7 พ.ย. 2019 เวลา 01:36 • บันเทิง
ตอนที่ 3 งานอดิเรก
“คุณแม่คะ วันนี้หนูขอกลับเย็นหน่อยนะคะ ไปดูหนังกับเพื่อนค่ะ”
...
“ค่ะ ค่ะ สวัสดีค่ะ”
นิ้วเรียวยาวกด ๆ ถู ๆ ที่หน้าจอมือถือก่อนจะยัดใส่กระเป๋าลิงยิ้มแบบลวก ๆ
“มึงขำอะไร” ฝนขมวดคิ้วเข้มจ้องผมที่กลั้นหัวเราะอย่างทรมานไม่ให้ปลายสายได้ยิน
“ฮ่า ๆ ๆ โอย ปวดท้อง ก็กูไม่เคยได้ยินมึงพูดแบบนี้นี่หว่า”
“แหม มึงก็พูดกับย่า หนูยังงั้น หนูยังงี้ เหมือนกันแหละ กูได้ยินนะโว้ย”
“จริง พวกเราแม่งอยู่เป็นเนอะ”
“กาลเทศะป่ะวะ หนังเข้ากี่โมง กูกลับเย็นมากไม่ได้นะเว้ย”
“เออ งั้นไปกันเลย โรงหนังมันไม่มีที่จอดรถยนต์ มึงซ้อนท้ายจักรยานกูนี่แหละ เดี๋ยวกูไปเอาจักรยานก่อน”
นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่กล้าคิดกับฝนเกินเพื่อน มันเป็นไปไม่ได้ เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด
ผมเป็นนักศึกษาทุนคณะเกษตรฯ ปั่นจักรยานมาเรียน ใช้มือถือเก่า ๆ ที่เพื่อนให้ เติมเงินทีละสิบบาท อาศัยอยู่กับย่าที่ขายกล้วยปิ้ง
ฝนเรียนคณะวิศวะฯ ขับบีทเทิ่ลสีเหลือง ใช้ไอโฟนรุ่นล่าสุด แค่ได้เป็นคนรู้จักก็บุญของผมแล้ว
ตลอดระยะทางราว 2 กิโลเมตร นี่เป็นการปั่นจักรยานที่มีความสุขที่สุดในชีวิตผม มือบางเกาะที่เอว มีจั๊กกะจี๋บ้างแต่ก็อุ่นดี วิวสองข้างทางดูสวยกว่าทุกวัน
ผมหยุดให้ฝนลงที่หน้าจุดรับฝากรถมอเตอร์ไซด์ ควักเหรียญห้าให้ลุงแล้วรับคูปองสีบานเย็นเล็ก ๆ มาใส่กระเป๋าเสื้อ จูงรถจักรยานไปจอดตรงที่ว่างข้างหลังลุงแล้วเดินไปโรงหนังกับฝน
“รับฝากรถนี่ดีเหมือนกันนะ นั่งเฉย ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้” ผมพูดลอย ๆ
“มันต้องดูทำเล ต้องมีทุน มีที่ ไม่ใช่ง่าย ๆ อย่างที่มึงคิดหรอก”
“มึงดูเชี่ยวชาญนะ ทำธุรกิจรับฝากเลยมั้ย กูเป็นลูกค้าคนแรกเลย”
“มึงจะฝากอะไร”
“กูจะฝากเวลาที่เหลือทั้งชีวิตไว้กับมึง”
แก้มฝนเริ่มแดงระเรื่อเมื่อผมจับจ้องที่ดวงตาคู่นั้นแล้วยิ้มเขิน ๆ
.
.
“สัส ทำให้กูตื่นเต้นเป็นงานอดิเรกของมึงสินะ”
ขอบคุณโพสต์ลงทุนเวลาของสินิน ที่ให้มุกจีบฝน ☜(゚ヮ゚☜)
คุยกัน : กลายเป็นซีรีส์ซะแล้ว เอาไว้เป็นพื้นที่ปล่อยมุกเล็ก ๆ แบบการ์ตูนแก๊กละกัน
คำเตือน : ระวังมุกแป้ก โปรดศึกษาคลื่นลมก่อนนำไปใช้
( ̄▽ ̄)"
โฆษณา