31 ต.ค. 2019 เวลา 12:50 • ปรัชญา
The upside ช่องว่าง...ความสัมพันธ์
cr.ภาพยนตร์ the upside
the upside เป็นหนังนอกสายตาที่คนไม่ค่อยดู เท่าแนว marvel แต่เป็นหนังที่ผมชอบเรื่องหนึ่งเลยที่เดียว
ที่ชอบเพราะเป็นแนวสื่อเรื่อง...ความสัมพันธ์...ของคนสองคนที่ต่างขั้ว กลับต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งสะท้อนมิติของคนเราสมัยนี้ ที่ความสัมพันธ์ ลดลง เนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ ความสัมพันธ์รอบๆตัว กลับลดลง
หนังเรื่องนี้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างได้ดี ในยุคที่คนเราต่างรีบเร่งทำงาน จนลืมมิติแห่งความสัมพันธ์ วันนี้ผมไม่ได้มาชวนเล่าหุ้น แต่จะมาชวนคิดถึงมิติแห่งความสัมพันธ์ เรื่องมีอยู่ว่า....
ดิว เป็นนักโทษที่ต้องคุมความประพฤติ ต้องการรับรองว่าตัวเองได้ผ่านงาน เพื่อจะไม่ต้องเข้าซังเตอีก
cr.ภาพยนตร์ the upside
เขาได้เข้าไปตามบริษัท เพื่อขอลายเซ็น เท่านั้น
จนมาถึงรายสุดท้าย ที่เขาต้องมาขอ คือ เจ เป็นมหาเศรษฐี ที่ประสบความสำเร็จทั้งธุรกิจและงานเขียน
เขาต้องรอการเข้าสัมภาษณ์ จากหลายสิบคน หลายชั่วโมง จนสุดท้ายเขาตัดสินใจ บุกเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ เพียงเพราะต้องการลายเซ็นต์เท่านั้น
เจ เป็นมหาเศรษฐี ที่ประสบอุบัติเหตุ จากการเล่นเครื่องร่อง แบบคล้าย เกม pubg ทำให้เป็นอัมพาตทั้งตัว ใช้ได้แค่ช่วงหัวเท่านั้น
cr.ภาพยนตร์ the upside
เขาไม่สามารถ เซนต์ให้ดิวได้ แต่ได้บอกกับอีวาน ซึ่งเป็นเลขาของเขาว่า จะเอาคนนี้ มาเป็นผู้ดูแลเขา
และเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพดีของทั้งสอง ที่คนหนึ่ง ไม่มีอะไรเลย ภรรยาไล่ออกจากบ้าน ลูกก็ไม่รัก
ส่วนอีกคน เป็นมหาเศรษฐี ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย
หนังเป็นลักษณะเนื้อหาที่แสดงเรื่องของความสัมพันธ์ อารมณ์ของตัวละครที่ก่อเกิดขึ้นเป็นมิตรภาพที่ดี ขึ้นมา
ชายคนหนึ่งซึ่งไร้อนาคต ที่ เพียงต้องการงาน เพื่อพิสูจน์ให้ภรรยาและลูกกลับมาเชื่ิอใจเขาอีกครั้ง
กลับชายคนหนึ่งที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เพียงแต่เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ ไร้ความหวังที่จะมีชีวิตอยู่
โชคชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน ช่วยเติม...ช่องว่าง...ที่มันขาดหายไป
คนหนึ่งต้องการงานนี้เพื่อยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น
คนหนึ่งต้องการชีวิตอยากมีชีวิตที่มีอิสระขึ้น
หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดดีหลายอย่างเช่น
ผมชอบประโยคเจ หลาย ประโยค เช่น
"เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง"
ความคิดของเขานั้น ไม่เคยมีมาก่อนตอนที่เขาแข็งแรง เขามีความทะเยอทะยานสูง แม้แต่ เรื่องท้าทาย เล่นเครื่องร่อน ยามมีพายุ เพียงเพราะอยากชนะ ธรรมชาติ เท่านั้น
แต่เมื่อเขา เป็นอัมพาต ทำให้เขาสามารถ พูดออกมาได้ ว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง แม้เขาจะรวยล้น แต่ก็ไม่สามารถซื้อ ร่างกายของเขากลับคืนมาได้
ตอนแรกผมไม่เข้าใจชื่อเรื่อง ว่า upside มันเกี่ยวกับอะไร แต่ถ้าได้ดูจนจบ เราจะรู้ว่าคนติดคุก ถ้าเขาได้รับโอกาส แล้ว เขาทำเต็มที่ในการได้รับโอกาส ชีวิตเขา ก็จะดีขึ้น
ดิวได้รับโอกาส จาก เจ ทำให้เขากลับเนื้อกับตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก แล้ว สุดท้ายหลังจากที่ดิว ได้เงินจากการขายรูปของเขาไป 50,000 ดอลลาร์ ดิวก็เอาไปซื้อบ้าน ความรักที่ได้รับกลับมาจากภรรยาและลูก
เป็นหนังที่ดีเรื่องนึงที่สะท้อนความสัมพันธ์ ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ คนเราสามารถ ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ที่มันเอื้อให้คุณเป็นคนใหม่
อย่างดิวได้มาดูแลเจ ทำให้ได้ซึมซับความคิดความอ่าน ในเรื่องดิว อยากรวย เพราะตัวเองจนมาตลอด เขาถามเจในเรื่องธุรกิจ อันนี้ work ไม่ work เขาก็ได้เรียนรู้ไป สุดท้ายเขาก็ค้นพบว่า เขามีความสามารถในการทำรถอัจฉริยะ ของคนพิการ เพราะเขาเข้าใจปัญหานั้นเป็นอย่างดี
สภาพแวดล้อมที่ดี จะทำให้ชีวิตคุณมีคุณภาพมากขึ้น เหมือนสังคม bd ที่มีการแชร์ความรู้ หลายๆอย่างที่เราไม่รู้ เราก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ขณะเดียวกัน ผมรู้สึกอยากแบ่งปันสิ่งที่ผมรู้ ในสังคมที่รักการเรียนรู้ ครับ
มีคนเคยบอกผมว่า เราจะเป็นอย่างไรในอนาคตให้ดู หนังสือที่คุณอ่านกับ เพื่อน 5 คนที่คุณคบ มันจะพาชีวิตไปทางนั้น เพื่อนว่าจริงมั้ย...ลอง คอมเม้นท์แลกเปลี่ยนกันครับ ไม่มีถูกไม่มีผิด วันนี้มาชวนคิดเรื่อง...ความสัมพันธ์...
reference:
-ภาพยนตร์ the upside
-รูป the upside
ช่องทางการติดตาม:twintrade เล่าหุ้นให้มันง่าย
โฆษณา