27 ก.ย. 2019 เวลา 00:00
แรม 1 ค่ำ เดือน 6
พระพุทธเจ้าเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์
หลังตรัสรู้ พระกาฬุทายีได้เดินทางมานิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพื่อสงเคราะห์เหล่าญาติเถิด พระพุทธองค์จึงเสด็จมาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และได้แสดงยมกปาฏิหาริย์จนพระเจ้าสุทโธทนะทรงไหว้พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระโอรสของตน ทำให้เหล่าพระญาติที่มีมานะถือตัวว่าอายุมากกว่าพระพุทธองค์ยอมไหว้ตาม
ในวันต่อมา แรม 1 ค่ำ เดือน 6 พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์สาวก 20,000 รูปก็ได้เข้าไปบิณบาตในกรุงกบิลพัสดุ์ตามพระพุทธประเพณี แต่เมื่อประชาชนเห็นดังนั้นก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพระราชโอรสสิทธัตถะเที่ยวขอข้าวกิน พระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดาทรงทราบดังนั้นก็เสด็จไปตรัสตัดพ้อพระพุทธองค์ว่าทำไมต้องออกเที่ยวขอข้าวผู้อื่นกิน ทำให้พระองค์ต้องอับอายเช่นนี้
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า วงศ์ของพระเจ้าสุทโธทนะเป็นวงศ์กษัตริย์ แต่วงศ์ของพระองค์และพระพุทธเจ้าทั้งหลายคือพุทธวงศ์ ไม่ว่าจะพระทีปังกรพุทธเจ้า พระโกณฑัญญะพุทธเจ้า เป็นต้น ล้วนเลี้ยงชีพด้วยการเที่ยวบิณฑบาตทั้งสิ้น และจึงได้ตรัสคาถาว่า
“บุคคลไม่ควรประมาทในโภชณะที่ตนได้รับ พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ผู้ประพฤติธรรมอันสุจริตเป็นปกติ ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า”
หลังจบพระคาถา พระเจ้าสุทโธทนะก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน และนิมนต์พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ขึ้นสู่ปราสาทเพื่อถวายของเคี้ยวประณีต หลังฉันเสร็จพระพุทธองค์ก็ตรัสคาถาคล้ายเดิมอีกครั้ง คราวนี้พระเจ้าสุทโธทนะก็บรรลุเป็นพระสกทาคามี ส่วนพระนางมหาปชาบดีโคตมี พระมารดาเลี้ยงของพระพุทธเจ้าก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน
ในวันเดียวกันนี้เอง พระพุทธเจ้าก็เสด็จไปโปรดพระนางยโสธราพิมพา พระพุทธมเหสี มารดาพระราหุล ด้วยการตรัสเล่าจันทกินนรชาดก เมื่อจบธรรมเทศนา พระนางก็ทรงบรรลุเป็นพระโสดาบัน
- กุศลที่ควรทำ
ใส่บาตร เพื่อเป็นการอุปถัมภ์ให้พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าดำรงชีวิตอยู่ได้ มีกำลังศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เพื่อสืบทอดพุทธประเพณีและสืบทอดพระศาสนาต่อไป
ฟังธรรมบรรยาย ‘วันสำคัญในพระพุทธศาสนาที่ไม่มีในปฏิทิน’ เต็มๆ แบบไม่มีตัดทอนได้ที่ https://bit.ly/2DbljtF
#วันสำคัญในพระพุทธศาสนาที่ไม่มีในปฏิทิน
#วันพุทธ
#ดนัยปรีชาเพิ่มประสิทธิ์
#ยุวพุทธบ้านแห่งธรรม
#สร้างคนสร้างที่ใจ
#สถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อทุกวัยของชีวิต
โฆษณา