18 ต.ค. 2019 เวลา 13:48 • สุขภาพ
Vitamin B 1-6-12
วิตามินบี 1-6-12 คือวิตามินที่นิยมนำมาให้ในการบรรเทาอาการจากปลายประสาทอักเสบ ซึ่งสามารถหาได้ตามร้านขายยาที่วไป เช่น Neurobion, Sambee, One Six Twelve เป็นต้น
โดยใน 1 เม็ดยาจะประกอบด้วยตัวยาได้แก่ vitamin B1 (Thiamine), vitamin B6 (Pyridoxine), vitamin B12 (Cyanocobalamin) ซึ่งมีกลไกที่ช่วยในการทำงานของเซลล์ประสาท
1
- B1 มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญของเซลล์ ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายสมบูรณ์ และรักษาโรคเหน็บชา
- B6 มีฤทธิ์ในการลดปวด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ลดการคลื่นไส้อาเจียน
- B12 ช่วยในการพัฒนาของเซลล์เม็ดเลือดแดงและป้องกันการเสื่อมลงของระบบประสาท
ยาที่มีส่วนประกอบของวิตามินทั้งสามชนิดจึงนำมาใช้เพื่อ
- บรรเทาอาการปลายประสาทอักเสบ
- บรรเทาอาการผิดปกติจากการขาดวิตามินบี
- บรรเทาอาการปลายประสาทอักเสบ อันเนื่องมากจากโรคเบาหวาน (Diabetic neuropathy)
- บรรเทาอาการปลายประสาทอักเสบเนื่องจากแอลกอฮอล์ (Alcoholic peripheral neuritis)
- อาการคลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากการตั้งครรภ์
- โรคที่เกิดขึ้นกับระบบประสาทภายหลังการเป็นไข้หวัด (Post-influenzal neuropathies)
โดยอาการที่เกิดขึ้นจะพบว่ามีอาการปวดตามแนวเส้นประสาท อาการชาปลายมือ ปลายเท้า บริเวณหน้า ลำคอ อาการปวดหลังส่วนล่าง กระดูกก้น
1
ขนาดทั่วไปที่ใช้ในการรักษาคือ 1 เม็ดวันละ 3 ครั้ง สำหรับอาการน้อยถึงปานกลาง การปรับขนาดยาหรือระยะเวลาในการรักษาขึ้นกับแพทย์ผู้ดูแล ยานี้มีรูปแบบทั้งรับประทานและแบบฉีดซึ่งจะใช้ในกรณีที่ขาดวิตามิน B รุนแรง
การใช้ Vitamin B 1-6-12 ติดต่อกันเป็นเวลานาน (6-12 เดือนขึ้นไป) ที่มีปริมาณ B6 มากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อวันจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะปลายประสาทอักเสบได้
การรับประทานในคนท้องสามารถทำได้ แต่ต้องไม่เกินปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ส่วนในหญิงให้นม เนื่องจากวิตามิน B1-6-12 สามารถขับออกทางน้ำนมได้ การรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ B6 เกิน 600 มิลลิกรัมต่อวันมีผลยับยั้งการหลั่งน้ำนม (3 เม็ด/วันขึ้นไป) ทำให้น้ำนมหลั่งลดลงได้
โดยปกติวิตามิน B1-6-12 เป็นวิตามินที่มีผลข้างเคียงน้อย เนื่องจากมีอยู่ในแหล่งอาหารต่างๆอยู่แล้ว แต่ก็มีผู้ป่วยบางคนที่มีอาการแพ้ได้ ทำให้เกิดอาการเหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว ผื่นผิวหนังและลมพิษได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานอาการหัวใจวายจากการให้ยาทางหลอดเลือดดำด้วย
1
อาการข้างเคียงอื่นที่พบส่วนใหญ่เป็นทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้องได้ ดังนั้นควรใช้อย่างระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ยานี้มีผลตีกับยาบางตัวได้แก่
- 5-fluorouracil ทำให้ B1 ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปที่ออกฤทธิ์ได้
- ยาลดกรด Antacid ลดการดูดซึมวิตามิน B1
- ยาขับปัสสาวะกลุ่ม Loop diuretic ex. Furosemide ยับยั้งการดูดกลับและเพิ่มการขับออกของวิตามิน B1 ทำให้ได้ระดับยาต่ำในเลือด
- แอลกอฮอล์และชาดำมีผลลดการดูดซึม vitamin B1
- ยาที่ออกฤทธิ์เป็น pyridoxine antagonist เช่น Isoniazid, Hydralazine, D-penicillamine, Cycloserine ทำให้ฤทธิ์ของ Vitamin B6 ลดลง
3
ตอนนี้ยาดังกล่าวไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ดังนั้นเราจึงเริ่มเห็นยานี้โฆษณาตามโทรทัศน์หรือป้ายสื่อโฆษณา แต่อย่างไรก็ตามการใช้ยาโดยไม่จำเป็นหรือไม่มีข้อบ่งใช้ นอกจากจะทำให้ไม่ได้ผลประโยชน์ต่อร่างกาย สิ้นเปลืองค่ารักษาแล้วอาจจะส่งผลข้างเคียงเพิ่มได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
1
เอกสารอ้างอิง
Neurobion. Summary of Product Characteristics. Merck A.E. 2017.
Neurobion® solution for injection. MERCK. 2011.
โฆษณา