24 พ.ย. 2019 เวลา 12:00 • สุขภาพ
"ชาดอกชบา(roselle tea)"หรือชาโรแซลล์มีี antioxidant สูงลิบอันดับ 1 มาแรงแซงชาเขียวมัจฉะไม่เห็นฝุ่น
ชาดอกชบา
ชาดอกชบาหรือ (roselle tea) หรือ ชาจาไมก้า(jamaica)หรือชาเปรี้ยวหรือชา karkade ซึ่งแล้วแต่ว่าประเทศไหนจะเรียก
ผมได้ทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลชาตัวนี้มานานพอสมควรเพราะต้องให้แน่ใจว่ามันมีความปลอดภัยสูง
ซึ่งก็ได้เก็บและทดลองชงดื่มด้วยตนเอง และคนรอบข้างหลายคน จนแน่ใจว่าเป็นชาที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยมากที่เดียว
วันนี้จึงได้นำมาเผยแพร่ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้รับรู้เอาไว้ว่า ชาดอกชบานั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากๆ และโดดเด่นอย่างมากเรื่องการ ควบคุมความดันโลหิต
เมื่อมีการเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มทั่วไปถึง 280 ชนิด
ภาพจากการวิจัยเปรียบเทียบ สารAntioxidant จากเครื่องดิ่มต่าง ชาดอกชบาอยู่อันดับ 1
ชาดอกชบา นั้นอยู่อันดับ 1 เอาชนะเครื่องดื่ม อย่าง ชาเขียวมัจฉะอย่างไม่เห็นฝุ่น
ซึ่งทันทีที่ดื่มชาดอกชบา ภายใน 1 ชั่วโมง พลังสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดจะพุ่งสูงขึ้น
แสดงให้เห็นถึง พลังของพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชาถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ซึ่งผมได้มีวีดีโอจากต่างประเทศเพื่อยืนยันว่า คนต่างประเทศหลายประเทศเขาดื่มชาดอกชบา กันเพื่อ บำรุงร่างกายโดยเฉพาะควบคุมความดันโลหิตซึ่งใกล้เคียงหรือดีกว่ายา เป็นอย่างมาก
ในวีดีโอนี้เป็นวิธีการดื่มของคนต่างชาตินะครับ
วีดีโอนี้จะใช้ดอกชบาสดนะครับ ซึ่งวิธีการก็ให้ดูตามวีดีโอ
ส่วนวิธีการทำแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นชาแบบจาไมก้านะครับ(karjade)
ซึ่งตัวผมเองนั้นได้ใช้วิธีการแบบจาเมกา ในการชงดื่มครับ
วิธีการของผมจะแตกต่างจากเขาเล็กน้อย คือ ผมจะต้มดอกชบาจนสี ของดอกชบาซีดลงหลังจากนั้นตักออก แล้วเติมน้ำตาลให้พอหวานนิดหน่อย
พอชา เริ่มเย็นลงผมเติมมะนาวให้รสชาติเปรี้ยวนำแบบจี๊ดจ๊าด สีของชาจะแดงสดมากๆ
หลังจากนั้นผมจะนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อสกัด อีก 1 คืนหลังจากนั้นมาก็สามารถดื่มเป็นชาเย็นได้เลยครับ
ส่วนอีกจุดหนึ่งของดร. ไมเคิลเกรเกอร์ ผู้เขียนหนังสือ How Not to die ได้ใช้สูตรนี้ครับ
ชบาแห้ง 1 กำมือ ใส่ลงในน้ำ 8 ถ้วย จากนั้นให้เติมมะนาว 1 ลูก และเติมน้ำตาล อิริธริทอล 3 ช้อนโต๊ะ แช่ไว้ในตู้เย็นข้ามคืน
เป็นการสกัดน้ำชาแบบเย็น เมื่อตอนเช้าให้ตักดอกออก แล้วเขย่าให้เข้ากัน แล้วใช้ดื่มตลอดวัน
หรือถ้าหากท่านจะอัพเกรด ให้มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูงกว่านี้
ให้ใช้น้ำชาดอกชบา 1 ถ้วยพร้อมกับใบสะระแหน่สด 1 กำมือปั่นให้เข้ากันให้ละเอียด
ก็จะได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่มากที่สุดในโลก
ดร แนะนำให้ดื่ม ไม่เกินวันละ 5 แก้วครับ
สำหรับแพทย์แผนไทยอย่างผม แนะนำถ้าจะดื่มเพื่อสุขภาพ ลองจิบแต่น้อย นั่งคอยดูการตอบสนองก่อนครับ ดูเลือดลมว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือไม่
แต่สำหรับที่ลองทำดื่มเองดูแล้วนั้น มีความเบาหวิวที่สมองมากๆครับ แต่ผมก็ดื่มแค่ 1ถ้วยแก้วเท่านั้น
ถ้าท่านมีเครื่องวัดความดันโลหิต ให้ทดลองก่อนหลังดูครับ
ที่สำคัญคือเมื่อดื่มรสเปรี้ยวแล้วอย่าลืมบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง
และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องลดการทานอาหารที่มีโซเดี้ยมลงด้วยถึงจะได้ผล
ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ
How not to die ของ Dr. Michael Grrger
ผู้ก่อตั้ง NutritionFacts.org
เขียนรับใช้ท่านแต่เพียงเท่านี้หวังว่าคงจะได้รับประโยชน์
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สว้สดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา