18 ก.ย. 2019 เวลา 08:01 • สุขภาพ
ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้ (Learned helplessness) เมื่อมนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยุ่กับความสิ้นหวัง
มันเป็นปรากฏณ์การทางจิดวิทยาที่เรียกได้ว่าเป็น "ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้ "
เราเคยรู้สึกไร้พลังจนอยากยอมแพ้ และหยุดพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปล่า?
Image from rawpixel.com
หากเราเชื่อว่า สิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา จะเกิดขึ้นอีกครั้ง หรือเราจะพลาดอีกครั้ง ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม
เรามีประสบกับ ”ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” แล้วล่ะ
จากเวลาที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้ว่า เราไม่สามารถควบคุมชีวิตของเราเองได้ไม่ว่า เราจะทำอะไรก็ตาม
คนที่รับรู้แล้วว่า ไม่สามารถควบคุมชีวิตได้ จะแสดงอาการต่างๆ ที่คุกคามต่อสภาพจิตใจ
เราจะเจอกับความเครียด, ซึมเศร้า, อารมณ์แปรปรวน และอยากอยู่เฉยๆ
เราไม่พยายามที่จะเปลี่ยนนิสัยพวกนี้ เพราะ เรารู้สึกว่า ทุกอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา
หากเราล้มเหลวในการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย เราอาจจะเริ่มคิดว่า เราจะไม่พยายามลดน้ำหนักอีกแล้ว โดยไม่สนเหตุผลอะไรเลย
Image from rawpixel.com
อาการทั่วไปของ “ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” ได้แก่ การเห็นคุณค่าในตนเองลดลง ขาดแรงจูงใจ ขาดความพยายาม ชีวิตดูยุ่งยาก และชอบผัดวันประกันพรุ่ง
“ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” ถูกค้นพบโดยนักจิตวิทยา Martin Seligman และ Steven F. Maier พวกเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมทั้งในมนุษย์และสัตว์
2
คนที่มี“ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” มาเป็นเวลานานมีแนวโน้มที่จะพัฒนาความรู้สึกหมดหนทาง
เนื่องจากประสบความล้มเหลวมาครั้งแล้วครั้งเล่ารวมถึงความคิดฝังใจว่า ตนเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะควบคุมผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้นๆ ได้
สุดท้ายคนเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ไร้ซึ่งความหวัง และพลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง
Image from freepik.com
ในทุกสถานการณ์ ชีวิตของเราต้องต่อสู้กับพฤติกรรม หรือเรียนรู้ที่จะล้มเหลวด้วยความภาคภูมิใจ และก้าวต่อไป
ความล้มเหลวนั้นไม่ใช่จุดจบ มันเป็นแค่เพียงทางผ่าน
การเอาชนะ “ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” นั้น
ใช้เพียงแค่ความแตกต่างใน การมองโลกในแง่ดี กับ การมองโลกในแง่ร้าย
“Pessimistic labels lead to passivity, whereas optimistic ones lead to attempts to change,” - Martin E.P. Seligman
“การมองโลกในแง่ร้ายจะนำไปสู่การไม่ทำอะไรเลย ในขณะที่คนมองโลกในแง่ดีนำไปสู่ความพยายามในการเปลี่ยนแปลง”
หมายความว่า ...
คนที่มองโลกในแง่ดีจะคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้จากตัวเองเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่เวลาหนึ่ง และไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตของเรา
ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้ายก็จะตรงข้ามกันทุกกรณี
Image from amazon.com
สามารถทำแบบสำรวจที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ “Learned Optimism: How to Change Your Mind and Your Life” เพื่อค้นหาความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตของคุณ
สุดท้าย ...
“ภาวะสิ้นหวังจากการได้เรียนรู้” เป็นสภาวะที่อันตรายต่อจิตใจสำหรับทุกคน มันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิต อารมณ์ และการดูแลตัวเอง
แต่ทุกคนสมารถเลิกนิสัยนี้ได้ ด้วยการคิดให้สร้างสรรค์มากขึ้นสัมผัสกับประโยชน์ของมุมมองแง่บวกให้มากขึ้น
เรียนรู้ที่จะโต้แย้งความคิดที่ทำอะไรไม่ได้ โดยอัตโนมัติด้วยการโน้มน้าวตัวเองด้วยสิ่งที่ตรงกันข้าม
“While you can’t control your experiences, you can control your explanations” - Martin E.P. Seligman
“แม้ว่าคุณจะไม่สามารถควบคุมประสบการณ์ได้ แต่คุณสามารถให้ความหมายใหม่กับมันได้”
การเรียนรู้การมองโลกในแง่ดีสามารถช่วยหลีกเลี่ยงความเครียด สร้างนิสัยที่ดีขึ้น เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และในที่สุดมันก็จะทำให้เรามีความสุข
อ่านแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ? หรือมีข้อติชมอะไร? สามารถพิมพ์ทิ้งไว้ในคอมเม้นได้เลยนะครับ 😁
ถ้าชอบ หรือคิดว่ามีประโยชน์ยังไงก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับ 👍🏻
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ 🙏
โฆษณา