21 ส.ค. 2019 เวลา 10:00 • ธุรกิจ
"ไมโครไฟแนนซ์ การเติบโตที่ธนาคารยังต้องอิจฉา"
ความเดิมตอนที่แล้ว - สินเชื่อ micro finance มีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก เพดานกฏหมายกำหนดให้เรียกเก็บได้สูงสุด 28%~36% ซึ่งมากว่ากว่า performance return ที่ warren buffet ทำได้จากการลงทุนเสียอีก
1
แต่ถึงแม้ micro finance ดูเหมือนเป็นตัวร้าย แต่ตอนนี้เขากำลังรับบทคนดีอยู่ คือการช่วยปราบ "หนี้นอกระบบ” นั่นเอง
การมีสาขาที่น่าเชื่อถือ ให้เข้ามาใช้บริการ พนักงานต้อนรับพูดคุยกับลูกหนี้ด้วยวาจาที่สุภาพ นั่งปุ๊บมีน้ำเย็นๆมาเสริฟ
พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้นอกระบบอยู่มากโข จึงไม่แปลกใจที่สินเชื่อ micro finance จะดูดซึมแย่งชิงตลาดจากหนี้นอกระบบได้อย่างรวดเร็ว
ในกลุ่มสินเชื่อ micro finance ทั้งหมด ถ้าจะให้ลงทุนระยะยาว แน่นอนว่ามันเติบโตได้แน่ๆอยู่แล้ว แต่คนที่จะมีความเสี่ยงถูกเบี้ยวหนี้น้อยที่สุด
เห็นจะเป็น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ. หรือ รถแลกเงิน นั่นเอง
ความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสีย( NPL) นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีอะไรมาค้ำประกัน. กรณีของ Nano Finance , Personal Loan , Pico Finance
นั้นเป็นการกู้ยืมแบบไม่มีหลักทรัพย์อะไรค้ำเลย ในสถิติของธนาคารที่มีบริการปล่อยกู้ประเภทนี้พบว่ามีลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้
จนต้องของประนอมหนี้ กลายเป็นหนี้สูญ คิดเป็น % ไม่น้อยเลย
หลัก common sense คือ ถ้ามีอะไรที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน และสินทรัพย์นั้นสามารถนำไปขายทอดตลาดได้ ในกรณีลูกหนี้เบี้ยวไม่จ่าย ดูเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ให้กู้
กรณีของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ บริษัทผู้ปล่อยกู้จะเน้นไปที่รถที่ใช้ทำมาหากิน ถ้าลูกหนี้เบี้ยวไม่จ่าย พวกเขาก็จะขาดอุปกรณ์ในการทำมาหากิน
-รถมอเตอร์ไซค์ ถ้าลูกค้าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ยังไงก็ให้ถูกยึดไม่ได้ เพราะจะหากินไม่ได้
-รถ tracktor , รถกระบะขนของ , รถบรรทุก ถ้าลูกค้าเป็นชาวนา ทำเกษตร จะขาดรถพวกนี้ไม่ได้
กลยุทธนี้นับว่าฉลาดมากๆเลยทีเดียว
ถ้าลูกหนี้จะเบี้ยวจริงๆ คงต้องเบี้ยวหนี้คนอื่น ไม่ใช่หนี้ของรถที่จำนำไว้กับบริษัท
จากสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้กู้นำเงินที่ได้ไปจ่ายหนี้นอกระบบ (อาจจะมองว่าปิดหนี้นอกระบบเสีย แล้วมาเป็นหนี้ micro finance แทน)
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นผู้นำสินเชื่อ micro finance
- MTC เดิมคือ MTLS : เน้นจำนำมอเตอร์ไซค์ รองมาเป็นรถยนต์ นอกนั้นรองลงมาเป็น ที่ดิน , รถ tracker
- SAWAD , BFIT : คล้ายๆกัน (แตกต่างที่สัดส่วน)
- SINGER : สินเชื่อ C4C ( Car for Cash) เน้นรถบรรทุก
- AMANAH : สินเชื่อ ATM (Auto to Money) เน้นปิคอัพ / รถยนต์
ที่เหลือจะอยู่ภายใต้ business unit ของธนาคารหลักๆ
การเติบโตในอดีตที่ผ่านมาของเจ้าตลาด อย่าง MTC , SAWAD กลยุทธที่ใช้เหมือนกันคือ การเปิดสาขาให้มากๆ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ การบริการท้องถิ่นให้มากที่สุด และใช้พนักงานเพื่อเดินตลาด (หมายถึงเดินตลาดสดจริงๆ) ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
พนักงานก็จะใช้คนท้องถิ่น คนพื้นที่ ที่รู้จักกับลูกหนี้อยู่แล้ว ทำให้พวกเขาสามารถรู้ได้ว่ามี demand กู้อีกเยอะน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ในการวางเป้าการเติบโตปีถัดไป
1
น่าแปลกที่สาขายิ่งเปิดเท่าไร ก็ไม่เกิด Canibalization กับสาขาเดิมที่เปิดอยู่ก่อน ยอดปล่อยกู้ต่อสาขาเพิ่มขึ้นตลอดทุกปี บ่งบอกถึงความต้องการใช้เงินมีมากจริงๆ
จำนวนสาขาที่เปิดจนถึงระดับ 4,000 สาขาทั่วประเทศ ยิ่งเปิดยิ่งมีความต้องการกู้ไม่ลดเลย เอกสาร MTC opportunity day Q2/2019
เอกสาร SAWAD Opportunity Day Q1/19
MTC เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (2014)
ด้วยพอร์ตลูกหนี้ 12,000 ล้าน (ดูช่อง Loan Receivable)
ในปี 2016 -> 2017 -> 2018
การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้พวกเขาสูงมากๆในระดับ ตามลำดับ
เมื่อ Loan Receivable โต รายได้จากดอกเบี้ย&ค่าธรรมเนียมก็โตมากตาม ( Revenue )
ในขณะที่บริษัทสามารถคุม cost ได้ จึงทำให้ กำไรสุทธิ( Net Profit) โตขึ้นไปกันใหญ่
'16 '17 '18
Loan Receivable Growth 77% , 71% , 48%
Net Profit Growth 86% , 51% , 35%
เอกสาร Opportunity Day MTC Q2/19
SAWAD เข้า IPO มาปีเดียวกันกับ MTC (เข้าก่อนไม่กี่เดือน) เริ่มต้นจากพอร์ตลูกหนี้ขนาดพอๆกัน แนวทางการเติบแม้จะดูไม่ Aggressive เท่ากับ MTC ก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงไม่น้อยเลย
เอกสารของ SAWAD จะแสดงภาพรวมของ Asset ทั้งหมด ซึ่งก็คือพอร์ตลูกหนี้ของ SAWAD นั้นเอง
(ดูช่อง Loan Due Within 1 Year , Loan Beyond 1 Year )
เอกสาร SAWAD Oppday Q1/19
เอกสาร Opportunity Day SAWAD Q1/19
ถ้านักลงทุนถือหุ้น 2 ตัว ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
MTC IPO ราคา 5.5บาท @พาร์ 1.00
SAWAD IPO ราคา 6.9บาท @พาร์ 1.00
พบว่า MTC เป็นหุ้น 10 เด้งในระยะเวลา 5 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ( ปัจจุบันราคา 55 บาท เคยขึ้นไปสูงสุด 66 บาท )
** คิดผลตอบแทนแบบเฉลี่ยทบต้นต่อปี
ของหุ้น 10 เด้งใน 5 ปี (10 sqaure root 5 = 1.5848)
คือเติบโตปีละ 58.48%
tradingview.com
ส่วน SAWAD นั้น อาจจะดูจากราคาตรงๆไม่ได้ซะทีเดียว เพราะระหว่างมีการจ่ายปันผลเป็นหุ้น 10ต่อ1 , 18ต่อ1 , 25ต่อ1 รวมถึงมีการเพิ่มทุน PP จากกลุ่ม Cathey Finance ในปีที่ผ่านมา แต่ดูคร่าวๆก็ถือว่าเติบโตได้สูงมากๆ เกือบเท่า MTC เลย
tradingview.com
คำถามคือ ต่อจากนี้ไปอีก 3-5ปี MTC & SAWAD จะเติบโตได้อีกมั้ย ?
บอกเลยว่าขนาด market cap ของ MTC & SAWAD ไม่ใช่เล็กๆแล้ว ( MTC แสนล้าน ณ ตอนนี้ )
*** ตามสไตล์ GMH เราจะไม่มอง "ม้าที่เข้าเส้นชัยไปแล้ว" ที่เราเอา MTC & SAWAD มาให้ดูเป็นเพียงสรุปภาพรวมคร่าวๆ เท่านั้น
แต่เราจะทำการบ้านเจาะลึกมองหา "ม้ามืด" ที่ยังไม่ค่อยมีใครคาดหวังกับมันเท่าไร นั่นก็คือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ขอบคุณที่ติดตาม GMH Blockdit
###
ทุกๆบทความที่ได้ดาว GMH จะนำรายได้ทั้งหมดมอบให้เด็กพิการและผู้ป่วยยากไร้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา