21 พ.ย. 2019 เวลา 11:30 • ประวัติศาสตร์
ญีปุ่น จาก Meiji Restoration ถึงสงคราม Midway ตอนที่ 1/5
1
หมายเหตุ :
พอดีไปดูภาพยนตร์ Midway มา หนังเล่าเรื่องเร็วมาก แล้วใส่เหตุการณ์เข้าไปค่อนข้างเยอะ
ระหว่างที่นั่งดูก็คิดว่าใครที่ไม่คุ้นเคยประวัติศาสตร์ช่วงนี้ ดูแล้วน่าจะงง
เลยอยากเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา
เนื้อหาจะมีหลายตอน เริ่มตั้งแต่ การปฏิรูปของญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Meiji Reformation ไล่ยาวไปจนถึงการรบที่ Midway นะครับ
4
วางโครงไว้คร่าวๆประมาณนี้ครับ
ตอนที่ 1 จากโชกุน สู่ จักรพรรดิ์ (Meiji Restoration)
ตอนที่ 2 ญี่ปุ่นค้นพบวิถีโลกตะวันตก
ตอนที่ 3 รัสเซียรบญี่ปุ่น (Russo-Japanese war)
ตอนที่ 4 จาก Pearl Harbor ถึงการรบที่ Midway
ตอนที่ 1 จากโชกุน สู่ จักรพรรดิ์ (Meiji Restoration)
1
1.
สมมตินะครับว่าเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1868
ญี่ปุ่นที่เราเห็นจะ ....
ในแง่เทคโนโลยี เราจะไม่เห็นพวกเครื่องจักรกล ไม่มีเครื่องจักรไอน้ำ ไม่มีรถไฟ ไม่มีโทรเลข
ในแง่สังคม เศรษฐกิจและการเมือง โชกุนและซามูไรจะเป็นใหญ่ สังคมมีระบบชนชั้น ใครอยู่ชนชั้นไหนมีแนวโน้มจะต้องอยู่ชนชั้นนั้นตลอดชีวีต คนธรรมดาทั่วไปไม่มีโอกาสไต่เต้าไปเป็นชนชั้นปกครองได้ ชาวบ้านทั่วไปไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นทางการเมือง การปกครอง ห้ามวิจารณ์รัฐบาล (เพราะไม่ใช่หน้าที่ของชาวบ้าน) การปกครองเป็นเรื่องของซามูไรและโชกุน พูดมากไปมีสิทธิ์โดนทำโทษได้
ในแง่การทหาร ซามูไร จะทำหน้าที่ในการรบ แต่อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายของโชกุนที่จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเกาหลีและจีน ต่างคนต่างอยู่ ญี่ปุ่นจึงไม่รบกันใครมานานแล้ว และพยายามจะไม่มีกองทัพใหญ่ ดังนั้นซามูไรจึงไม่ได้ทำหน้าที่ทางการทหารอีกต่อไป แต่จะเกี่ยวข้องกับการเมือง และศิลปะเสียมากกว่า ในแง่ของอาวุธชาวบ้านทั่วไปจะไม่มีสิทธิ์พกดาบ ไม่มีสิทธิ์ครอบครองอาวุธ มีแต่ซามูไรเท่านั้นที่มีสิทธิ์พกดาบ
อีก 30 กว่าปีต่อมา เดินทางกลับไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง
ในแง่เทคโนโลยี ญี่ปุ่นมีเครื่องจักรกลใช้ มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีรางรถไฟทั่วประเทศ มีระบบโทรเลขเชื่อมโยงเมืองสำคัญๆทั่วประเทศ
ในแง่สังคม เศรษฐกิจและการเมือง มีการยกเลิกระบบชนชั้นที่ทำให้คนไม่มีสิทธิ์เลือกอาชีพ ทำให้ชาวบ้านทุกชนชั้นสามารถเลือกอาชีพได้ตามที่ชอบ มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยสอนหนังสือแบบตะวันตก ซามูไรหายไปจากระบอบการปกครอง คนธรรมดาพอจะมีโอกาสเข้าไปมีส่วนในการบริหารประเทศได้บ้าง หนังสือพิมพ์เขียนข่าวการเมืองได้ ลงบทความวิจารณ์นักการเมืองได้ ประชาชนสามารถคุยเรื่องการเมืองได้อย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องกลัวใครจับไปขังคุก ชาวบ้านเป็นเจ้าของที่ดินได้ มีระบบธนาคารแบบที่เราคุ้นเคยกัน
ในแง่การทหาร ชนชั้นซามูไรหายไป ทหารมาจากประชาชนคนธรรมดา ทำให้ชาวบ้านมีโอกาสเติบโตในกองทัพเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้ อาวุธที่ใช้เปลี่ยนจากการรบด้วยดาบ มาเป็น ปืน ระเบิด เครื่องบิน เรือรบที่ทำจากเหล็กกล้า มีท่าเรือขนาดใหญ่ และในปีค.ศ. 1905 ประเทศญี่ปุ่นที่เคยเป็นประเทศล้าหลังในแง่เทคโนโลยีก็สามารถจะถล่มกองทัพเรือของรัสเซียซึ่งขณะนั้นถือได้ว่าเป็นชาติมหาอำนาจชาติหนึ่ง ลงได้อย่างราบคาบ
ญี่ปุ่นเปลี่ยนเร็วถึงขนาดชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเวลานั้น บันทึกไว้ว่า ญี่ปุ่นทำสิ่งที่ชาวยุโรปใช้เวลา 300 ปี เสร็จ ภายในเวลาแค่ 30 กว่าปีเท่านั้น
คำถามคือ ญี่ปุ่นพัฒนาชาติได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?
2.
ญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 19 นั้นปกครอบด้วยระบอบโชกุน โดยจักรพรรดิเป็นเพียงผู้นำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้นไม่ไ้ด้มีอำนาจอะไรจริงๆจังๆ
เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีเหตุความวุ่นวายภายในประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากต่างชาติที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา โชกุนจึงสั่งให้ขับไล่ต่างชาติออกไปจากประเทศเกือบหมดแล้วก็ดำเนินนโยบายปิดประเทศ ไม่ค้าขาย ไม่แลกเปลี่ยนความคิด กับต่างชาติ อยู่เป็นเวลาสองร้อยกว่าปี
ช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นปิดประเทศนี้ ยุโรปมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการเข้าสู่ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ปฏิวัติการปกครอง และการออกล่าอาณานิคมแข่งกัน
แม้ว่าจะปิดประเทศไปแล้ว แต่เหล่าผู้นำญี่ปุ่นก็ยังคงติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนอกประเทศ ด้วยความกลัว
ญี่ปุ่นเห็น ประเทศต่างๆในโลกแบ่งเป็นสองค่ายใหญ่ ค่ายแรกคือ พวกที่ไปล่าดินแดนอื่นเป็นเมืองขึ้น ค่ายที่สองคือ พวกที่ถูกรุกราน โดยฝ่ายหลังส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย เวียดนาม เขมร อินโดนีเซีย และจีน
ในที่สุดฝันร้ายที่หวาดกลัวก็เกิดขึ้น เมื่อเรือรบของอเมริกัน 4 ลำ ซึ่งนำโดย นายพล แมทธิว เพอรี่ (Matthew Perry) มาปรากฎตัวขึ้นนอกชายฝั่งของประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1853
Commodore Matthew Perry
นายพลเพอรี่มาพร้อมกับจดหมายจากประธานาธิบดี Millard Fillmore ที่ต้องการจะให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศและทำการค้ากับอเมริกา ซึ่งอเมริกาไม่ใช่ประเทศแรกที่เข้ามาเพราะก่อนหน้าก็มีหลายประเทศจากยุโรป พยายามจะเข้ามาเจรจาของติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่นเกือบ 20 ครั้ง แต่ญีปุ่นก็ปฏิเสธไปได้ทุกครั้ง
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ช่วงแรกญี่ปุ่นก็ยังไม่ยอม แต่นายพลเพอรี่ ต้องการจะทำสิ่งที่ประเทศอื่นทำไม่สำเร็จให้จงได้ เขาจึงหันกระบอกปืนใหญ่ของเรือ มายังเมืองเอโดะแล้วยิงสลุตเพื่อฉลองวันชาติอเมริกันสักเล็กน้อย หลังจากนั้น ไม่นานโชกุนก็ยินยอมรับจดหมายจากประธานาธิบดีสหรัฐ และอีกหนึ่งปีต่อมาก็ยอมลงนามในสนธิสัญญาคานากาวา ที่ญี่ปุ่นเสียเปรียบหลายประการ
เรือดำของอเมริกัน
3.
เหตุการณ์ที่โชกุนต้องยอมอ่อนข้อให้กับอเมริกาในครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวญี่ปุ่นมากมาย เกิดกระแสของการต่อต้านโชกุนขึ้น โดยหลายฝ่ายมองว่า โชกุนไม่สามารรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ทันและไม่เชื่อมือว่าโชกุนจะพาประเทศรอดจากชาติตะวันตกได้
ในเวลานั้นใครๆก็ดูออกว่าญี่ปุ่นคงต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ ไม่เช่นนั้นคงจะเสร็จชาติตะวันตกเหมือนเช่นประเทศอื่นๆในเอเชียแน่ๆ แต่ปัญหาคือ เหล่าอำนาจเก่าอย่างเจ้าเมืองที่เรียกว่าไดเมียว และซามูไรจำนวนมากยังไม่ยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่ นักวิชาการ นักการเมือง ซามูไร ที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงก็มีไม่น้อย เพราะมองว่าในขณะที่โลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้ การพยายามจะคงความเสถียรภาพของสังคม และการปกครองแบบเดิมๆไว้ ยังไงมันก็ไม่เสถียรแน่ๆ กลุ่มไดเมียวหรือเจ้าเมือง และคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงจึงแอบรวมตัวกัน เพื่อโค่นโชกุนแล้วคืนอำนาจกลับ ไปสู่สมเด็จพระจักรพรรดิ์ จากนั้นค่อยปฏิรูปประเทศญีปุ่นเสียใหม่ (ฟังดูแล้วเหมือนจะย้อนแย้งไหมครับ? อยากจะเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปข้างหน้า แต่ทำไมจึงย้อนกลับไปใช้ระบบจักรพรรดิ์ซึ่งเป็นระบบการปกครองแบบเก่า คำถามนี้จะตอบให้ในตอนหน้าครับ)
ในที่สุดจึงมีการวางแผนกันระหว่างไดเมียว ซามูไร และคนรุ่นใหม่ เพื่อโค่นล้มโชกุนโตกุกาว่าลง ในปีค.ศ. 1868 แล้วสนับสนุนจักรพรรดิ์มุตสุฮิโตะในวัย 15 พรรษาให้ขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง ในเวลาต่อมาก็ให้มีการล้มระบบซามูไร ยกเลิกระบบชนชั้น และการปฏิรูปอื่นๆ ตามมา
จักรพรรดิ์มุตสุฮิโตะในวัยหนุ่ม
เหตุการณ์นี้ในช่วงนี้ ปัจจุบันจึงเป็นที่รู้จักในชื่อ Meiji Restoration หรือการฟื้นฟูอำนาจของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิ์ มุตสึฮิโตะขึ้นมาใหม่
คำถามสำคัญ คือ แล้วการฟื้นฟูในครั้งนี้ ทำให้ญี่ปุ่นก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้อย่างไร เราจะไปหาคำตอบกันในตอนที่ 2 ครับ
(Ads)
สนใจหนังสือ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้จากลิงก์
อ่านบทความประวัติศาสตร์อื่นๆเพิ่มเติมได้ที่
อ่านบทความวิทยาศาสตร์และการแพทย์ได้ที่
คลิปวีดีโอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
เพิ่งเริ่มทำนะครับ ช้านิดแต่จะมีคลิปใหม่ๆตามมาอีกแน่นอน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา