27 ส.ค. 2019 เวลา 14:10 • สุขภาพ
5️⃣0️⃣ 🍀“กัญชา” ให้โทษ หรือ ให้คุณ⁉️
1
เป็นพืชที่ แค่มองก็เคลิ้มแล้ว ☺️
🌿 ชื่อ : กัญชา
1
🌿 ชื่อพื้นเมืองท้องถิ่น : ปาง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), ยานอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), คุนเช้า คุณเช้า (จีน), ต้าหมา (จีนกลาง)
🌿 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cannabis sativa L.
🌿 ชื่อวงศ์ : CANNABACEAE (จัดอยู่ในวงศ์กัญชา)
🌿 ชื่อสามัญ : Cannabis, Hemp, Indian Hemp, Marihuana, Marijuana, Dope, Gage, Ganja, Grass, Hash, Hashish, Kuf, Mary jane, Pot, Sens, Sess, Skunk, Smoke, Reefer, Weed
"กัญชา" มีทั้งคุณและโทษ ❤️
✅ต้น : จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว มีความสูงได้ประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีขนาดเล็ก ตั้งตรง ลักษณะของลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนสีเขียวอมเทาและไม่ค่อยแตกสาขา ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ขึ้นได้ในดินทุกชนิด ถ้าปลูกในดินร่วนซุยและมีอาหารอุดมสมบูรณ์จะงอกงามดีมาก พืชชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย มีเขตการกระจายพันธุ์ในอัฟกานิสถาน ทวีปแอฟริกาเขตร้อน ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และฮาวาย พบปลูกมากในยุโรป ประเทศบราซิล อเมริกันแถบตะวันออก และปลูกมากตามแนวเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย
2
✅ใบ : ใบเป็นใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบแตกออกเป็นแฉกๆ ประมาณ 5-8 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปยาวรี ปลายและโคนสอบ ส่วนขอบใบทุกแฉกเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ลักษณะของใบโดยรวมจะคล้ายๆ กับใบละหุ่ง, ใบฝิ่น, ต้นและใบมันสำปะหลัง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างท้องใบมีสีเทาอ่อนเล็กน้อย มีขนต่อมกระจายทั่วผิวใบด้านบน ส่วนด้านล่างมีขนอ่อนนาบไปกับแผ่นใบ มีกลิ่นเหม็นเขียว
ดอกตัวผู้ ดอกตัวเมีย เมล็ด 😇
✅ดอก : ออกดอกเป็นช่อที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว ดอกเป็นแบบแยกเพศ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่คนละต้น โดยช่อดอกและใบของต้นเพศผู้จะจัดเรียงตัวกันแบบห่างๆ ซึ่งต่างจากต้นเพศเมียที่จะเรียงชิดกัน ดอกเล็ก และดอกเพศเมียจะมีกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่
✅ผล : ผลแห้งขนาดเล็ก เมล็ดล่อน ไม่แตก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่กว้าง ผิวผลเรียบเป็นมัน สีน้ำตาลแกมเทาหรือสีเทาเข้ม มีใบประดับหุ้ม ในผลจะมีเมล็ดขนาดเล็ก เมล็ดมีลักษณะกลม
"กัญชา" ต่างจาก "กัญชง" เพียงเล็กน้อยเท่านั้น☝🏻
🔴หมายเหตุ🔴
กัญชง และ กัญชา เป็นพืชคนละชนิด แต่มีต้นกำเนิดมาจากพืชชนิดเดียวกัน โดยต้นกัญชา (Marijuana) จะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. Subsp. indica (Lam.) E. Small & Cronquist ส่วนต้นกัญชง (Hemp) จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannnabis sativa L. Subsp. sativa ซึ่งลักษณะภายนอกของพืชทั้งสองชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยจนยากแก่การจำแนก
🌱สรรพคุณ🌱
🔹เมล็ด : ตำรายาไทยใช้เมล็ดกินเป็นยาชูกำลัง ช่วยเจริญอาหาร แต่ถ้ากินมากจะมีอาการหวาดกลัวและหมดสติ เป็นยาแก้กระหายน้ำ แก้ท้องผูก ยาพื้นบ้านล้านนาใช้เป็นยาคุมกำเนิดสำหรับสตรี
🔹ยอดอ่อน : ยอดอ่อนเมื่อนำมาสกัด จะได้สารที่เรียกว่า "ทิงเจอร์แคนเนบิสอินดิคา" ซึ่งเป็นน้ำยาสีเขียว เมื่อกินเข้าไปประมาณ 5-15 หยด จะมีสรรพคุณเป็นยาช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท เป็นยาสงบเส้นประสาท ทำให้นอนหลับ เคลิ้มฝัน แก้โรคสมองพิการ เป็นยาระงับปวด และเป็นยาแก้อักเสบ แก้โรคบิด แก้ปวดท้อง และโรคท้องร่วง
🔹ดอก : แก้โรคเส้นประสาท นอนไม่หลับ คิดมาก แก้เบื่ออาหาร ช่วยกัดเสมหะในลำคอ
🔹ใบ : ใช้เป็นยาแก้ไข้ผอมเหลือง ไม่มีกำลัง ตัวสั่น เสียงสั่น รักษาโรคหอบหืด ช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม
🔹ทั้งต้น : แก้ประจำเดือนไม่ปกติของสตรี แก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน
🔵นอกจากสรรพคุณที่กล่าว ในทางการแพทย์ยังใช้ประโยชน์จากกัญชาในการรักษาโรคและบรรเทาอาการอย่างหลากหลาย เช่น ใช้แก้ปวดหัวไมเกรน แก้อาการสั่นเพ้อ แก้อาการไอ อ่อนล้า ปวดประจำเดือนของสตรี โรคข้อ หรือกระทั่งโรคมะเร็งบางชนิด
🔴ข้อควรระวัง🔴
ในกรณีที่รับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน มีอาการชัก ตาลาย หรือกลายเป็นเสพติด ในผู้ชายหากรับประทานมากเกินไปจะทำให้น้ำกามเคลื่อน ส่วนสตรีที่รับประทานมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการตกขาว
➕ประโยชน์อื่น➕
➖ เส้นใยของลำต้น สามารถนำมาใช้ในการทอผ้าหรือทอกระสอบได้ ซึ่งจะได้ผ้าที่มีคุณภาพดี มีความเหนียวสูง มีค่าการต้านแรงดึงสูง มีความยืดหยุ่น มีแรงบิดสูง น้ำหนักเบา และมีความคงทนมาก นิยมใช้ทำเสื้อเกราะ วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์รถยนต์ เป็นต้น
➖ทุกวันนี้บริษัททำกระดาษของอเมริกาและญี่ปุ่น ต้องทำลายป่าไม้ปีละกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตร แต่การปลูกกัญชาซึ่งเป็นพืชที่มีวงชีวิตเพียง 120 วัน สามารถที่จะปลูกได้ 10 ตันต่อพื้นที่ 2 ไร่ ภายในเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งปลูกได้เร็วกว่าฝ้าย 4 เท่า และให้น้ำหนักมากกว่าฝ้ายถึง 3 เท่า อีกทั้งกัญชายังไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง และยังช่วยเพิ่มคุณภาพของดิน โดยจากการศึกษาพบว่า กัญชาสามารถปลูกและนำมาทำกระดาษได้มากเป็น 4 เท่าของการทำไม้ยืนต้น เส้นใยมีคุณภาพที่ดีกว่า ไม่ต้องใช้คลอรีนเหมือนการทำจากไม้ ซึ่งจะทำให้เกิดสารไดออกซิน ส่วนที่เหลือจากการทำเส้นใยก็สามารถนำมาผสมกับปูนขาวและน้ำ ก็จะได้วัสดุที่เบาและแข็ง มีความทนทานกว่าปูนซีเมนต์ (มีการกล่าวกันว่า กระดาษที่ใช้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิล ธงชาติอเมริกัน หรือกางเกงยีนส์ลีวายที่ลือชื่อ แต่เดิมก็ทำมาจากป่านที่ได้จากต้นกัญชาทั้งสิ้น)
2
➖ใบจากพืชชนิดนี้สามารถนำมาใช้เลี้ยงสัตว์ได้ นอกจากนี้ เศษหรือกากที่ได้จากการสกัดเอาน้ำมันจากเมล็ดออกแล้ว ยังใช้เป็นอาหารของโค กระบือ ได้อีกด้วย
➖น้ำมันที่ได้จากเมล็ดจะเป็นน้ำมันไม่ระเหย (fixed oil) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ใช้ทำสีทาบ้าน ทำสบู่ เป็นต้น
☠️โทษของกัญชา☠️
ในเบื้องต้นการเสพกัญชาจะมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ผู้เสพมีอาการร่าเริง ช่างพูด ตื่นเต้น หัวเราะตลอดเวลา ต่อมาจะมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้ผู้เสพมีอาการคล้ายเมาเหล้าอย่างอ่อน เซื่องซึม และง่วงนอน หากเสพเข้าไปในปริมาณมากจะหลอนประสาททำให้เห็นภาพลวงตา หูแว่ว หวาดระแวง ความคิดสับสน และควบคุมตัวเองไม่ได้ ในบางรายอาจไม่รู้จักตนเองหรือไม่เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว การเสพกัญชาแม้เพียงระยะสั้น ผู้เสพบางรายอาจสูญเสียความทรงจำได้ เพราะกัญชาจะทำให้สมองและความจำเสื่อม เกิดความสับสน วิตกกังวล และหากผู้เสพเป็นผู้ที่มีอาการทางจิตด้วยแล้ว ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติทั่วไปด้วย โดยอาการทางจิตประสาทที่พบได้บ่อย ๆ คือ สมาธิสั้น ความจำแย่ลง มีปัญหาในการตัดสินใจ และบางคนอาจมีปัญหาเรื่องการทรงตัว นอกจากนี้ยังส่งผลอื่น ๆ ต่อร่างกายด้วย เช่น ม่านตาหรี่ ตาแดง มีความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ หัวใจเต้นเร็ว กัญชามีฤทธิ์ทำลายสมรรถภาพทางกาย ผู้เสพในปริมาณมากเป็นระยะเวลานานจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม กัญชายังมีฤทธิ์ทำลายความรู้สึกทางเพศ ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในชายลดลง ทำให้ปริมาณอสุจิน้อยลง ผู้เสพจึงมักมีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในที่สุด ด้วยฤทธิ์ของกัญชาที่ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล รู้สึกสนุกสนาน เคลิบเคลิ้มมีความสุข จึงทำให้มีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์และเสพติดกัญชาเป็นจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ โดยจะมีจำนวนเป็นรองก็แต่กลุ่มคนที่ติดสุรา กาแฟ และบุหรี่เท่านั้น
1
⤵️สรุปคำพูดที่ว่า⤵️
🔴"กัญชา" ไม่ทำให้เสพติดจริงหรือ⁉️
👍🏻จริงอยู่ที่ว่าสาร THC และสารออกฤทธิ์อื่นๆ ที่มีอยู่ในกัญชานั้นมีฤทธิ์ทำให้เสพติดได้น้อยกว่านิโคตินค่อนข้างมาก แต่หากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือแม้จะไม่ใช้ทุกวัน หรือใช้เพียงสัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง "ก็สามารถทำให้เสพติดได้" ซึ่งจะเป็นภาวะการเสพติดโดยไม่รู้ตัว หรือที่เรียกว่า "ภาวะสมองติดยา" คือสมองจะค่อยๆ ปรับตัวและสมดุลของสารเคมีในสมองนั้นจะเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ แม้ว่าจะไม่รวดเร็วหรือรุนแรงเท่าการออกฤทธิ์ของยาบ้า ยาไอซ์ หรือยาอีก็ตาม แต่เมื่อสารเคมีในสมองผิดปกติเป็นประจำ ในที่สุดสมองก็จะไม่สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างปกติ ทำให้ผู้เสพมีอาการถอนยาเกิดขึ้น และต้องกลับมาเสพอีกในที่สุด
👍🏻ที่หลายคนพูดว่า กัญชาเป็นยาเสพติด "ที่ไม่เสพติด" ความจริงแล้วเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากกว่าความเข้าใจผิด ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ยาเสพติดส่วนใหญ่นั้นส่วนมากร้อยละ 90 จะเป็นสารเคมีหรือสารสังเคราะห์ (ยาบ้า, ยาไอซ์, ยาอี, สารระเหย) และอีกร้อยละ 10 จะเป็นพวกสารเสพติดที่ได้จากพืช (กัญชา, กระท่อม, ฝิ่น, ยาสูบ, เห็ดขี้ควาย) ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องใช้ในปริมาณมากกว่ากลุ่มแรก เพราะไม่ได้สกัดเอาเฉพาะสารเคมีที่ออกฤทธิ์มาใช้ ข้อดีคือจะมีฤทธิ์เสพติดรุนแรงน้อยกว่า แต่หาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่ากลุ่มแรกมาก
2
👍🏻ถ้าชอบกด Like ใช่กด Share👍🏻
❤️เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ❤️
🙏🙏 Special Thanks 🙏🙏
• ข้อมูล : Wikipedia
• ข้อมูล : medthai
• รูปภาพ : Google, Flickr
⭐️ เรียบเรียงโดย ⭐️
🍃 นายนิว 🍃

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา