10 ก.ย. 2019 เวลา 14:54 • ธุรกิจ
เจาะหุ้นกลุ่มเดินเรือ น่าลงทุนหรือไม่เมื่อ BDI Comeback !!
“หุ้นกลุ่มเดินเรือ” ถือเป็นหุ้นอีกกลุ่มนึงที่ปีก่อนได้กอดคอพากันร่วงหนักทั้งกลุ่มจากดัชนี BDI ที่ลดลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดๆ แต่ในปีนี้กลับมามีการฟื้นตัวขึ้นอย่างน่าพอใจและน่าสนใจไม่แพ้กัน
.
BDI หรือ Baltic Dry Index คือดัชนีที่กำหนดค่าระวางเรือหรือเอาง่ายๆก็คือราคาการขนส่งสินค้าทางทะเลนั่นเอง ซึ่งได้มาจากการคำนวณของดัชนีทั้ง 3 ตัว (BCI,BPI,BSI) และแน่นอนว่ารายได้ของเรือแบบเทกระจาดก็จะขึ้นอยู่กับดัชนี BDI เป็นหลัก
.
และล่าสุดดัชนี BDI ก็ได้กลับมาฟื้นตัวในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นมายืนเหนือ 2,000 จุด ถือว่าสูงที่สุดในรอบเกือบ 6 ปีและเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับหุ้นกลุ่มเดินเรือ
1
โดยมีปัจจัยหลักมาจากเหมืองแร่ที่บราซิลถล่มไปเมื่อช่วงปลายปี 61 ทำให้สินค้าจำพวกแร่เหล็กขาดการส่งและต้องกลับมาส่งชดเชยในช่วงนี้ อีกทั้งในปีนี้การส่งออกปูนซีเมนต์ไทยก็ได้มีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงสถานะการณ์ของสงครามการค้าที่กำลังคลี่คลาย
.
ในตอนนี้หลายๆคนคงเข้าใจภาพรวมๆและสาเหตุที่ทำให้ “หุ้นกลุ่มเดินเรือ” กำลังน่าสนใจ โดยหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากเรื่องนี้เต็มๆ เห็นทีคงจะมี PSL และ TTA
แต่นอกจากสองตัวนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมเดินเรือและโลจิสติกก็ยังจะมีแนวโน้มเป็นบวกขึ้นด้วย แม้ว่าจะไม่ได้รับผลบวกไปเต็มๆก็ตาม ซึ่ง PRM และ AMA ก็เป็นหุ้นอีกสองตัวที่น่าสนใจ
.
PSL หรือบมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง ถือว่ามีการฟื้นตัวดีขึ้นแต่ราคาหุ้นยังไม่ไหลไปกับ BDI ที่สูงขึ้นมากนัก ถึงแม้งบการเงินในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้จะยังขาดทุนที่ 225 ล้านบาท แต่ในอนาคตรายได้จะต้องเพิ่มขึ้นตาม BDI อย่างแน่นอน
PSL ประกอบธุรกิจเดินเรือขนาดเล็กสำหรับขนส่งสินค้าแห้งเทกองแบบไม่ประจำเส้นทาง มีเส้นทางเดินเรือครอบคลุมทั่วโลกตามแหล่งสำคัญต่างๆ
.
ส่วนหุ้นอีกหนึ่งตัวที่จะได้รับผลบวกจาก BDI ที่สูงขึ้นคือ TTA หรือบมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ผู้ประกอบการเดินเรือเทกระจาดอีกหนึ่งเจ้าที่แม้ว่าจะไม่ได้รับผลบวกอย่างเต็มที่เนื่องจากมีการกระจายธุรกิจที่หลากหลาย
TTA เป็นผู้ประกอบธุรกิจขนส่งทางเรือ, กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง, กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รวมไปถึงธุรกิจร้านอาหาร (Pizza Hut,Taco Bell) รวมไปถึงธุรกิจการจัดการและบริหารน้ำอีกด้วย
.
ต่อมาเป็น PRM หรือบมจ.พริมา มารีน ก็เป็นอีกบริษัทที่กำลังเข้าสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่มีการเพิ่มกองเรือเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยมีแรงผลักมาจากธุรกิจเรือ FSU และเรือขนส่งภายในประเทศเป็นหลัก พร้อมรองรับ IMO 2020 ที่เป็นกฎในการใช้เชื้อเพลิงกำมะถันต่ำในทะเลเรียบร้อยแล้ว
ทำให้ผลกำไรในงวดครึ่งปีแรกออกมาที่ 504 ล้านบาทหรือโตขึ้นถึง 55% โดยล่าสุดมีราคาหุ้นอยู่ที่ 8.65 บาท และยังมี Upside อีกถึง 23.46% อีกด้วย
.
ส่วนหุ้นตัวสุดท้ายในกลุ่มเดินเรือที่น่าติดตามคือ AMA หรือบมจ. อาม่า มารีน ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางเรือระหว่างประเทศและบริการขนส่งสินค้าเหลวทางรถในประเทศ
AMA มีรายได้ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ 933 ล้านบาท แต่ถ้าหากนับเฉพาะรายได้จากธุรกิจขนส่งทางเรือจะมีรายได้ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 21.86 ล้านบาทหรือ 6.8% เนื่องจาก BDI ที่สูงขึ้นและอัตราการใช้งานกองเรือที่ดีขึ้น
.
หลังจากที่มรสุมผ่านพ้นไปเมื่อปีที่แล้ว “หุ้นกลุ่มเดินเรือ” ก็ได้กลับมากอดคอกันบวกแรงอีกครั้งเพื่อเด้งรับดัชนี BID ที่ไม่ได้ทแค่เเพียงฟื้นตัวเท่านั้น แต่ยังพุ่งขึ้นไปสูงที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี จากที่ปีที่แล้วตกต่ำมาก
.
ความร้อนแรงของสงครามการค้าที่ลดลง, เหมืองแร่ในบราซิลที่กลับมา, กฎ IMO 2020 และที่สำคัญสุดก็คือดัชนี BID ที่พุ่งปรี๊ด
1
ทุกอย่างล้วนเป็นเหตุผลผลักดันให้หุ้นกลุ่มนี้มีความสดใส ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่าใครจะสามารถใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุด กับ High season ที่กำลังเข้ามาถึงในไตรมาส 4 นี้
เพราะ “ฟ้าหลังฝน” ย่อมสดใสเสมอ
สนใจเรียนรู้เรื่องการลงทุน
🔥🔥 แอดมาเลยครับ ทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย^^
Line ID: @BestCom
หรือคลิ๊กมาเลยที่: http://line.me/ti/p/@ldj3404k
โฆษณา