27 ก.ย. 2019 เวลา 08:00 • สุขภาพ
วิธีล้างความรู้สึกแย่ ๆ ออกจากร่างกายของเรา
อารมณ์ที่ค้างอยู่ของเรา ก็เปรียบเสมือนจดหมายในกล่องจดหมายของเรา
มันอาจะเป็นการเปรียบเทียบที่ง่าย แต่ก็เป็นสิ่งที่เสดงให้เข้าใจได้
Photo by Cassi Josh
เมื่อเรามีอารมณ์ความรู้สึกราวกับว่า เราได้รับข้อความเล็ก ๆ น้อย ๆ จากร่างกายของเราพร้อมกันทีละหลาย ๆ ครั้ง
หากเราไม่เคยเปิดพวกมันเลย เราจะมีการแจ้งเตือนเป็น 1000+ ครั้ง
เรามองข้ามข้อมูลสำคัญ และข้อมูลเชิงลึกที่เราต้องการ เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า
ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถนั่งได้ทั้งวัน เพื่อตอบกลับทุกข้อความที่ปรากฏขึ้น สุดท้ายแล้วเราก็จะไม่ทำอะไรเลย …
มันเป็นความผิดพลาดที่คิดว่า อารมณ์ที่พบเจอนั้นไม่จำเป็นต้องสนใจ
เรามักเป็นผู้เชี่ยวชาญในการหลีกเลี่ยงความรู้สึกของเรา และทำได้หลายวิธีอีกด้วย
บ่อยครั้งที่เราพึ่งพาสารที่ทำให้รู้สึกมึนงง
คาดการณ์ และตัดสินให้ความสนใจกับความผิดพลาดของคนอื่น มากกว่าของเราเอง
การแสวงหาทางโลกอื่น ๆ ทุกประเภทในระดับพื้นฐานที่สุด
มันทำให้ร่างกายของเราเครียดอย่างมาก จนเราไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้
ในทางจิตวิทยา เราอาจรู้ว่า เราใช้วิธีเหล่านี้ไม่ได้นาน สิ่งที่ค้างอยู่เริ่มติดขัด
ในที่สุดเราก็ถูกบังคับให้ต้องนั่งนิ่ง ๆ นอนหลับ ร้องไห้ และรับรู้ถึงความรู้สึกทั้งหมด
อารมณ์เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องเจอ เราล้างร่างกายของเราทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอ
เราขับถ่าย เหงื่อออก ร้องไห้ เราผลัดผิวหนังของเราเดือนละครั้ง
ความรู้สึกก็ไม่แตกต่างกัน พวกมันต้องได้รับการปลดปล่อยด้วยเช่นกัน
เมื่อเราไม่รู้สึกถึงอารมณ์ของเรา มันจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง มันจะติดอยู่ในร่างกายของเรา
นี่เป็นเพราะ นาทีที่พวกมันเริ่มต้นขึ้น ก่อนที่คุณจะสามารถระงับ หรือเพิกเฉยต่อมัน
มันจะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อขนาดเล็ก ร่างกายของเราจะตอบสนองต่อมันโดยทันที
Image on images.google.com
เรามักจะเก็บความเจ็บปวด และความเครียดในพื้นที่ของร่างกายที่มีการแสดงออก แต่ก็ยังไม่ปรากฏเต็มที่
นี่เป็นเพราะ การคุยกันของระบบประสาท ส่วนหนึ่งของสมองที่ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกส่วนหน้า อยู่ถัดจากบริเวณ premotor
ซึ่งหมายความว่า เมื่อความรู้สึกถูกประมวลผล มันเริ่มต้นสร้างการตอบสนองทางร่างกายโดยทันที
บริเวณรอบ premotor นั้นเชื่อมต่อกับ motor cortex จากนั้นส่งกลับเข้าไปในกล้ามเนื้อที่จะแสดงอารมณ์
กล้ามเนื้ออะไรที่แสดงอารมณ์ความรู้สึก ?
เรามีภาษามากมายที่บอกให้เรารู้ว่า เรามีปฏิกิริยาทางร่างกายต่ออารมณ์อย่างไร
เรามักจะรู้สึกกลัวในท้องของเรา (คิดว่าเป็น nervous stomach หรือ "gut instinct")
รู้สึกเสียใจในหน้าอกของเรา (นั่นคือ สิ่งที่เรียกว่า “หัวใจสลาย”)
ความเครียด และความกังวลที่ไหล่ของเรา (คิดว่า "มีน้ำหนักของโลกอยู่บนไหล่ของเรา”)
และปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในคอ (คิดว่า“เจ็บปวดที่คอ”)
แต่จริง ๆ แล้วมันลึกไปกว่านั้น …
สมมติว่า มีคนทำอะไรบางอย่างที่เกินขอบเขตของเรา และสัญชาตญาณของเรา คือ ตะโกนใส่พวกเขา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเราเข้าใจว่า การโวยวายไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เราจึงอดกลั้นมันไว้
แม้ว่า นี่อาจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่จะทำในช่วงเวลานั้น แต่ร่างกายของเราอาจเก็บความเครียดที่เหลือไว้ในบริเวณคอ หรือลำคอ
ในบางครั้ง ผู้คนสามารถสัมผัสกับผลกระทบทางจิตใจ จากอารมณ์ของคนอื่น ๆ ที่เป็นนามธรรมได้มากกว่า
เช่น ความเจ็บปวดที่หัวเข่าหรือเท้าเมื่อมันถูกทำให้ช้ำ โดยการ “ ก้าวไปข้างหน้า”
Photo on freepik
ความจริงก็ คือ ร่างกายของเรากำลังพูดกับเราในรูปแบบที่ไม่มีเสียง
หากเราสามารถเรียนรู้ที่จะตีความสิ่งที่ร่างกายกำลังบอกกับเราได้
เราจะสามารถรักษาตัวเองในหนทางใหม่ ๆ ได้
ดังนั้นเราจึงต้องรู้ว่า บางครั้งอารมณ์จะถูกเก็บไว้ในร่างกายของเรา
เมื่อไม่ได้แสดงออกอย่างเต็มที่
เมื่อมันเป็นแบบนี้ เราจะเริ่มล้างตัวเองจากความรู้สึกเหล่านี้ได้อย่างไร?
มีวิธีมากมายที่เราสามารถใช้ในการทำสิ่งนี้ และสิ่งที่สำคัญ คือ มันได้ผลสำหรับเรา
ไม่มีวิธีที่เหมาะกับทุกคน แต่มีตัวเลือกไม่กี่ตัว ที่จะทำงานได้ดีสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้งานควบคู่กัน
.
หยุดนั่งสมาธิเพื่อให้รู้สึกถึงความสงบ เริ่มทำสมาธิให้รู้สึกถึงความโกรธ
Image on freepik
สิ่งนี้อาจขัดกับทุกอย่างที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการทำสมาธิ
แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นจุดของการทำสมาธิ หากเรานั่งลงเป็นระยะเวลา 10 นาที และพยายามบังคับตัวเองให้รู้สึกผ่อนคลาย และเบาลง
แต่จุดของการทำสมาธิ คือ การนั่งเฉย ๆ ขณะที่เราสัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นทั้งหมด
ความโกรธ ความกลัว ความโศกเศร้า จิตใจที่สับสน ... และถึงแม้ว่า จะมีสิ่งยั่วยุหรือชักนำเราแค่ไหน
เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่นิ่ง ๆ และไม่ตอบสนองต่อมัน
เราเรียนรู้ที่จะปล่อยให้ความคิด และความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้น และผ่านไป โดยที่เราไม่ได้ตอบสนองต่อความรู้สึกเหล่านั้น
สิ่งนี้ต้องใช้เวลาฝึกฝน
ใช้ลมหายใจพิจารณาเพื่อค้นหาความเครียดที่เหลือในร่างกาย
Photo on freepik
โดยปกติแล้วมันไม่ได้ใช่ความพยายามอะไรมากมาย ในการคิดว่า ความเจ็บปวดของเราอยู่ที่ไหนในร่างกายของเรา
เรารู้สึกถึงมัน อยู่ในหน้าอก ท้องของเรา ไหล่ของเรา หรืออะไรก็ตามที่รบกวนเรา
อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่แน่ใจ หรือเราไม่รู้เลยว่า อาการปวดนั้นอยู่ที่ไหน
ให้ทำสิ่งที่เรียกว่า การพิจารณาลมหายใจ
เราจะหายใจเข้าออกช้า ๆ และไม่หยุดพักระหว่างการหายใจ
เมื่อเราทำเช่นนี้ เราจะเริ่มสังเกตเห็นว่า มีอะไรมาขัดขวาง หรืออาการกระตุกที่ไหนสักแห่ง
ในขั้นตอนการหายใจของเรา เราจะเริ่มรู้สึกโดยละเอียดว่า ความเครียดในร่างกายของเราสะสมอยู่ที่ไหน
เมื่อเรารู้ว่า เราเริ่มรู้สึกอย่างนั้นมากขึ้น เห็นภาพว่ามันคืออะไร มันมาจากไหน และเราต้องการรู้อะไร
บ่อยครั้งในสถานการณ์นี้ เราถูกนำกลับไปสู่ความทรงจำที่เฉพาะเจาะจง หรือตัวเราในรูปแบบเก่าๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำ
ใช้บันทึกประจำวันเพื่อจดบันทึกสิ่งที่เราพบเห็น ร่างกายมักพูดเปรียบเทียบ มันจึงไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆ
เหงื่อ, เคลื่อนไหว, ร้องไห้
Image on freepik
สิ่งสุดท้ายที่ยากที่สุด และสำคัญที่สุดในการปลดปล่อยอารมณ์ของเรา คือ สิ่งเดียวที่เราต้องทำ ...
เราต้องรู้สึกถึงมัน
บางครั้งนี่หมายถึง การปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ครบถ้วน และสมบูรณ์แบบ
บางครั้งก็หมายถึง การผลักดันตัวเองผ่านการออกกำลังกาย หรือโยคะ หรือยืด หรือเดิน
เผชิญหน้ากับสิ่งที่กระตุ้นความคิด และปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาพร้อมกับสิ่งที่รบกวนเรา
จงจำไว้ว่า สุขภาพทางอารมณ์ไม่ใช่การเป็นคนใจเย็น และมีความสุขตลอดเวลา
มันเป็นประสบการณ์ของการปล่อยให้มีอารมณ์ที่หลากหลายทั้งดี และไม่ดี และไม่ติดค้างมากเกินไป
ในทำนองเดียวกันสุขภาพจิต และการเรียนรู้ด้วยตนเอง คือ ความสามารถในการมองเห็น รู้สึก และสัมผัสกับความคิดโดยไม่ตอบสนองต่อมัน
เราไม่ได้เกิดมาจะสมบูรณ์แบบ
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อมีความสุขตลอดเวลา
แต่ถ้าเราสามารถทำงานที่มอบหมายในแต่ละวันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งได้อย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่า เราจะรู้สึกกลัว เราก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ในรูปแบบที่สวยงาม
Image on freepik
อ่านแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ? หรือมีข้อติชมอะไร? สามารถพิมพ์ทิ้งไว้ในคอมเม้นได้เลยนะครับ 😁
ถ้าชอบ หรือคิดว่ามีประโยชน์ยังไงก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับ 👍🏻
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ 🙏
โฆษณา