2 พ.ย. 2019 เวลา 11:00
5 วิธีลดพุง สำหรับพุง 5 แบบ พุงกลม พุงล่างป่อง ท้องน้อยห้อย คุณเป็นแบบไหน?
💥แบบที่ 1 Hormonal Belly | พุงหมาน้อย
ใครที่มีพุงลักษณะแบบที่ 1 คือพุงช่วงล่างห้อย พุงด้านบนไม่ป่อง แสดงว่าคุณกินขนมหวานมากเกินไป รวมถึงการกินแป้งขัดสี เช่น ข้าว ขนมปัง และกินอาหารที่มีน้ำตาลมาก และไม่แค่นั้นนะคะ คนที่มีพุงแบบนี้มักจะเป็นคนที่มีการใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนั่นเอง!
วิธีลดพุง :
ควรลดการกินคาร์โบไฮเดรตลงค่ะ รวมถึงกินอาหารที่เป็น Low Fat
หันไปกินไข่ อะโวคาโด อาหารที่มีไขมันดี ถั่ว ปลา และผักให้มากขึ้น
ควรออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่หากไม่อยากไปยิม ควรขยับร่างกายหรือเดินให้มากขึ้นค่า
ที่สำคัญ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงก็ดีนะคะ
💥แบบที่ 2 Alcohol Belly | พุงกลม
สำหรับพุงแบบที่ 2 แค่ชื่อก็บอกแล้วค่ะว่าเป็นพุงแบบไหน 😂 ใช่แล้วค่ะ คนที่มีพุงกลมๆ แบบนี้ก็คือคนที่มักจะดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำนั่นเอง! ไม่ว่าจะเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่มีแอลกอฮอล์ ล้วนทำให้เกิดพุงแบบนี้ค่ะ เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้เราย่อยอาหารได้ยากขึ้น และเมื่ออาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดเป็นพุงกลมๆ ป่องๆ แบบนี้นั่นเองค่ะ และที่สำคัญแอลกอฮอล์ยังมีแคลอรี่และน้ำตาลสูง จึงไม่แปลกเลยค่ะที่จะทำให้ใครหลายคนอ้วนลงพุง!
วิธีลดพุง :
ง่ายๆ เลยค่ะสำหรับคนมีพุงแบบนี้ ควรลด ละ เลิก การดื่มแอลกอฮอล์
หันมากินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้น!
💥แบบที่ 3 Bloated Belly | พุงป่อง
พุงแบบที่ 3 นี้จะคล้ายๆ กับแบบที่ 2 ค่ะ แต่จะมีลักษณะของพุงที่ไม่กลมเท่า มักจะแบนในตอนเช้า และป่องหรือบวมในตอนกลางวันค่ะ ซึ่งสาเหตุของพุงแบบนี้ก็มาจากแก๊สที่มีมาก ระบบย่อยอาหารที่ไม่ปกติ หรือก็คือท้องอืดนั่นเอง พุงแบบนี้จะไม่ค่อยอันตรายเท่าแบบอื่นๆ ค่ะ เพราะสามารถแก้ได้ง่ายเพียงแค่เปลี่ยนวิธีกินอาหาร
วิธีลดพุง :
ดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
เพิ่มการรับประทานอาหารจำพวกพืชผัก ผลไม้ ที่ต่อระบบขับถ่าย
หลังจากกินอาหารแล้ว แนะนำว่าให้เดินเล่นสักพักเพื่อย่อยอาหารค่ะ เพราะจะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น
💥แบบที่ 4 Mommy Belly | พุงคนท้อง
สำหรับพุงแบบนี้ มักจะเกิดขึ้นกับเหล่าคุณแม่เพิ่งคลอดค่ะ เพราะหลังจากคลอดแล้ว หน้าท้องของคุณแม่หลายๆ คนจะยังคงมีลักษณะเป็นชั้นแบบนี้อยู่ ซึ่งท้องแบบนี้มักจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือนค่ะกว่าจะยุบ ฉะนั้นอย่าเพิ่งหักโหมออกกำลังกายไปก่อนค่ะ แนะนำว่า รอให้ร่างกายกลับสูสภาวะปกติก่อนจึงค่อยเริ่มออกกำลังกายค่ะ
วิธีลดพุง :
เมื่อร่างกายเข้าที่แล้ว ค่อยๆ ออกกำลังกายด้วยท่าลดพุงเบาๆ ก่อนค่ะ
กินอาหารอย่าง น้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาพลาญไขมัน ในร่างกาย
รวมถึงกินไขมันที่มีประโยชน์ เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก เป็นประจำทุกวัน
💥แบบที่ 5 Stressed Belly | พุงเครียด
พุงแบบสุดท้ายนี้ จะมีลักษณะเป็นพุงชั้นๆ ค่ะ จะเกิดเมื่อเรารู้สึกเครียด ซึ่งเมื่อเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายก็จะผลิตคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายผลิตไขมันขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง และนอกจากความเครียดแล้ว พุงแบบนี้ยังมักจะเกิดขึ้นเพราะการกินอาหารไม่ตรงเวลา กินบางมื้อ ข้ามบางมื้อ กินอาหารขยะมากเกินไป รวมถึงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไปอีกด้วย! และบอกเลยค่ะว่าพุงแบบนี้ยังเป็นสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสียนั่นเอง!
วิธีลดพุง :
ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดอัตราความเครียด เพราะถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาพลาญพลังงานจะทำงานไม่เป็นปกติ และอาจก่อให้เกิดการสะสมของน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตเอาไว้มากขึ้น
ควรลดการดื่มกาแฟลง โดยห้ามดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว
ออกกำลังกายเบาๆ ก่อนนอน อย่างเช่น โยคะ พิลาทีส เพื่อคลายเครียด และเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
#smartweightloss
#ลดน้ำหนักยังไงให้ไม่โยโยj
#โภชนาการปรับเปลี่ยนรูปร่าง
#ผอมได้ไม่ต้องอด
#อยากผอมต้องกินให้อิ่ม
#HealthyWithAnn
cr. ภาพ true.id
โฆษณา