15 พ.ย. 2019 เวลา 12:59 • การศึกษา
เมื่อ Ebola กำลังจะกลายเป็นอดีต
บทกำเนิด : วัคซีนต่อต้านอีโบลาอย่างเป็นทางการ
6
วัคซีนนี้พร้อมแจกจ่ายให้คนหลายแสนคนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ในที่สุดโลกก็มีวัคซีนอีโบลา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ยุโรปได้อนุมัติวัคซีนที่จะช่วยควบคุมการระบาดของไวรัสอีโบลาเป็นครั้งแรก
1
หน่วยงาน European Medicines Agency (EMA) ได้อนุญาตให้ บริษัท Merck ทำการตลาดวัคซีนซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์สามารถเก็บสต๊อคและกระจายได้กว้างขวางขึ้นโดยเฉพาะในแอฟริกา
ในการพัฒนา, เมอร์คเป็นเพียงรายเดียวที่ได้รับการทดสอบจริงในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคซึ่งมฝแสดงให้เห็นว่า "มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ"
2
วัคซีนได้รับสิทธิบัตรครั้งแรกในปี 2003 ได้ใข้งานเป็นวัคซีนฉุกเฉินเพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรคในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 2,000 คนนับตั้งแต่ปีที่แล้ว
2
ปัจจุบันผู้คนหลายแสนคนได้รับวัคซีนของเมอร์ครวมถึงพนักงานด้านสาธารณสุขกว่า 60,000 คนใน DRC และประเทศเพื่อนบ้าน
ไวรัสอีโบลา (สีน้ำเงิน) กำลังโจมตีเซลล์ไต (สีเหลือง) ที่ได้จากลิงแอฟริกา เครดิต: NIAID Flickr 
วัคซีนของเมอร์คซึ่งวางตลาดภายใต้ชื่อ Ervebo และเป็นที่รู้จักของนักวิจัยในฐานะ rVSV-ZEBOV-GP
วัคซีนได้รับการทดสอบในการทดลองทางคลินิกในประเทศกินีจนถึงสิ้นสุดการระบาดของอีโบลาในปี 2014 -2016 ในแอฟริกาตะวันตก มีการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ได้รับการติดต่อกับผู้ติดเชื้ออีโบลาและการติดต่อที่ตามมา
มันถูกพบว่า มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้ออีโบลา
ผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพในประเทศต่างๆได้ใช้กลยุทธ์นี้ - ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อการฉีดวัคซีนวงแหวน(ring vaccination)
3
สิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาถัดไปคือ การใช้วัคซีนของเมอร์คในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การป้องกันเพื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพฉุกเฉินที่อาจพบเชื้ออีโบลาในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้นักวิจัยจะต้องกำหนดระยะเวลาการป้องกันของวัคซีนว่าจะคงอยู่นานแค่ไหนและการเพิ่มขนาดยาสามารถเพิ่มภูมิต้านทานได้หรือไม่
3
ผลิตภัณฑ์ของเมอร์คตัวนี้สามารถป้องกันไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ Zaire ซึ่งเป็นไวรัสที่ระบาดใน DRC ปัจจุบันและระบาดในแอฟริกาตะวันตกปี 2014 - 2016
ปัจจุบัน WHO ระบุว่ามีวัคซีนอีโบลาอีกเจ็ดตัว
ที่อยู่ในขั้นตอนการทดสอบทางคลินิก
ในเดือนกันยายน 2562 องค์การอนามัยโลกประกาศว่า วัคซีนที่ผลิตโดย "จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน" อาจจะถูกนำมาใช้ใน DRC
โดยบริษัทได้ส่งวัคซีนเพื่อดำเนินการขออนุมัติจาก EMA เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
วัคซีนของ Johnson & Johnson นั้นเป็นการฉีดบูสเตอร์ที่ต้องให้ยาซ้ำใน 56 วัน ซึ่งต่างจากของเมอร์คที่เป็นการฉีดครั้งเดียว ซึ่งการฉีดครั้งแรก ใน DRC นั้นจะฉีดให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสอีโบลาเช่น เจ้าหน้าทีด้านสาธารณสุข
1
และในเดือนหน้า จะมีการตัดสินใจว่าจะสร้างคลังสินค้าอีโบลาทั่วโลกหรือไม่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนองค์การอนามัยโลกประกาศว่ามี "การฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า" ของเมอร์ค ซึ่งหมายถึง การยอมรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่าเป็นไปตามมาตรฐาน
1
คำย่อ
EMA = European Medicines Agency (EMA)
DRC = Democratic Republic of the Congo (DRC)
1
📷 @eu_echo
Ref.
1
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
โฆษณา