4 ต.ค. 2019 เวลา 13:25 • ธุรกิจ
“10 อันดับ” บริษัทจดทะเบียนที่มี “กำไรมากที่สุด” ในตลาดหุ้นไทย (SET) !!! / โดย คลินิกการลงทุน
1
“10 อันดับ” บริษัทจดทะเบียนที่มี “กำไรมากที่สุด” ในตลาดหุ้นไทย (SET) !!! / โดย คลินิกการลงทุน
วันนี้จะพาไปดูกันว่า บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทย “10 อันดับแรกที่มีกำไรมากที่สุด” มีบริษัทใดบ้าง? ไปดูกันครับ …
อันดับที่ 10 “PTTGC” : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
PTTGC
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTT Global Chemical Public Company Limited) เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH) และ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 เพื่อก้าวขึ้นเป็นแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท.
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 353,036.20 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25,601.63 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 448,880.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 39,298.31 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 529,734.02 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 40,069.49 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 256,474.07 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 23,215.46 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 225,885.79 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8,644.92 ล้านบาท
อันดับที่ 9 “BDMS” : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)
BDMS
บริษัทเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมีโรงพยาบาลเครือข่ายในไทยและกัมพูชา ดำเนินการภายใต้ชื่อโรงพยาบาล 6 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบี เอ็น เอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล นอกจากนี้เครือข่ายของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ยังรวมถึงธุรกิจที่ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยาและธุรกิจผลิตน้ำเกลือ เป็นต้น
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 70,496.17 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8,386.48 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 77,136.78 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10,215.74 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 81,096.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 9,191.46 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 39,523.18 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4,961.93 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 48,580.97 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10,304.31 ล้านบาท
อันดับที่ 8 “CPALL” : บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
CPALL
ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร"
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 451,938.85 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16,676.51 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 489,403.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19,907.71 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 527,859.75 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20,929.65 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 257,752.15 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10,196.01 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 282,133.52 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10,563.80 ล้านบาท
อันดับที่ 7 “ADVANC” : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
ADVANC
ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม โดยรวมถึงธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจดิจิทัล เซอร์วิส
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 152,717.99 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 30,666.54 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 158,477.17 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 30,077.31 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 170,835.31 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 29,682.18 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 83,588.81 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16,042.42 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 87,718.94 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 15,324.18 ล้านบาท
อันดับที่ 6 “BBL” : ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
BBL
ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ SME ตลอดจนฐานลูกค้าบุคคล โดยมีสาขาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และมีเครือข่ายในต่างประเทศครอบคลุมเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 102,443.09 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 31,814.84 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 105,476.44 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 33,008.71 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 110,780.81 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35,329.97 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 54,051.43 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 18,198.91 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 56,379.66 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 18,375.30 ล้านบาท
อันดับที่ 5 “SCC” : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
SCC
ธุรกิจการลงทุน (Holding company) ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมีคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 450,573.26 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 56,084.19 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 482,449.47 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 55,041.25 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 505,307.44 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 44,748.34 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 251,550.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 24,807.62 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 232,954.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 18,705.55 ล้านบาท
อันดับที่ 4 “ AOT” : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
AOT
ทอท.ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย โดยธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 52,783.34 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19,571.46 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 56,744.27 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20,683.60 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 62,135.93 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25,170.76 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 46,935.69 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19,923.44 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 48,920.21 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19,905.19 ล้านบาท
1
อันดับที่ 3 “SCB” : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
SCB
ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้าทุกประเภท เช่น รับฝากเงิน โอนเงิน ให้กู้ยืมประเภทต่างๆ บริการด้านปริวรรตเงินตรา Bancassurance บริการด้านการค้าต่างประเทศ Cash Management รวมถึงบริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์ บริการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริการด้านบัตรเครดิตและการรับฝากทรัพย์สิน
1
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 122,443.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 47,612.23 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 125,113.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 43,151.90 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 129,127.21 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 40,067.56 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 63,254.86 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 22,475.66 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 67,874.12 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20,132.11 ล้านบาท
อันดับที่ 2 “PTTEP” : บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
PTTEP
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจขนส่งก๊าซทางท่อในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 153,046.65 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 12,859.72 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 153,526.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20,579.46 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 176,943.16 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 36,206.29 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 81,469.02 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16,970.99 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 94,995.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 26,163.22 ล้านบาท
อันดับที่ 1 “PTT” : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
PTT
ธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร โดยผ่านธุรกิจที่ดำเนินงานเองและธุรกิจที่ลงทุนผ่านบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ การสำรวจและผลิต จัดหาและจัดจำหน่าย ขนส่ง และแยกก๊าซธรรมชาติ ดำเนินกิจการค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเคมี และมีการลงทุนในธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีในประเทศ และดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
มีผลประกอบการ ดังนี้
ปี 2559 มีรายได้ 1,737,144.57 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 94,609.08 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 2,044,951.64 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 135,179.60 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 2,367,958.54 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 119,683.94 ล้านบาท
ปี 2561(Q2/61) มีรายได้ 1,123,597.63 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 69,816.78 ล้านบาท
ปี 2562(Q2/62) มีรายได้ 1,142,049.58 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 55,250.21 ล้านบาท
การจัดอันดับกำไรของบริษัทจดทะเบียนใช้ข้อมูลจากกำไรสุทธิในช่วงไตรมาสที่ 2(ครึ่งปีแรก) ของปี 2562 ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นการชี้นำการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาขข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนการตัดสอนใจลงทุนทุกครั้ง ขอให้ทุกท่านโชคดีและประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ …
1
References:
-www.set.or.th
-www.settrade.com
-stockradars.co
1
“10 อันดับ” บริษัทจดทะเบียนที่มี “กำไรมากที่สุด” ในตลาดหุ้นไทย (SET) !!! / โดย คลินิกการลงทุน
อ่าน "คลินิกการลงทุน" สนุกขึ้นในแอปฯ "Blockdit"
ดาวน์โหลดได้ที่: http://www.blockdit.com/app
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา