แก้เกมส์...เด็กอ่านหนังสือไม่ค่อยออก เขียนไม่ค่อยได้???
เป็นเรื่องที่ทุกโรงเรียนต้องเจอกับปัญหาเด็กอ่านหนังสือไม่ค่อยออก!
ที่ประเทศ Holland ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ค่ะ มาดูวิธีการรับมือกับปัญหานี้กันดีกว่าค่ะ ว่าโรงเรียนที่ Holland นั้นทำกันอย่างไร
นักเรียนอนุบาลถึงประถม 1 นี่ เด็ก ๆ ยังเล็กนักแถมเป็นลูกผสมกันเสียก็ส่วนหนึ่ง พูดภาษา Dutch ได้แต่การออกเสียงและการสะกดคำนี่อาจจะยังไม่ค่อยดีนัก
ถีงเด็กจะอ่านหนังสือออกแต่เขียนสะกดคำไม่ได้ในเกณฑ์มาตรฐานที่ทางหน่วยงานการศึกษากำหนดนี่ถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนี่งเลยค่ะ ทุกโรงเรียนจึงต้องมีระบบการเรียนการสอนไว้แก้เกมส์ค่ะ
ยกตัวอย่างในบางโรงเรียนนะคะ เมือเด็กบางคนอ่านไม่ออก สะกดไม่ค่อยคล่องซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีผลไปถึงการเขียนด้วย ดังนั้นเมื่อห้องใดมีปัญหาแบบนี้...
คุณครูจะส่ง e-mail ไปหาผู้ปกครองของห้องนั้นแล้ว...ประกาศขออาสาสมัครมาช่วยสอนเด็กตามวันเวลาที่กำหนด แล้วแต่ว่าใครจะว่างวันไหนก็มาวันนั้นค่ะ
โดยส่วนใหญ่แล้วหากใครว่างก็มักจะไม่ลังเลที่จะมาช่วยกันค่ะ โดยสอนกันในเวลาเรียนประมาณ 30 - 45 นาที เท่านั้น เพราะเด็กจะมีสมาธิประมาณนั้นค่ะ
วิธีการสอน...ผู้ปกครองอาสาสมัครจะพูดคุยเล่นทำความคุ้นเคยกับเด็กนักเรียนคนนั้นก่อน แล้วจะพาไปสอนกันเงียบ ๆ ที่ห้องกิจกรรมหรือห้องที่ไม่มีใครใช้งาน
ผู้ปกครองจะนั่งกันคนละมุม สอนกันอย่างเงียบ ๆ ตามเทคนิคของแต่ละคนหรือจากคำแนะนำคร่าว ๆ ของคุณครูค่ะ
ส่วนคุณครูก็ทำหน้าที่สอนเด็กคนอื่น ๆ ในห้องตามปกติ ไม่เสียงาน ไม่ต้องสอนล่วงเวลาและไม่ต้องจ้างครูสอนพิเศษด้วยค่ะ
แล้วหากผู้ปกครองมีมาน้อย ไม่ครบจำนวนคน ไม่ครบจำนวนวันที่ต้องสอนพิเศษเด็กล่ะ!!!
ทางโรงเรียนก็จะประกาศโดยการส่ง e-mail ไปที่ปกครองอีกรอบค่ะว่าต้องการอาสาสมัครเพิ่ม
และถ้าหากว่าถึงที่สุดแล้วคนไม่พอล่ะ ทำไงล่ะทีนี้ เหอะ เหอะ เหอะ
ง่ายแสนง่ายค่ะ.....ประกาศรับอาสาสมัครจากรุ่นพี่ชั้นป.6 ให้มาช่วยสอน หากไม่พอก็ประกาศรับอาสาสมัครจากรุ่นพี่ชั้นป.5 ด้วยค่ะ แหม่...คราวนี้ล่ะ พอยิ่งกว่าพออีก ยกมือกันยกใหญ่ขอเป็นอาสาสมัครเต็มไปหมด
หากถามว่าทำไมถึงไม่รับอาสาสมัครรุ่นพี่ไปซะตั้งแต่แรก คงต้องขอตอบตรงนี้ว่า....
โรงเรียนที่ประเทศ Holland นั้นทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง ที่นี่เด็กเป็นใหญ่และสำคัญมาก อะไรที่ช่วยกันได้ต้องลงมาช่วยกันก่อนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีการบังคับใด ๆ ทั้งสิ้่นค่ะ
เมื่อเด็กชั้นไหนมีปัญหาก็ต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครองชั้นนั้นก่อน หากถึงที่สุดผู้ปกครองติดงานและไม่สามารถมาช่วยได้แล้วจึงขอความร่วมมือจากรุ่นพี่ค่ะ
รุ่นพี่ก็แสนน่ารักสอนน้อง ๆ ด้วยความใจเย็นและอดทนแบบที่คาดไม่ถึงว่าเด็กแค่ชั้น ป.5 และ ป.6 จะอารมณ์เย็นได้ขนาดนี้เลยค่ะ
ส่วนรุ่นน้องก็น่าเอ็นดู พี่ว่าอะไรก็พยายามทำตาม หัวเราะยิ้มแย้มแจ่มใสมีสัมพันธภาพที่ดีและเอื้ออาทรต่อกัน
เมื่อนักเรียนถึงชั้น ป.2 นี้แทบจะขีดเส้นตายว่าต้องอ่านออก เขียนได้ดีกันทุกคน หากยังมีปัญหาทางโรงเรียนก็มีการเปิดห้องพิเศษสอนการสะกดคำโดยเฉพาะมีคุณครูผู้ชำนาญการด้านนี้โดยเฉพาะหรือมีทั้งเชิญผู้เชียวชาญเฉพาะด้านมาสอนค่ะ
ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนโดยสอนครั้งละไม่เกินชั่วโมง สอนแบบสนุก ๆ ไม่ซีเรียสแต่แอบใส่รายละเอียดในการสอนนั้น ๆ ให้เด็กได้จดจำ สนุกและเรียนรู้เทคนิคด้านการสะกดคำด้วยตนเองค่ะ
พอขึ้นชั้นประถมปีที่ 3 ทุกอย่างสบายแล้วค่ะ เด็กอ่านออก เขียนได้ สอบได้คะแนนดีกันทุกคน ทั้งพูด ฟัง อ่าน เขียน
เพราะพอเด็กสะกดคำได้ เด็กก็อ่านออก เขียนได้สบายค่ะ
เมื่อสมัยก่อนแอดสอนเด็ก ๆ แบบ Tutor จำเป็น เจอน้อง ๆ ที่เรียนจากโรงเรียนอนุบาลชื่อดังอ่านหนังสือแบบท่องจำ ถ้านอกคำจากในตำราแล้วไปไม่เป็นเลย
โดยแอดก็สอนรวมกับน้อง ๆ จากโรงเรียนวัดแถวนั้นซึ่งก็อ่านไม่ค่อยออกเขียนไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ
รู้ไหมคะว่าสอนภาษาไทยแบบไหนได้ผลดีที่สุดสำหรับแอดนั่นคือการสอนโบราณ ๆ แบบตำราเรียนมานี-มานะ-ปิติ-ชูใจและการสอนแบบมาตราแม่สะกดน่ะค่ะ
โหว....รู้ไหมคะผู้ปกครองเด็กทุกคนมาบอกแอดว่าน้อง ๆ เขียนเรียงความและอ่านหนังสือเก่งขึ้นมาก พากันตบรางวัลเป็นอาหารมาให้กันยกใหญ่เลยล่ะค่ะ
ฮั่นแน่...เพื่อน ๆ รู้แล้วใช้ไหมคะว่าอายุอานามแอดน่ะเบอร์ไหน อิ อิ อิ
- 14
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
