30 ก.ย. 2019 เวลา 00:15 • ปรัชญา
หัวร้อน....!
จิ้งจก : ลุง...ทำไมเด้วนี้คนหัวร้อนกันเยอะจัง?
หลอดไฟ : หัวร้อน : มีทั้งแบบโดยสันดานและความจำเป็น ถ้าเป็นจริตนิสัยสันดานก็เห็นได้ง่ายเพราะเรื่องหลายเรื่องพูดคุยกันดีๆด้วยเหตุผลก็จบได้ง่ายแต่คนพวกนี้เลือกที่จะใช้อารมณ์ความรู้สึกตามจริตสันดานเป็นหลัก
จึงมีพฤติกรรมดั่งกุ๊ยอันธพาลถ้ามองทางจิตวิทยาคือพวกมีปมด้อย. คนปกติส่วนมากจึงไม่ชอบคนพวกนี้. เพราะมักมีเรื่องง่ายถ้าคบหาก็จะพาไปสู่หายนะในท้ายที่สุด.
ส่วนคนที่ร้อนเพราะจำเป็นคือมันมีเหตุไปทำร้ายจิตใจเขามากคือเป็นผู้ถูกกระทำก่อนอันเข้าข่ายนักเลงไม่ใช่กุ๊ยอันธพาล. คือถูกรังแกข่มเหงจนเกินอดทนประมาณนั้น.
คนกลุ่มหลังนี้น่าเห็นใจที่สุด คนดีๆหลายคนต้องติดคุก หนีตำรวจก็มีไม่น้อยเพราะกฎหมายเขามีโทษตามการกระทำท. ถ้าผิดกฎหมายต้องได้รับโทษแน่. ตั้งใจฆ่าก็ต้องโทษประหาร ช่วงเป็นคดีความก็เสียแต่เงิน ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเดือดร้อน เครียด หาความสะดวกสบายเช่นเดิมไม่ได้อีกต่อไป ส่วนกลุ่มแรกไม่ช้านานเพราะจ้องระรานคนทั่วไปอยู่แล้ว...
สุดท้ายติดคุกทุกข์เต็มรูปแบบในที่สุด ไหนจะต้องพลัดพรากจากคนที่รักที่ห่วง ไหนตังเองจะต้องพบความลำบากทั้งกายและใจในขณะติดคุก
หัวร้อน...อันมีเหตุจากมีโลภะ(อยากได้อยากมีอยากให้ได้ตามใจตัว)โทสะ(ขัดใจไม่พอใจอิจฉาริษยา) โมหะ(คิดผิดหลงผิดเชื่อผิด)เหล่านี้มีได้ในทุกวัยทุกกลุ่มสังคม. อบรมมาน้อยก็แสดงออกชัดแบบหน้าตาเฉย.
อบรมมาดีการศึกษาสูงก็ทำเนียนเปลือกนอกดูดีแต่ต้องพูดคุยเสวนาจึงรู้ดั่งที่ขงจื้อกล่าวไว้”ฟังเขาพูดแล้วจงดูพฤติกรรมเขา” ทางไทยก็ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน.
โบราณก็ว่าจิตมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง. ทางธรรมก็ว่าตราบที่ยังเป็นปุถุชนจิตมนุษย์ย่อมผันแปรไปตามเหตุปัจจัย.... เราอาจเคยได้ยินแมวอะไรก็ได้ที่จับหนูได้. ไม่สนว่าแมวนั้นจะดีไม่ดี มีคุณธรรมหรือไม่ และวิธีการโหดเหี้ยมยังไง.
ขอให้ได้เป้าได้ผลก็เพียงพอ. แรงขับจากกิเลส(มิจฉาทิฐิ) กับแรงขับอันมาจากฉันทะ(สัมมาทิฐิ)ย่อมนำไปสู่ความสำเร็จแต่ต่างกันที่”จิต” ความเป็นปัจจัตตังคือรู้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจว่าการสั่งสมกุศลและอกุศลนั้นจะได้รับผลกรรมต่างกัน !
หลายคนก็คงสงสัยว่ารู้ว่าหัวร้อนมันมีแต่เรื่องมีแต่สร้างปัญหาแล้วใยจึงหัวร้อนกันง่ายนัก. เห็นได้ทุกวัน ในที่ทำงานก็มีทั้งเขม่นกันด่ากันแดกดันเหน็บแนม...
วัยเรียนก็ต้องมีพวกมึงพวกกู.หัวร้อนแบบไม่มีเหตุผลคือกระแสพาไปอารมณ์พาไป พวกพาไป โดยไม่ได้คำนึงว่า คุก ตาราง เวลาที่สูญเสีย พ่อแม่ญาติพี่น้องจะเดือดร้อน จะต้องใช้เงินมากแค่ไหนในช่วงมีคดี.
ติดคุกเสียประวัติเสียอนาคต.(ถ้าเอาแรงขับจากโทสะไปสู้กะกิเลสตัวอื่นจะดีกว่าไหมเช่นกูจะต้องเก่งภาษาให้ได้ กูจะต้องเอาดีให้ได้ คนมันจะเอาดีก็ต้องมีปัญญาความรู้
กูจะต้องสู้กูจะต้องเรียนให้ดีจะได้มีฐานที่มั่นเพื่อจะไปต่อยอด กูต้องระดับประเทศระดับโลก. มีเป้าหมายแล้วให้บ้าไปตรงจุดนั้นสิ. หัวร้อนไปทางดีก็ได้ ...คือไม่พอใจในความกระจอกของตัวเองในปัจจุบันไง !)
คู่กรณีพิการตายก็ต้องชดใช้หนัก. เข้าข่ายเจตนาฆ่าก็ต้องโทษประหาร. เพียงแค่หัวร้อนปล่อยให้อำนาจโทสะครอบงำจิต. ผลที่ตามมาไม่คุ้มเลย.จริงไหม...
บนถนนก็คุยกันดีๆกันไม่ได้เลยหัวร้อนจนเสียเงินเสียเวลาในการเป็นคดีความก็มีให้เห็นได้บ่อยๆ. ยิ่งมีเหล้าเบียร์ ยา ในกระแสเลือดเป็นตัวกระตุ้นด้วยแล้ว หัวร้อนทอนชีวิตง่ายขึ้นไปอีก
อุบัติเหตุแรงๆนอกจากตัวเองจะเจอสภาพเลือดตกยางออกพิกลพิกาลมีคดีเสียเงินเสียเวลามากมายหรืออาจติดตุกเข้าไปอีก. สร้างเหตุเองแท้ๆ. รู้แต่ก็ยังทำ เพราะความคุ้นชิน แต่ดูผลที่ตามมาสิท่าน !
ในครอบครัวถ้าหัวร้อนง่ายบรรยากาศก็ตึงเครียด. อึมครึม บางทีประชดน้อยใจฆ่าตัวตายไปก็มีเกิดความสูญเสียในท้ายที่สุด.
อย่าหัวร้อนแบบโง่ๆกับลูก เมีย หรือสามี เพราะสิ่งที่พวกเขาได้รับมันก็จะสะท้อนกลับมาที่ตัวเราเอง ยิ่งกับพ่อแม่ผู้มีบุญคุณ นอกจากจิตใจจะหยาบกระด้งขึ้นแล้วด้วยกรรมที่ทำกะผู้มีคุณย่อมต้องได้รับผลก่อนแน่นอนหลายคนจึงมีแต่ปัญหา.
ถึงเวลามีโชควาสนาแทนที่จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ถูกทอนให้ลดลงไปกว่าครึ่ง. ถึงครดวงตกตามจังหวะที่ดาวร้ายส่งกระแสอันเป็นอดีตกรรมก็ซ้ำหนักเป็นทวีเหตุเพราะทำกับพ่อแม่ผู้มีบุญคุณกะเราหรือทำกับผู้หวังดีบริสุทธิ์ใจกะเรา. นี่คือผลที่ได้รับจากการ”หัวร้อน” !!!
เหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้อำนาจแห่งโทสะนำไป. แต่....ในความเป็นจริงคนเหล่านี้มีความน่าเห็นใจเหมือนกันเพราะ...หลายครั้งไม่ได้ตั้งใจไม่ได้เป็นที่จริตนิสัยสันดานที่แท้(แต่ละคนย่อมรู้ตัวเอง.....จริงไหม ?)
เมื่อหัวร้อนโทสะครอบงำง่าย แน่นอนส่วนใหญ่ก็จะได้ผลเพราะคนปกติทั่วไปไม่มีใครอยากเสียเวลาด้วยหยวนได้ก็หยวนยอมได้ก็ยอม.พิมเสนแลกกับเกลือเอาไหม. ทองแลกกับกระเบื้องเอาไหม. การอดทนอดกลั้นได้บ่งถึงการมี”สติ”...(“สติ”...ไม่ได้แค่รู้ว่าจะข้ามถนนต้องดูให้ดีรถจะได้ไม่ชน. “สติ”ในทางพุทธศาสนาลึกกว่านั้นคือรู้ว่าสิ่งที่คิดพูดทำนั้นมีประโยชน์หรือเสียประโยชน์.)
แต่ในใจก็คงคิดแค้นรอเอาคืนไม่มากก็น้อย :) และเมื่อคุ้นเคยกะการใช้อารมณ์. จากนิสัยก็พัฒนาเป็นสันดานเป็นธรรมชาติแล้วไปที่ไหนอยู่ที่ไหนก็สร้างปัญหาให้คนอื่นและตัวเองไม่ยาก.นี่คือการพัฒนาการของคนหัวร้อน
ครั้นถึงคราดวงตกที่จะต้องไปเจอสายพันธุ์เดียวกันหรือเจอคนจริงเข้าก็จะมาสำนึกเสียใจภายหลังก็ช้าไปแล้วเพราะสิ่งที่จะเจอนั้นถ้าสู้เขาไม่ได้ก็เจ็บตัว พิการ ตาย !
ถ้าสู้เขาได้ ทำคนเจ็บ พิการ ตายก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ใช้เงินวิ่งเต้น ครอบครัวเดือดร้อน หนี้สินพูนทวี ติดคุก พลัดพรากจากคนที่รัก เสวยวิบากกรรมหลายปีตามโทสานุโทษ.
เมื่อวิเคราะห์ทางจิตเขาว่าเป็นพวกมีปมด้อยวัยเด็กไม่ได้รับความอบอุ่นก็ว่ากันไป อ้างกันไป โทษพ่อแม่กันไป. แต่ก็มีมากที่ไม่ได้หัวร้อนหาแต่เรื่องเข้าตัว. รู้จักคิดก็มีมาก
รู้จักประมาณตน รู้ว่าจนรู้ว่าต้องมีอนาคตที่ดีให้ได้. รู้ว่าต้องมุ่งมั่นขยันอดทนไม่ว่าวัยเรียนวัยทำงานก็มีให้เห็น. “จิต”ตัวเดียวท่าน จิตดีพาการกระทำไปทางดีแน่. จึงเห็นได้ว่าคนดี มีคุณธรรมทุกฐานะมีให้เห็น. คนหัวร้อนขี้โมโหเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ไร้เมตตากรุณาก็มีให้เห็นทุกฐานะจนรวยเช่นกัน.
จริตนิสัยสันดานที่สั่งสมมาหลายภพชาตินั่นเองจึงมักทำให้เราแปลกใจว่าบางครั้งทำไมบางคนนั้นจนพอมีพอกินตามอัตภาพแต่น้ำใจล้นฟ้า. แต่ก็ไม่เสมอไปในระดับเดียวกันก็ตรงกันข้ามก็มีคนรวยมีฐานะก็เช่นกัน
ปัจจุบันใครเข้าใจเรื่องอริยสัจสี่. เรื่องกรรม. เรื่องชาติภพก็โชคดีเพราะทำให้ไม่ปล่อยชีวิตไปตามดวงตามกรรม เห็นคุณค่าของปัจจุบันกรรมว่าต้องหาโอกาสสั่งสมคุณธรรมความดี
อันมีทานศีลภาวนาเป็นฐานพัฒนาสภาวะธรรมสั่งสมไปเท่าที่สังขารจะอำนวยชีวิตมนุษย์นั้นแสนสั้น เด้วก็วันเด้วก็เดือน หมั่นสร้างเหตุที่ดีเข้าไว้นี่สำหรับคนที่เข้าใจชีวิต.
แต่ถ้าอยากเข้ากระจ่างเชิญท่านอ่านหนังสือ. ”พุทธธรรม”ของท่านปอ.ปยุตโต.นี่คือตะเกียงสำคัญสำหรับท่านที่อยู่ในที่มืด !
เมื่อมองทางโหราศาสตร์ โหงวเฮ้ง ลายมือ.ศาสตร์เหล่านี้เขาก็มีบอกให้รู้เหมือนกัน. เราจะได้รู้ตัวเราเองเพราะหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตรูถึงเป็นเช่นนั้น. ทำไมหัวร้อน.
ทำไมเหี้...แบบนี้. ทำไมไม่มีสติรู้คิดก่อน. ทำไม่ปากห...มาแบบนี้. ทำไมชอบอคติ. ทำไมใจแคบ. ทำไมตรูขี้อิจฉา ทำไมตรูมีแต่สร้างปัญหา.
แต่ไม่ว่าในมุมโหร. โหงวเฮ้งเฮ้งหรือลายมือ จะบอกไว้ก็ไม่ใช่ว่าจะหาทางแก้หรือประโยชน์ไม่ได้. ในทางโหรบอกได้เลยว่าแก้ดวงไม่ได้อย่าให้ความหลงงมงายชี้นำ.
เพราะดวงชะตาเป็นอดีตกรรมบ่งบอกวาสนาแต่ละคนไว้แล้ว. ท่านต้องถามโหรให้ได้ว่าท่านเสียเรื่องอะไรให้ระวังสิ่งนั้นในช่วงเวลานั้นๆจึงได้ประโยชน์ส่วนโชควาสนาหลวงปู่โตท่านบอกไว้แล้ววาสนาถึงเวลามาเองสร้างเหตุปัจจัยในทางที่ดีเตรียมไว้เถิด
ในทางโหงวเฮ้งลายมือก็บอกได้ว่าท่านเป็นคนดุร้ายอารมณ์ร้ายแค่ไหน.โครงหน้า. แววตา โหนกคิ้วท่านเป็นไง. ท่านเป็นผู้ชายแต่ปากท่านบางเคยสักครั้งไหมที่ไม่พูดให้คนรู้สึกแย่.
มือท่านสั้นตู้ๆสี่เหลี่ยมแบบมือผู้ใช้แรงงานท่านก็จะฆ่าคนต่อเมื่อมีอารมณ์. ท่านมือเรียวสวยท่านก็ฆ่าคนด้วยสมอง. ผู้ร่างเล็กสามีตัวออกใหญ่แต่กลัวเมียมากเพราะนิ้วหัวแม่โป้งนางเป็นตุ้มๆแข็งๆ.(ดุมาก).
ข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆแค่บางจุด. เราก็สามารถเข้าใจตัวเองเข้าใจคนอื่นได้ง่ายขึ้นว่าเขาเป็นเช่นนั้นเอง...!
ในมุมโหรคือระวังจุดเสีย และหมั่นทำทานรักษาศีล ภาวนาด้วยเพื่อให้สติมีกำลังค่อยๆทำค่อยสั่งสมจุดที่เสียก็จะถูกทอนลงไป. โหงวเฮ้งลายมือที่มักเปลี่ยนทุก5ปี.
ถ้าเรามีคุณธรรมสร้างแต่ความดี(แบบมีสติ. มีเมตตา กรุณา แต่อย่าลืมอุเบกขา). ทาน ศีล ภาวนาให้ครบ. ถ้าทาน ศีลดี ภาวนาจึงจะได้ผลดี.
แม้โหงวเฮ้งเราอาจไม่ได้ตามตำราแต่โหงวเฮ้งภายในเราถึง. ราศีขี่เส็กเราจะดี. น้ำเสียงเราจะชัด. แววตาจะมีพลัง. การเดินเราจะหนักแน่นขึ้น
ลายมือก็จะมีเนินที่สีนวลขึ้น สมผุสดำอาจจางลง สีที่หมองภายใต้เนินต่างๆจะดีขึ้น เส้นหลักโดยเฉพาะเส้นใจเส้นสมองที่เปรียบเหมือนน้ำคลำจะใสขึ้น. เส้นจรใหม่ๆจะมีให้เห็น.
จิต ที่ดีจะนำไปสู่การกระทำที่ดี. จึงต้องโฟกัสที่ “จิต” ครับพี่น้อง !
จิ้งจก : ยาวอีกแระ... แต่จกก็ชอบนะได้เข้าใจคนมากขึ้น จริตนิสัยสันดานมันติดตัวมาจากภพก่อนๆด้านไม่ดีมันก็มาสานต่อ. ถ้าปล่อยไปตามดวงตามกรรมก็ไม่ได้พัฒนาอะไร เอาดีไม่ได้
เพราะไม่เข้าใจไม่ฝึกฝืนเอาแต่ฝึกฝนเพื่อจะหากิน. ถ้าฝึกให้สติมีกำลังมากๆ เขาก็จะระงับยับยั้งสิ่งที่ไม่ควรได้ง่าย. ไม่ไปสร้างเหตุให้ตัวเองประสบโชคร้ายทำลายตัวเอง.
ถ้ามีสติอย่าว่าแต่หัวร้อนเลย. การสร้างเหตุให้ตัวเองหัวร้อน ก็คงไม่ทำด้วยดีมากเลย. ประหยัดค่าเหล้า ค่ายา ค่านั่งดริ้งค่าหญิงไปเยอะ เพราะเป็นตัวขับให้หัวร้อนทั้งนั้นเลยนะลุง ถ้าเอาเงินที่เสียไปแบบนั้น
เก็บไว้ยามจำเป็น. ซื้อของอร่อยๆให้พ่อแม่กิน. ลงทุนศึกษาหาความรู้เพิ่ม.เก็บออมพอแล้วก็ค่อยไปลงทุนอะไรเพิ่ม ดีกว่าเยอะเลยลุง
หลอดไฟ : เออ :). แต่นั่นมันแค่หลักการ ทุกชีวิตเขามีรายละเอียด มีเหตุปัจจัยต่างกัน ทั้งวาสนาชะตาเกิด.บางคนเกิดมาว่านอนสอนง่ายรักดีมีปัญญามีสติรู้คิดอะไรมีประโยชน์ไม่มีประโยชน์. บางคนตรงกันข้าม.
การเลี้ยงดู พ่อแม่บางคนก็ไม่มีเวลาให้ลูกๆก็ไม่ผูกพันและอาจไม่รักน้อยใจประชดพ่อแม่เสียผู้เสียคนก็มีถ้าดวงชะตาเขาไม่เข้มแข็งพอ สถานะครอบครัวรวยจนก็มีผลเพราะแรงสนับสนุนไม่เท่ากัน
ดวงอ่อนแต่คนอุปถัมภ์ดีก็มีโอกาสดีขึ้น. และสังคมเพื่อนฝูงเป็นตัวแปรสำคัญทั้งนั้น. บางคนได้เพื่อนดีให้แง่คิดมุมมองช่วยเหลือเกื้อกูลมีน้ำใจ บางคนเจอแต่คอยเอาประโยชน์ดีไม่ดีโยนผิดโยนโท?ภัยให้อีก.
ไม่งั้นเขาจะมีคำพูดที่ว่า พ่อแม่เปรียบเหมือนพรหมของลูก. คบคนพาลๆพาไปหาผิดคบบัณฑิตๆพาไปหาผล ช้างเผือกในสลัม กัลยาณมิตรคือมิตรแนะนำประโยชน์อันนี้สำคัญมาก.
บางทีจะไปคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ได้เพื่อนดีให้เวลาให้กำลังใจก็ผ่านพ้นไปได้ ไม่มีสูตรหรือหลักการเคล็ดลับอะไร กรรมลิขิต. พรหมลิขิต ฟ้าลิขิต.
แต่ปัจจุบันกรรมเราลิขิตเองได้ตามเหตุปัจจัย ขอให้เอ็งมี “สติ” รู้อะไรมีประโยชน์อะไรไม่มีประโยชน์ให้ชัดเองก็จะรอด. จำไว้นะ สติมีอำนาจ จิตที่ดีนำไปสู่การกระทำที่ดี. ศีลก็ไม่ต้องไปจำอะไรมาก. แค่มีหิริโอตตัปปะ ตัวเดียวจบ คือความเกรงกลัวต่อบาป.
จิ้งจก : หิริโอตตัปปะ...คือไรลุง ?
หลอดไฟ : คุณธรรมของเทวดา :). :). :)
เช้าวันที่ 30 ก.ย.2562 สยามสแควร์
โฆษณา