19 ส.ค. 2019 เวลา 17:02 • ประวัติศาสตร์
Project Azorian ปฏิบัติการ ลับ ลวง พราง สุดยอดโครงการขี่ช้างจับตั๊กแตน 😲
ปฏิบัติการเก็บกู้ซากเรือดำน้ำของอดีตสหภาพโซเวียตโดยไม่ให้โลกรู้
วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นเรื่องประวัติศาสตร์กันบ้าง จากที่เขียนจดหมายหาหลานแล้วยังไม่พอขออีกเรื่อง ยาวหน่อยนะ 😁
เมื่อเรือดำน้ำพิฆาตพร้อมด้วยขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ K-129 จมลงในปี 1968 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การควบคุมภารกิจโดย CIA และอภิมหาเศรษฐี โฮเวิร์ดฮิวจ์ ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเก็บกู้ซากเรือดำน้ำนี้
K-129 เรือดำน้ำชั้น golf ll ของอดีตสหภาพโซเวียต Cr: Wikipedia Common
ในเดือนมีนาคม 1968 เรือดำน้ำ เครื่องยนต์ดีเซล K-129 กำลังอยู่ระหว่างภารกิจลาดตระเวนกะสุดท้ายเป็นเวลา 70 วัน อยู่ห่างจากฮาวาย 2500 กิโลเมตร ได้ขาดการติดต่อกับฐานทัพเรือที่ Kamchatka ไม่ติดต่อกลับตามเวลาเช็คอิน
1
ในเรือประกอบด้วยลูกเรือ 98 ชีวิตพร้อมด้วยขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร ขนาด 1 เมกะตัน ตอปิโด ติดหัวรบนิวเคลียร์ และอุปกรณ์เข้ารหัสการสื่อสาร
เมื่อขาดการติดต่อกองทัพเรือของอดีตสหภาพโซเวียตก็ได้เริ่มปฏิบัติการกู้ภัยทันที ทั้งทางอากาศผิวน้ำและ ใต้ทะเล
ด้วยการทุ่มกำลังในการค้นหาอย่างมโหฬารย่อมเป็นที่น่าสงสัยต่อกองทัพเรือสหรัฐ ว่านี้ไม่ใช่การกู้ภัยธรรมดาแน่ๆ
ซึ่งทางอเมริการู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นจากระบบเฝ้าระวังเสียงใต้น้ำ hydrophones monitored โดย U.S. Air Force's Technical Applications Center (AFTAC)
1
AFTAC สามารถตรวจจับเสียงการระเบิดภายในเรือ รวมถึงสามารถระบุตำแหน่งที่ค่อนข้างแน่ชัดของจุดที่เรือจม ซึ่งห่างจากบริเวณที่กองทัพเรือ ของอดีตสหภาพโซเวียตระดมค้นหาเกือบ 200 กิโลเมตร
1
จุดที่เรือจมอยู่ใกล้กับฮาวายมากกว่าที่ กองทัพเรือของอดีตสหภาพโซเวียตคาดการณ์ไว้มาก Cr: Wikipedia Common
หลังจากความพยายามค้นหาอยู่ 2 เดือน กองทัพเรือของอดีตสหภาพโซเวียตจึงได้ประกาศว่าเรือ K-129 หายสาบสูญและยกเลิกการค้นหา
หลังจากที่ทีมกู้ภัยถอนตัว อเมริกาจึงได้ส่งเรือดำน้ำ USS Halibut เข้าไปสำรวจในจุดที่เรือจม และได้ถ่ายภาพมาเป็นพันๆ ภาพ
ซึ่งพบว่า K-129 ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากมีเพียงส่วนห้องเครื่องด้านท้ายเรือเท่านั้นที่เสียหาย
เมื่อรู้เช่นนี้อเมริกาเล็งเห็นว่านี่มันคือโอกาสทองในการได้มาซึ่งขีปนาวุธ SS-N-5 Serb ที่อยู่ในเรือ ซึ่งอเมริกาอยากได้อย่างมาก และเคยถอดใจในการที่จะทำการโจรกรรมไปแล้ว
1
ยังไม่รวมถึงอุปกรณ์เข้ารหัสการสื่อสารที่อยู่ในเรือ ทำให้อเมริกาเริ่มคิดจริงจังกับการกู้ซากเรือ K-129
ก่อนหน้านั้นภารกิจการกู้ซากลึกที่สุดที่เคยทำกันคือที่ความลึก 80 เมตร และเป็นซากดาวเทียมที่มีน้ำหนักเพียงไม่กี่ร้อยกิโล แต่นี่คือซากเรือดำน้ำที่นอนอยู่ก้นมหาสมุทรลึก 6 กิโลเมตรและหนัก 2000 ตัน
1
ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ได้ตัดสินใจว่าจะเก็บกู้ซากเรือนี้อย่างลับ ๆ ภายใต้การควบคุมโดย CIA แทนที่จะเป็นกองทัพเรือสหรัฐ
** กำเนิด Project Azorian **
โครงการนี้เป็นปฏิบัติการ ลับ ลวง พรางใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่โครงการแมนฮัตตันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีมูลค่ามากกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านเหรียญในปัจจุบัน 😲
โดย CIA ได้ติดต่อ โฮเวิร์ดฮิวจ์ นักธุรกิจชื่อดังในสมัยนั้น เพื่อทำการต่อเรือกู้ซากโดยบริษัท Global Marine Development ของเขา
โดย CIA ได้สร้างเรื่องแต่งเพื่อปกปิดภาระกิจโดยอ้างว่าเรือ Glomar (Global Marine) Explorer ต่อขึ้นด้วยจุดประสงค์ในการขุดแร่แมกนีเซียม จากพื้นมหาสมุทร
ถึงขั้นมีการทำเป็น project ทางวิทยาศาสตร์ชื่อโครงการโนวา เพื่อให้ดูสมจริงว่าเป็นโครงการ โดยเอกชนจริงๆ
เรือ Glomar Explorer, Cr: Wikipedia Common
มาถึงตรงนี้นี่ หน้าของพ่อ Ironman ลอยขึ้นมาเลยครับ รู้เลยว่าตัวละครตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใคร 😁
1
Howard Hughes พ่อของโทนี่สตาร์ค ไม่ใช่ละ!! มหาเศรษฐีชาวอเมริกันในยุคนั้น เป็นทั้ง วิศวกร นักบิน นักประดิษฐ์ นักลงทุน ผู้กำกับภาพยนตร์ (เป็นเยอะจัด คนอะไร 😅)
หลังจากเริ่มต่อในปี 1972 เรือ Glomar Explorer ก็เริ่มเดินทางออกจาก อ่าวลองบีชที่แคลิฟอร์เนียในเดือนมิถุนายน ปี 1974
แม้ว่าจะล่องเรือไปถึงจุดที่เรือจมแต่ปฏิบัติการกู้ซากก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่าประธานาธิบดีนิกสันจะกลับมาจากการเยือน มอสโคในวันที่ 3 กรกฎาคม
จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าข่าวของปฏิบัติการ Azorian รู้ไปถึงมอสโคได้อย่างไร เพราะเรือ Glomar Explorer ถูกตามสอดแนมด้วยเรือของอดีตสหภาพโซเวียตอยู่ตลอดเวลา
โดยในกรณีเลวร้ายที่สุด ถ้าหากเรือของอดีตสหภาพโซเวียตที่ตามอยู่มีท่าทีคุกคามต่อเรือ Glomar Explorer กองทัพเรือสหรัฐจะทำการจมเรือ Glomar Explorer ทิ้ง ซึ่งลูกเรือ Glomar Explorer ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เรือ Glomar Explorer ถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์ รักษาเสถียรภาพเรือที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุด เพื่อให้เรือสามารถลอยลำได้นิ่งขณะทำการดึงซากเรือ K-129 ขึ้นมา แม้ไม่ว่าสภาพอากาศข้างบนผิวน้ำจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
ช่องปล่อยอุปกรณ์เก็บกู้ซากเรือ ใต้ท้องเรือ
เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงสายตาของกองทัพเรืออดีตสหภาพโซเวียต ที่ส่งเฮลิคอปเตอร์บินบนสอดแนม เรือ Glomar Explorer ได้ออกแบบให้มีช่องเปิดขนาดเท่าสนามฟุตบอลที่กลางลำตัวเรือ เพื่อใช้ในการหย่อนอุปกรณ์เก็บกู้ซากเรือ
4
** ช่วงภารกิจ **
เมื่อเริ่มภารกิจ กรงเล็บหนีบขนาดยักษ์ที่สร้างโดย Lockheed และ Skunk Works สามารถหนีบและยกตัวเรือ K-129 ได้อย่างพอเหมาะ แต่เมื่อมาได้เกือบครึ่งทาง ตัวหนีบข้างหนึ่งเกิดไม่ทำงาน ทำให้ตัวเรือหลวมหลุดเอียงตะแคงข้าง
ที่น่ากลัวที่สุดของลูกเรือคือ ประตูท่อยิงขีปนาวุธเปิดออก ทำให้ขีปนาวุธที่อยู่ด้านในค่อยๆร่วงลงสู่พื้นทะเล
2
ตามมาด้วยการที่เหลือที่จับเพียงข้างเดียวทำให้รับน้ำหนักเรือไม่ไหว ตัวเรือส่วนใหญ่จึงหัก และดึงให้ที่จับข้างที่เสียร่วงลงสู่ก้นทะเลพร้อมกันกับซากเรือส่วนใหญ่
เก็บกลับมาได้แค่นี้
เคราะห์ดีที่ขีปนาวุธในเรือไม่เกิดการระเบิดไม่เช่นนั้น นี่คงจะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
** สรุปภารกิจ **
เป็นการจบภารกิจโดยได้มาเพียงส่วนหัวของเรือความยาว 11.5 เมตรเท่านั้น ที่สามารถดึงขึ้นไปถึง ช่องภายในตัวเรือ Glomar Explorer ความหวังที่จะได้ขีปนาอาวุธ เครื่องยนต์เรือ หรือสมุดรหัสของอดีตสหภาพโซเวียตเป็นอันต้องคว้าน้ำเหลว
4
ในส่วนหัวของเรือยังพบศพลูกเรือ 6 ศพ แม้ว่าทางอเมริกาตั้งใจจะแอบนำซากเรือนี้กลับไปอย่างลับๆ แต่ก็ยังได้ทำพิธีศพตามธรรมเนียมทหารเรือเต็มรูปแบบ และนำร่างของพวกเขากลับคืนสู่ท้องทะเลอีกครั้ง
โดยวีดีโอการจัดพิธีศพให้แก่ลูกเรือทั้ง 6 นาย ยังถูกไปนำไปแสดงให้ประธานาธิบดีรัสเซีย นาย บอริส เยลซอล ได้ชมด้วย หลังจากที่อเมริกาและรัสเซียผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกันในปี 1992
1
ทั้งนี้ในปี 1975 นักข่าวจาก Rolling Stone Magazine นาม Harriet Phillippi Ryan ได้ยื่นเรื่องให้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับเรือ Glomar Explorer
1
ทาง CIA บอกแต่เพียงว่าไม่ขอยืนยันหรือปฏิเสธ ใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับข่าวลือของเรือ Glomar Explorer
2
** ชะตากรรมของ Glomar Explorer และสาเหตุการจมของเรือ K-129 **
หลังจากที่ General Services Administration (GSA) ไม่สามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับข่าวลือของเรือ Glomar Explorer ได้ ในเดือนกันยายนปี 1976, GSA จึงได้โอนมอบเรือให้กับกองทัพเรือเพื่อทำการเก็บรักษา
ตราบจนถึงปัจจุบัน เรือ Glomar Explorer ยังถือครองสถิติการเก็บกู้ซากที่ลึกและหนักที่สุด
ในปี 2010 เรือ Glomar Explorer ถูกซื้อโดยบริษัท Transocean และในเดือนเมษายน 2015 Transocean ได้ประกาศแยกชิ้นส่วนเรือ Glomar Explorer ก่อนที่จะถูกส่งไปแยกชิ้นส่วนที่จีนในปีเดียวกัน เป็นอันสิ้นสุดตำนาน 😔
1
เกิดอะไรขึ้นกับเรือ K-129 ??
เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนา
- อาจจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่
- ถูกยิงโดยเรือดำน้ำสหรัฐฯ เนื่องจากอยู่ใกล้ฮาวายมาก
- การต่อสู่กันเองภายในเรือเนื่องจากมีความพยายามแปรพักตร์ไปเข้ากับสหรัฐฯ เพราะตำแหน่งที่เรือจมอยู่ใกล้ฮาวายกว่าที่ควรจะเป็นมาก
1
ก็จบกันไปกับปฏิบัติการขี่ช้างจับตั๊กแตนของจริงในประวัติศาสตร์ ก็ทำกันไปได้เนาะ 😅
คราวหน้าไว้มาเล่าให้ฟังกันอีกกับปฏิบัติการสุดเวอร์วังในการแอบดักฟังสายเคเบิลใต้น้ำ 😉

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา