได้รับการถูกพูดถึงด้วยว่า ควีนทำไม่ต่างไปจากการขโมยคอนเสิร์ทไลฟว์ เอดมาเป็นของตัวเอง และนิค เดอริส จาก ultimaterock.com ก็จะมาเล่าให้ฟังว่า เฟร็ดดี เมอร์คิวรี, ไบรอัน เมย์, จอห์น ดีคอน และโรเจอร์ เทย์เลอร์ ทำให้วันที่เต็มไปด้วยศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์มากมาย และการแสดงของพวกเขา ไม่ต่างไปจากการแสดงสนับสนุน หรือเป็นวงเปิดให้กับตัวเองได้ยังไง
​หากมองย้อนกลับไป จะพบว่าหลังออกอัลบัมที่หลากหลายของแนวทางดนตรี มาหลายต่อหลายชุดนับตั้งแต่อัลบัม A Night at the Opera ในปี 1975 มาถึงช่วงต้นยุค 80 สถานการณ์ของควีนไม่ค่อยดีนัก เมื่อพวกเขาสูญเสียความสำคัญของตัวเองในวงการเพลงไปแล้ว และทำให้การแสดงที่กลายเป็นที่น่าจดจำทั้งของงานไลฟว์ เอดรวมไปถึงของพวกเขาเอง ที่เวมบลีย์ สเตเดียม เมื่อ 13 กรกฎาคม 1985 ไม่ใช่การแสดงที่ได้รับการคาดหวังอะไรมากมายจากผู้ชมในตอนแรก
​ควีนขึ้นเวทีท่ามกลางศิลปินที่ประสบความสำเร็จและมีความร่วมสมัยมากกว่าหลายต่อหลายคราว โดยก่อนหน้าจะถึงเวลาของพวกเขา U2 ก็เพิ่งเล่นสองเพลงที่เอาคนได้อยู่หมัดแบบสบายๆ โดยมี "Bad” ฉบับความยาว 12 นาที เป็นเพชรยอดมงกุฎ ขณะที่ศิลปินที่จะขึ้นแสดงต่อจากควีนก็เป็น เดวิด โบวี, the Who ที่กลับมาขึ้นเวทีเล่นร่วมกันเป็นหนแรกในรอบสามปี และเอลตัน จอห์น
​แถมยังมีการแสดงของ Dire Straits ที่กำลังพีคสุดๆ กับความสำเร็จของอัลบัม Money for Nothing, พอล แม็คคาร์ทนีย์, สติง และฟิล คอลลินส์
​แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น บางสิ่งที่ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ของควีน ยกเครดิทให้กับเฟร็ดดี เมอร์คิวรี นักร้องนำของวงที่รายรอบด้วยเขา และดีคอนกับเทย์เลอร์ สร้างประสบการณ์ที่ไม่ต่างไปจากการเกิดใหม่อันน่าทึ่ง แล้วยังสร้างสิ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงไปอีกนานแสนนานขึ้นมาใหม่ ในเวลาแค่ 20 นาที ของการระเบิดพลังของความมุ่งมั่น และความกล้าหาญ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกท่วมท้นแบบสุดๆ
​"ทั้งหมดทั้งมวลต้องยกให้กับเฟร็ดดี” เมย์เล่าด้วยยความปลาบปลื้มในอีกหลายๆ ปีหลังจากนั้น "พวกเราเล่นได้โอเค แต่เฟร็ดดีอยู่ตรงนั้นด้วยและจัดการพาทุกอย่างไปอีกระดับหนึ่ง"
​การแสดงในบ่ายวันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยเพลงต่างๆ ทั้งเพลงเก่าและใหม่ของวง ที่มีค่ามากพอจะเป็นไฮไลท์ของคอนเสิร์ท ซึ่งจัดเรียงเป็นชุดมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น "Bohemian Rhapsody," "Radio Ga Ga," "Hammer to Fall" ซิงเกิลใหม่ที่สุดของควีนในตอนนั้น, "Crazy Little Thing Called Love" และปิดท้ายด้วย "We Will Rock You" กับ "We Are the Champions" “มันเป็น...” เมย์เอ่ยขึ้น “วันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเรา"
​เมอร์คิวรีแทบจะอยู่ในทุกพื้นที่ของเวที เขาเล่นเปียโนในช่วงต้นเพลง "Bohemian Rhapsody” เดินวางมาดไปทั่วกับแกนขาไมค์ในเพลง "Radio Ga Ga" ขณะที่ผู้ชมต่างปรบมือตามเพลงอย่างพร้อมเพรียง เสียงร้องของเมอร์คิวรีก็ได้รับแรงหนุนในแบบที่ต้องเป็นหนี้แฟนๆ และช่วงนาทีนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เยี่ยมยอดมากพอๆ กับประหลาดใจ ก็ทำให้ศิลปินรายอื่นๆ ถึงกับเบือนหน้าหนีหรือไม่ก็รู้สึกตัวเล็กลงกว่าเดิมจากการแสดงของควีน ที่ผงาดขึ้นมาในตอนนั้น
​“แกน่ะ ชั่วมาก" เอลตัน จอห์น โวยออกมาที่หลังเวที “นายขโมยการแสดง!"
ควีนพยายามสร้างแรงเหวี่ยงจากเหตุการณ์นี้ ด้วยการเดินสายทัวร์ตามสนามกีฬาในปี 1986 ซึ่งยอดขายไปได้สวย แต่มันก็เป็นการออกทัวร์รอบโลกกับเมอร์คิวรีเป็นหนสุดท้าย เมื่อเขาพ่ายแพ้ต่อโรคเอดส์ในที่สุด หากระหว่างนั้น การแสดงของควีนที่ไลฟว์ เอดก็ได้รับการยอมรับที่มากขึ้นเรื่อยๆ
"วงดนตรีทุกวงควรดูควีนจากไลฟว์ เอด” เดฟ โกรห์ล พูดเมื่อไม่นานมานี้ “ถ้าคุณรู้สึกเหมือนว่าอุปสรรคต่างๆ มันหายไป คุณจะกลายเป็นเฟร็ดดี เมอร์คิวรี ผมมองว่าเขาคือนักร้องนำที่เจ๋งที่สุดตลอดกาลนะ”
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เมื่อ Queen ขโมยคอนเสิร์ทไลฟว์ เอด เป็นของตัวเอง คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 24 กรกฎาคม 2562
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos
จริงไหมที่เราเลิกฟังเพลงใหม่ตอนอายุ 30 ? หาคำตอบได้ที่นี่ >> https://www.blockdit.com/articles/5cd119c7c7c1f8130f5030c5

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา