19 ก.ย. 2019 เวลา 05:23 • การศึกษา
รีวิวหนังสือ: Educated - บันทึกศึกษา หลักสูตรเร่ง Life
โดย Tara Westover
*หนังสือที่ Bill Gates และ Barack Obama แนะนำให้อ่าน
*หนังสืออันดับหนึ่งของ Amazon editors' picks for the best books of 2018 และ หนังสือติดอันดับของ The New York Times Book Review
Educated - A Memoir
นี่คือหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง ที่โตมากับวิถีชีวิตแบบอนุรักษ์นิยม ในวัยเด็กเธอไม่ได้เรียนหนังสือ แต่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตอนอายุ 17 ปี ด้วยการอ่านหนังสือเรียนรู้ด้วยตัวเอง และสามารถเรียนต่อจนจบถึงระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัย Cambridge มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
หากแก่นเนื้อเรื่องมีเพียงเท่านี้ หนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ได้คำชมจากคนดังๆทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากทั้ง Barack Obama , Bill Gates หรือ ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York time และได้รับคะแนนรีวิวเป็นบวกอย่างล้นหลามจากสื่อทั่วโลก
นั่นก็เพราะ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสำเร็จในการเรียนหนังสือของเด็กหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง
แต่เป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวผลกระทบของการศึกษา ที่มีอำนาจเปลี่ยนตัวตน เปลี่ยนสมอง เปลี่ยนมุมมอง และเปลี่ยนโลกของผู้เรียน (Transformation By Education) อันนำไปสู่ตัวตนใหม่ที่ได้รับการกล่อมเกลา
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของ Tara Westover เด็กผู้หญิงคนเล็กในครอบครัวแถบ Idaho สหรัฐอเมริกา เธอมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตมาในครอบครัวที่มีความเชื่อ และการใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง พ่อของเธอเชื่อมั่นศรัทธาศาสนาคริสต์นิกายมอรมอน (Mormon) เขาเชื่อในการดำเนินชีวิตที่ต้องเป็นไปตามครรลองคำสอนอย่างเคร่งครัด เขาเชื่อในสันสิ้นโลกที่ใกล้จะมาถึง จึงพาครอบครัวไปอาศัยอยู่ในบริเวณหุบเขา ให้หลีกเร้นจากผู้คน เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันนั้น โดยแม่ของเธอและลูกๆ จะช่วยทำงานเก็บตุนเสบียงอาหาร และช่วยพ่อเก็บตุนเชื้อเพลิงและอาวุธต่างๆ เพื่อว่าเมื่อวันสิ้นโลกนั้นมาถึง ครอบครัวของเธอจะเป็นผู้อยู่รอด ตามประสงค์ของพระเจ้า
นอกจากนั้นพ่อของเธอยังเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เช่น ยาแผนปัจจุบันคือสารเคมีอันตรายที่กินไปแล้วจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายไปตลอดชีวิต และปฏิเสธวิถีใดๆที่จะดำเนินชีวิตเยี่ยงประชาชนปกติ เพราะ เขาเชื่อว่ารัฐบาลโดนชักไยเบื้องหลังโดยกลุ่ม Illuminati ดังนั้นรัฐบาลต้องการล้างสมองประชาชน เพื่อที่กลุ่ม Illuminati จะได้ครองโลก เช่น โรงเรียนคือความตั้งใจของรัฐบาลในการจะล้างสมองประชาชน โรงพยาบาลซึ่งเป็นผลผลิตจากรัฐนั้น คือสถานทีที่ไม่จำเป็น และเป็นการดูหมิ่นพระเจ้า การรักษาโรคนั้นใช้แค่ยาสมุนไพรและศรัทธาต่อพระเจ้าก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นไม่ว่าสมาชิกในครอบครัวเธอนั้นจะมีอุบัติเหตุรุนแรงแค่ไหน (รถคว่ำ ศีรษะกระแทกพื้นจากที่สูง ไฟคลอกตัว) พวกเขาก็จะได้รับการรักษาด้วยยาสมุนไพรที่บ้าน เท่านั้น!
Tara เองก็โตมาด้วยแนวคิดเช่นนี้ เธอเชื่อมันอย่างเคร่งครัด มีพ่อของเธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่คอยปลูกฝังความคิดต่างๆให้เธอ เธอใช้เวลาช่วงฤดูร้อนในการช่วยแม่เก็บเสบียงอาหาร ทำยาสมุนไพร และช่วยพ่อเก็บเศษเหล็กช่วงฤดูหนาว ชีวิตของเธอนั้นอาจจะดูเรียบง่าย แต่เพราะความที่ครอบครัวเธอนั้นอนุรักษ์นิยมอย่างมาก มีพ่อและพี่ชายคนโตเป็นใหญ่ เธอจึงผ่านประสบการณ์ถูกทำร้ายทางร่างกายและจิตใจต่างๆอย่างมาก โดยเฉพาะจากพี่ชายของเธอ (โดนด่าเป็นโสเภนี โดนชกต่อย โดนจับหัวกดโถส้วม โดนขู่ฆ่า) แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะความเป็น “ครอบครัว” นั่นเอง
จนด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกภายนอก เธอจึงได้เริ่มอ่านหนังสือเพื่อให้การศึกษาตัวเอง เธออ่านหนังสือศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ จนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย Brigham Young ได้ และด้วยความกระหายรู้ต่อโลกภายนอก มันก็ได้เปลี่ยนแปลงเธอ จนสามารถเรียนจบปริญญาเอกจาก Cambridge ในด้านประวัติศาสตร์มาได้
แต่การศึกษานั้นก็ทำให้ความเป็นเธอ ตัวตนของเธอ ไกลจากความเป็นครอบครัวของเธอ มากขึ้น ความคิดความอ่านต่างๆของเธอนั้นเปลี่ยนไป เป็นไปตามหลักการและเหตุผลมากขึ้น แต่ครอบครัวนั้นก็ยังคงสุดโต่ง และยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดแตกหัก ที่เธอต้องเลือกว่าจะเป็นตัวของเธอ หรือ จะยอมทิ้งมันไป เพื่อได้อยู่เป็นครอบครัว อีกครั้ง
หากทางเลือกมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คนผู้นั้น จะเลือกอะไร? จะเลือกตัวตนใหม่ หรือ ครอบครัว?
อ่านบทความรีวิวฉบับเต็มได้ที่
และ Facebook : ในโลกของคนอยู่เป็น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา