16 พ.ย. 2019 เวลา 10:47
🎯เรื่องสั้นขนาดยาว ชุดนทีแห่งชีวิต
🍃Line ... พี่ชาย
🖌ตอนที่5... มิตรภาพกับความหลัง
.
ต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ขณะที่ชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจถ่ายรูปและฟังการอธิบายของดาตูผู้เฒ่าแห่งบานาเว่ ถึงที่มานาขั้นบันไดBatad rice terriceสิ่งมหัศจรรย์อันดับ8ของโลก อยู่นั้นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ไอ่เจียวหรือริวจิ พี่ชายตัวดีหายไป
.
.
พี่ผมหาย…ผมใจแป้ว เดินกลับไปทางเก่า 555ไอ่บ้าเอ้ย เห็นยืนคุยกับเด็กที่นี่
.
.
ผมรีบเดินเข้าไปหา ผมเห็นรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ชายที่มักไม่ค่อยเห็นแบบนี้มานานมาก ผมจึงเลี่ยงที่ไม่จะเดินเข้าไปใกล้ ปล่อยให้เขาและเพื่อนใหม่วัยเด็กแลกเปลี่ยนความสุข มันคงเป็นพลังงานบวกที่ไม่ต้องแสแสร้งมันสะท้อนออกมาจากแววตาของคนทั้งสอง
.
.
โดยเฉพาะพี่ชายผมซึ่งปกติมักหลบสายตาผู้คน เดินติดหลังผมตลอดมากว่ายี่สิบปี วันนี้ผมเห็นเขาตัดสินใจที่จะอยู่ลำพังกับคนอื่น แม้คนๆนั้นจะเป็นเด็กก็ตาม ก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆแล้วสำหรับผม
.
.
พี่ผมเป็นเด็กพิเศษครับ พิเศษที่ว่าเรียนร่วมกับเด็กนักเรียนประจำแทบไม่ได้
ครูแจ้งว่าน้องเรียนรู้ได้ไวเกิน และมักทนรอคอยนานๆไม่ได้ การบ้านไม่ส่งแต่ทำข้อสอบเต็มทุกครั้ง ครั้งแรกครูคิดว่าเด็กชายจิระธาราลอกข้อสอบ เรียกตัวมาบีบเค้นด้วยความเข้าใจผิด
จนตัว..พี่สั่นเทิ้ม
.
.
โยกตัวหลุกหลิก
.
. เหมือนคนตกใจประหม่า
.
.ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
และดื้อไม่ไปโรงเรียน
.
.
แม่ต้องรีบไปรับส่งและแจ้งให้ครูได้รู้ถึงอาการผิดปกติอันนั้น ครูถึงได้เข้าใจและเอาใจใส่เป็นพิเศษ ด้วยความพิเศษนี้เองจึงโดนเพื่อนแกล้งคงหมั่นไส้ จนแม่ต้องขอทำเรื่องย้ายห้องมาเรียนห้องเดียวกับผม ตอนนั้นมันไม่บอกแม่หรอกครับ
.
.
วันหนึ่งแม่เห็นรอยฟกช้ำที่ต้นแขน
แม่ถาม .... มันรึจะตอบก้มหน้านิ่งอยู่อย่างนั้น แม้แม่จะจับหน้าเงย เด็กน้อยก็สะบัดหน้าหนีแล้วก้มหน้านิ่ง วันนั้นผมเห็นแม่ร้องไห้ดึงตัวพี่มาโอบกอดแต่ก็ไร้สัญญาณใดๆจากพี่ชาย…นิ่งเฉย…
.
.
.
เป็นภาพที่ผมจำได้ติดตา
.
.
ตั้งแต่นั้นมาผมเลยต้องเป็นองครักษ์พิทักษ์พี่ชาย เด็กกลุ่มเดิมก็ตามมาแกล้งตลอดมันคงแค้นที่ครูใหญ่คาดโทษและโดนทำโทษหนัก ถ้าเจอผมอยู่ด้วยก็พอได้รอยฟกช้ำแลกเปลี่ยนกัน บางทีผมก็เบื่อมันที่ไม่ตอบโต้บ้าง
.
.
วันนั้นผมจำได้ดี หลังเลิกเรียน ในช่วงที่ผมเข้าห้องน้ำ กลุ่มเด็กเจ้าเดิมเดินผ่านพี่ชายที่รออยู่หน้าห้องน้ำหลังโรงเรียน
.
.
. ก็เสร็จสิครับ ผมออกมาก็ได้แต่แอบดูปล่อยให้โดน เผื่อมันจะฮึดขึ้นสู้…
แล้วไง…ก็ไร้ผล จนผมต้องต้องออกโรง ก็มันพี่ผมนี่หว่า หลังจากสอยพวกนั้นเสร็จ ด้วยความที่ผมเจ็บตัวด้วยก็พาลโมโห จับมันกระแทกฝาผนังอาคารเรียนเอาข้อศอกดันคอจนมันแทบขาดใจ
.
.
.
.
จนมันต้องเอามือจับข้อศอกผลักออก นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่พี่ชายผมรู้จักตอบโต้ และทรุดลงกองที่พื้น ผมทิ้งให้มันหายใจหอบอยู่อย่างนั้น
.
.
สักพักมันก็วิ่งตามต้อยๆอย่างห่างๆ เดินกลับบ้าน
.
.
ตั้งแต่นั้นมามันก็กลัวๆผม ได้แต่เดินก้มหน้าตามหลัง และผมก็รู้สึกผิดเหมือนกัน
สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำกับมันอีก แต่ก็ไม่บอกมันหรอก..เดี๋ยวมันได้ใจ..เอากับผมสิอีโก้แม่งเต็มหัว
.
.
เมื่อจบม.3ผมเข้าปวช.ช่างศิลป์พี่ชายต่อ
ม.4โรงเรียนเดิม โชคดีหน่อยที่เจ้าพวกเด็กนั่นแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่นบ้างก็มีบางคน มาเรียนประมาณเด็กช่างสำนักเดียวกับผม แต่คนละสาขา ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก พี่ชายก็ปรับตัวได้ค่อนข้างเยอะ
.
.
ผมในฐานะน้องชายก็สบายตัวหน่อย พี่ชายอยู่ห้องคิงครับ แต่สิ่งที่ทำทุกวันคือมันจะเดินมาที่วิทยาลัยในตอนเย็นรอผมเดินกลับบ้านทุกวัน
.
.
พักหลังพี่ชายเริ่มมีอาการผิดปกติ ผมก็คิดว่ามันคงเหงาอาจเพราะผมกำลังติดสาวนางหนึ่ง ผมเลือกที่จะไปกับสาว และมันก็เรียนหนัก ความคาด หวังของพ่อก็มากนัยว่าอยากให้ตามรอยเรียนแพทย์ อาการเก่าๆเริ่มกลับมา
.
.
หลายครั้งผมเห็นมันเข้าห้องน้ำนานๆ ทำตัวหลุกหลิก บางครั้งซึมโดยไม่มีเหตุผล ไม่มองหน้า เดินเข้าๆออก ห้องน้ำห้องนอน หรือเดินไปมาในห้อง แต่ตอนนั้นผมก็ติดสาวเลยไม่
ไคร่ได้สนใจมันนัก จนวันหนึ่งผมเอาผ้าไปซักเห็นรอยคราบเลือดเล็กๆเปื้อนกางเกง
.
ผมจึงเอะใจในพฤติกรรมที่ผิดปกติ ด้วยความอยากรู้จึงต้องแอบส่องห้องน้ำเหมือนพวกถ้ำมอง เวลาที่มันมีอาการแปลกๆ จะเดินเข้าห้องน้ำทันที.
.
.
.
.
พระเจ้า…
.
.
ปัง ปัง💢
.
.
ปังปัง..💢
....ผมตบประตูรัวรัว สักครู่ไอ่เจียวก็เดินตัวแข็งออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงพี่ชายตัวดี
.
.
...มันคือดินสอกด
.
" เมิงทำอย่างนี้ได้ไง " ผมรีบดึงดินสอกดปลายจะเป็นเข็มเล็กๆเหวี่ยงออกหน้าต่างห้องนอน จับมันนั่งแล้วถลกกางเกงขาสั้น เห็นรอยจ้ำเลือดทั้งเก่าและใหม่ บนหน้าขาทั้งสองข้าง
.
.
" นี่เมิงไม่กินยานานแค่ไหนแล้ว "ผมหมายถึงยาที่รัษาอาการซึมเศร้า ผมกระชากคอเสื้อพี่ชายขึ้น มันก็ไม่พูด
.
.
"บอกกูซิกี่วัน" มันได้แต่ขยับหน้าส่ายไปมา มือกำหน้าขาแล้วบีบเกร็ง
.
.
"เชี่ยเอ้ย "ชายหนุมสบถ ชกผนังห้องอย่างลืมตัว
เรื่องนี้ถึงแม่เอาผมตายแน่ สุดท้ายผมก็ต้องบอกแม่ จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต พ่อกับแม่เริ่มมีปากเสียงกันอย่างว่าบางทีการเป็นพ่อแม่กับความเป็นจิตแพทย์ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้
.
.
สุดท้ายแม่ก็ต้องพามันไปหาหมอคนกลางซึ่งก็คือเพื่อนเเม่นั่นเอง เนื่องจากตอนนั้นมันไม่เอาใคร...... สุดท้ายได้ข้อสรุป
.
.
พ่อต้องเลิกคาดคั้นตั้งความหวัง ผมก็ต้องมีอันเลิกลาสาวเพราะดูไอ่เจียวจนสาวเจ้าทนไม่ไหวบอกเลิก คงกลัวว่าถ้าแต่งงานกันผมแล้วไซร้คงต้องนอนชายสองหญิงหนึ่งกระมังและผมต้องลาออกจากวิทยาลัยเพื่อมาเรียนมัธยมปลายกับพี่
.
.
โดยพี่ชายก็ย้ายห้องมาเรียนห้องกากๆกับผม ก็ดีเหมือนกันเพราะไอ้คู่อริเก่ามันก็ชอบเขม่นผมเวลาเจอกันในวิทยาลัยช่างศิลป์
.
.
แต่นั่นแหละมันไม่กล้าทำอะไรผมหรอก เพราะจมูกที่โด่งทุกวันนี้ก็ด้วยฝีมือผมดั้งหักต้องไปทำใหม่เอาซะโด่งยังกะสันเขื่อน กลายเป็นสมญานามที่ผมเรียกมันตั้งแต่นั้นมาส่วนผมก็นิ้วนางข้างขวาหักต้องใส่เหล็กร่วมเดือน เจ๊ากันไป
.
.
.
ผมนั้งคิดเพลินนานแค่ไหนแล้วไม่รู้ได้
ปั้ก…💢
รู้สึกมีวัตถุบางอย่างกระทบศรีษะ มันเป็นฟางข้าวที่มัดเป็นก้อนกลมกลิ้งไปตามพื้นดิน ผมคว้าได้แล้วมองหาที่มา
เห็นเด็กน้อยโบกมือไหวๆ ผมจึงเตะบอลที่ทำด้วยฟางข้าวส่งคืนและลงไปเล่นบอลกับพี่ชายและเด็กตัวกะเปี้ยกนั่น ณ.สนามเด็กเล่น โรงเรียนบริบาล
.
.
.
.เสียงหัวเราะก้องหุบเขาสะท้อนไปมาแล้วค่อยๆเลือนลางไปกับความมืดที่ค่อยๆมาปกคลุมแทนที่....
.
.
.มันเป็นวันที่พี่ชายมีความสุขอย่างไม่ต้องหาเหตุผลกระมัง😊
.
โรงเรียนบริบาลกลางหุบเขา
.
จบตอนที่5แล้วขอรับ ...พรุ่งนี้ถ้าผมว่างจากการเดินเทรลที่เขา กระผมจะมาต่อให้นะขอรับ
เวลาเขียนเรื่องเหล่านี้ผมหล่ะ โคตะระอินมิตรภาพดีระหว่างพี่น้อง...ยังงดงามเสมอ
เมื่อโตขึ้น อย่าลืมนะขอรับครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน...รูปวาดอาจจะก๊องๆไปหน่อยไม่ได้แตะมานาน..และที่นานก็ใช่ว่าจะสวย5555😊😍
.
โฆษณา