11 ก.ย. 2019 เวลา 12:19
ดินแดนเหนือเมฆมีอยู่จริง!
#ต้องเที่ยวแล้วป่ะ #เก็บเป๋าอ่ะยัง วันนี้ใกล้ปลายฝนต้นหนาว เข้ามาทุกที
เราจะพาทุกคนวาร์ปไป “ภูทับเบิก” ก่อนจะไปดูภาพ ชมเรื่องราวทริปนี้ เราขอเล่าให้ฟังก่อนสักนิด กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเราเลือกมาหลายที่เหลือเกินทั้ง ม่อนทูเล ดอยเสมอดาว สุดท้ายจบกันที่นี่ “ภูทับเบิก” เพราะความตั้งใจแรกของพวกเราคือ กางเต็นท์ รับลมหนาวต้องขอบคุณสาวร่างเล็กจัดการทุกอย่างให้ออกมาราบรื่น เรียกว่าเป็น Lucky Trip ไม่ว่าจะสภาพอากาศ การเดินทาง รวมไปถึงเพื่อนร่วมทางด้วย 😘
สรุปค่าใช้จ่ายในทริปวาร์ปวูบวาบ
1. ค่ารถทัวร์ขาไปเพชรประเสริฐ (ส่วนตัวเราไม่โอเคกับบริการทัวร์นี้เท่าไหร่อะ) 279 บาท
ค่ารถทัวร์ขากลับ บขส. (โอเค เบาะดีบริการใช้ได้ เราชอบ) 279 บาท จองผ่าน 7-11 ได้ค่าบริการอีก 15 บาท
2. ค่าเต็นท์ 850 บาท/หลัง ค่ามัดจำหลังละ 300 บาท นอนได้ 3 คน ชุดเครื่องนอนพร้อมจบครบที่เดียว
3. หมูกระทะริมทุ่งชุดละ 499 บาท มีครบจานชาม ตะเกียบช้อน เอาตัวกับใจมากินอย่างเดียว (ซื้อหมูติดขึ้นมาด้วยนะเผื่อไม่อิ่ม)
📍 The Doi Café : https://goo.gl/JeiuEN
4. ค่ารถสองแถวเหมาเที่ยว 3 เขา 3,500 บาท มัดจำ 500 บาท รวมทุกอย่างแล้ว ปล. ลุงแอ๊ดน่ารัก REQUEST ลุงเลยเชื่อเรา
📍 Tour Khaokho : https://goo.gl/LjX4nx
5. ค่ากิน ค่าดื่ม ตีกลมๆ 500 บาท
Credit
Planner: Tookta Yamsuan
Writer: Piyawat Pornphanjirakul
Photographer: Noom Pipatpong
Support: Takar's Khiaoma, Nude'Eark Jirawat, Pattarawadee Sumetathip
#ต้องเที่ยวแล้วป่ะ #เที่ยวไทยเท่ #ททท #ภูทับเบิก #เขาค้อ #เที่ยวเมืองไทย #รีวิว #ทริปวาร์ป #เพชรบูรณ์
ข้อควรรู้ก่อนไปภูทับเบิก 1. บนเขามีของขายราคาแพงกว่านิดหน่อย (ค่าน้ำมันให้เขาเถอะ) 2. อากาศโคตรดีต่อใจใครก็ชอบ แต่แดดแรงสัดพกครีมกันแดดไปด้วย 3. ทางขึ้นภูพัง ฝุ่นเยอะนะ 4. วิวดีตลอดทางเลยเด้อ 5. เช็ครถทัวร์กันดีๆ นะ 6. ตื่นเช้าๆ ไปสุนทรีให้คุ้มๆ หน่อย 7. หมวก / ไฟฉาย / ถุงขยะ / มาม่า / แผ่นรองนั่ง จำเป็นนะ 8. อย่าลืมกินข้าวโพด มันเผา สตอเบอรี่ 9. เพื่อนร่วมทางหายากกว่าสัญญาณโทรศัพท์
- DAY 1 –
ออกเดินทาง! เราไปรถทัวร์เพชรประเสริฐวันศุกร์รอบ 22.45 ถึงเสาร์เช้าประมาณ 05.00 น. จากคำเตือนด้านบนเดินไปดูป้ายหน้ารถให้ชัวร์ไม่งั้นอาจได้ยืน งง ในหมอชิตแน่ มาถึงจุดหมาย “บขส. อ.หล่มสัก” ลงรถปุ๊บ โดดขึ้นสองแถวเริ่มเที่ยวปั๊บ “ลุงแอ๊ด” ผู้ขับรถนำเที่ยวให้เราตลอดทริปนี้ ลุงใจดี ยิ้มเก่ง ขี้เกรงใจ ไม่เร่งรีบ พาเราแวะทุกที่ อยากได้อะไรขอให้บอก ลุงจัดให้ วันแรกเราเที่ยวในเขาค้อกันทั้งหมด 5 ที่ ก่อนขึ้นพัก
- วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เราจะเห็นภาพคุ้นตาบ่อยๆ คือ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และที่นี่ยังมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ให้พวกเราเข้ามากราบสักการะเป็นสิริมงคลอีกด้วย
- ร้านกาแฟ Pino Latte วิวสวย มุมดีเหมาะกับการมาถ่ายรูปจัด อาหารเครื่องดื่ม ราคาพอใช้ได้ รสชาติไม่รู้เพราะเราไม่ได้ชิม
- ทุ่งกังหันลม ที่นี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกซะจากชิงช้า ทุ่งดอกเวอร์บีน่า มีรถรางพาชมรอบๆ ราคาอยู่ที่คนละ 60 บาทเท่านั้น คอแห้ง หิวข้าวหมดห่วงเพราะ มีตลาดไม่อดอยากแน่นอน
- พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) มีค่าเข้าชมคนละ 10 บาท แหล่งร่วมประวัติศาสตร์อาวุธผ่านการใช้งานจริงในยุคปราบคอมมิวนิสต์ แต่ก็ไม่แคลวเรื่องวิวสวยมุมเด็ดอีกนั้นแหละ
- อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ สถานีนี้มีรายชื่อวีรบุรุษบันทึกไว้มากกว่าร้อยรายชื่อ แถมมีจุดกินลม ชมธรรมชาติ เที่ยวทั้งทีต้องได้ความรู้บ้าง
จบด้วยขึ้นภูทับเบิกเข้าฐานที่มั่น เราบอกเลยระหว่างทางว่าคุ้มแล้ว แต่จุดสุดยอดนี่ Newton สุด ลืมบอกไปเราเลือกพักกันที่ “The Doi Cafe” เต็นท์เราฟลุ๊คเหมือนล็อคไว้ไม่มีอะไรบัง เปิดมาเจอธรรมชาติป่าเขา แต่เตรียมใจเรื่องห้องน้ำมาหน่อยก็ดี พี่เจ้าของดูแลดี บริการแจ่ม และสำคัญสุดมีหมูกระทะริมทุ่งมื้อพิเศษหาที่ไหนไม่ได้แน่นอน เราการันตีคุณภาพถือเป็นการปิดวันแรกอย่างสวยงาม
- DAY 2 –
นอนให้น้อย ตื่นให้ไว ไปจิบกาแฟสุนทรีรับแสงแรกแปป แล้วค่อยไปลุยต่อ วันนี้เราอัดแน่นไปด้วยเมนูเที่ยวพร้อมเสิร์ฟจากลุง ทุกการเดินทางควรเริ่มต้นทริปด้วยการทำบุญ เราเชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างออกมาดี แต้มบุญเยอะก็เงี้ยะ
- วัดป่าภูทับเบิก (วัดที่สูงสุดในไทย) จุดหมายแรกของเราวันนี้ ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านม้ง แอบผิดหวังเล็กน้อย คิดว่าจะเจอวิถีชาวบ้านแต่โลกมันไปไกลแล้วจริงๆ ลุงจอดให้เราเดินขึ้นออกกำลังกายยามเช้ากัน ถึงยอดเราเจอกับโบสถ์มีภาพวรรณคดีจารลึกไว้อย่างสวยงาม และลงตัว (ห้องน้ำดี สายฉีดแรงควรค่าแก่การแวะ)
- ไร้กระหล่ำยักษ์ ถ้าไม่แวะเหมือนมาไม่ถึงภูทับเบิกอะบอกตรง เดินลงทุ่งทามกลางกระหล่ำปลีสีเขียวสดใส แสงแดดอ่อนๆ ภูเขาล้อมรอบสุขใจสุดๆ
- แวะกินข้าวสายร้าน “ภูวิวหมอก” ความคิดแรกของเราคือ ต้องราคาไม่น่ารัก อาหารงั้นๆ แหละ แต่ผิดคาดราคาน่ารักคบกันได้ รสชาติจัดว่าดี ขอบคุณลุงแอ๊ดแนะนำร้านอร่อยๆ ให้เราได้รู้จักอีกร้าน
- อุทยานภูหินร่องกล้า (มีค่าเข้า 40 บาท/คน + ค่ารถอีก 30 บาท/คัน) นั่งรถต่อสักพักใหญ่ๆ เราก็มาถึงสถานที่ Landmark ใครมาต้องแวะ เราจะไม่เล่าอะไรมากแค่ ทาครีมกันแดดมาเยอะๆ ซ้อมเดิมมาหนักๆ หนทางมันยาวไกลไม่เกินใจหรอก อย่าลืมแวะผาชูธง เนินเราสู้ ลานหินปุ่มด้วย เอาเท้าแช่น้ำตกน้อยๆ (ดูภาพเอานะ)
- โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า ป้ายเขียนว่าผานู้นนี่นั่นเต็มไปหมด ใจกูนี่อ่อนล้าท้อแท้หมดแล้ว แต่กลับกันเดินไปนิดเดียวมีหินผาเข้าแถวเรียงรอให้เราไปรับพลังเขียวกันแบบเต็มๆ
- โรงเรียนการเมืองการทหาร (ช่วงหน้าร้อนจะมีใบเมเปิ้ลสีแดงส้มร่วงอยู่รอบๆ เราคิดว่ามันต้องสวยมากแน่ๆ) แหล่งประวัติศาสตร์รวมความ Original ไว้เต็มสูบ เราเห็นรูปเก่ามีกังหันน้ำ เราถามลุงแอ๊ดว่ารื้อทิ้งไปหรือยัง? ลุงชี้ไปว่าอยู่ตรงนี้นะ แต่ไม่อยากให้ลงไปมันชื้นทากดูดเลือดมันเยอะ เลยได้แต่มองเธออยู่แค่ไกลๆ ใครมาก็ลงไปดูใกล้ๆ แทนพวกเราหน่อย
- จุดสุดท้ายก่อนลงเขา ลุงแอ๊ดพาพวกเรามาจุดชมวิวมองไปจะเห็นเส้นทางขึ้นลง ภูทับเบิกอย่างชัดเจนระดับ 4K เส้นทางนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เราไม่พูดเยอะมาเองเดี๋ยวรู้
- ขึ้นรถทัวร์ขากลับ (บขส.) รอบ 21.20 - กรุงเทพฯ ประมาณตี 3 หน่อยๆ
ปิดทริปเที่ยวสองวันในภูทับเบิกกันแบบงามๆ ขอตั้งชื่อว่า “ทริปวาร์ป” เพราะอะไรน่ะเหรอ…อยากรู้มาเองดิ :X ปลายฝน ต้นหนาวออกไปใช้ชีวิต ในแบบมีชีวิตดิ เราเชื่อว่าพลังงานธรรมชาติมันรักษาจิตใจคนเมืองอย่างเราได้ดีเลยเว้ย ถึงเวลาต้องเที่ยวแล้วป่ะ เจอกันทริปหน้า ขอบคุณทุกคนครับที่อ่านควานเพ้อเจ้อของเรามาจนจบจุ๊บๆ สุดท้ายขอบคุณอีซุซุมาตลอดทริปจริงๆ
โฆษณา