28 พ.ย. 2019 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) สามเหลี่ยมมรณะ” ตอนที่ 1
ปฐมบทสามเหลี่ยมปริศนา
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) เป็นสถานที่ๆ มีตำนานเล่าขานมายาวนาน
ทั้งเครื่องบิน ทั้งเรือที่ผ่านเข้ามาในจุดนี้ต่างหายสาปสูญไปอย่างเป็นปริศนา และเกิดคำถามให้ทั้งนักวิทยาศาสตร์และรัฐบาล รวมถึงนักวิจัย ต่างต้องคบคิดและถกกันว่าปริศนาของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าคืออะไรกันแน่
ซีรีย์ชุดนี้เราจะมาคุยกันเรื่องสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าครับ
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) คือที่ไหน? ลองเปิดแผนที่โลก และลากเส้นตั้งแต่เบอร์มิวด้า ลากไปเปอร์โตริโก้ และลากไปยังฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา จะได้เป็นรูปสามเหลี่ยม
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)
บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้นเป็นทะเลลึก หลายๆ จุดมีความลึกกว่าสามไมล์ (เกือบห้ากิโลเมตร) และบางจุดก็ลึกถึงห้าไมล์ (ประมาณแปดกิโลเมตร)
1
บุคคลที่น่าจะเป็นผู้ที่ล่องเรือไปใกล้กับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นคนแรกๆ น่าจะเป็น “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus)”
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus)
ในปีค.ศ.1492 (พ.ศ.2035) โคลัมบัสได้ล่องเรือออกจากสเปนโดยหวังว่าจะค้นพบเส้นทางใหม่ไปถึงเอเชีย
2
แต่แทนที่จะพบเส้นทางใหม่ เขากลับพบเกาะที่ชื่อ “ซันซัลวาดอร์ (San Salvador)” ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบาฮามาส
แต่ก่อนจะไปถึง ขณะอยู่บนเรือซานตามาเรีย (Santa Maria) โคลัมบัสก็เห็นอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดมาก
เรือของเขาเข้าไปในบริเวณที่มีวัชพืชปกคลุมเต็มไปหมด และวัชพืชก็กำลังล่องไปตามน้ำ โดยลอยในลักษณะตามเข็มนาฬิกา และตามวัชพืชนั้น ก็มีทั้งเต่า ปลาไหล และสัตว์ต่างๆ ไต่ยั้วเยี้ยไปหมด
โคลัมบัสคิดว่าเขาน่าจะใกล้เจอฝั่งแล้ว เนื่องจากตามปกติ วัชพืชต้องขึ้นใกล้กับชายฝั่ง ไม่ใช่กลางทะเลอย่างนี้
แต่ผ่านไปหลายวัน ก็ยังคงไม่มีวี่แววของฝั่ง ลูกเรือต่างจิตตกและสติแตก พวกเขาต่างกดดันให้โคลัมบัสหันหัวเรือกลับสเปน
1
และในช่วงเวลานี้เอง อยู่ๆ เข็มทิศก็ไม่ชี้ไปทางดาวเหนือ ไม่ชี้ไปยังจุดที่ควรจะเป็น ทำให้โคลัมบัสแปลกใจมาก อีกทั้งในคืนหนึ่ง ก็ได้มีดวงไฟปริศนาผุดขึ้นมากลางอากาศและตกลงไปในน้ำ สร้างความประหลาดใจให้ทั้งโคลัมบัสและลูกเรือ
โคลัมบัสได้ล่องเข้ามาในทะเลซาร์แกสโซ (Sargasso Sea) ซึ่งเป็นทะเลที่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลซาร์แกสโซก็ตั้งอยู่คาบเกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
ทะเลซาร์แกสโซ (Sargasso Sea)
หลังจากนั้น เป็นเวลานับ 100 ปี นักเดินเรือที่ล่องเรือเข้ามาในทะเลซาร์แกสโซต่างเล่าขานถึงตำนานของทะเลนี้ และทะเลนี้ก็กลายเป็นทะเลแห่งความตาย โดยนักเดินเรือต่างเล่าว่าทะเลนี้ หากมีเรือเข้ามา จะไม่สามารถออกไปได้โดยปลอดภัย และในทะเลแห่งนี้ก็มีเรือผีที่จะลอยล่องในทะเลแห่งนี้ไปตลอดกาล
2
แต่นับเป็นโชคดีสำหรับโคลัมบัส ในเวลาไม่ถึงเดือน โคลัมบัสก็เจอแผ่นดิน
แต่สำหรับเรือลำอื่นๆ ที่ล่องเข้ามาในเบอร์มิวด้ากลับไม่ได้โชคดีเหมือนโคลัมบัส
ในเวลาต่อมา ได้มีเรืออีกหลายลำสูญหายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
ค.ศ.1880 (พ.ศ.2423) เรือ “แอตาแลนต้า (Atalanta)” ได้ออกเดินทางจากเบอร์มิวด้า ล่องไปยังอังกฤษ
แอตาแลนต้า (Atalanta)
บนเรือนั้นมีลูกเรือกว่า 290 คน ทั้งเจ้าหน้าที่และทหารอีกจำนวนหนึ่ง
ปรากฎว่าแอตาแลนต้าหายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย แอตาแลนต้าไปไม่ถึงอังกฤษ
ลูกเรือต่างก็สาปสูญ
ปีต่อมา ค.ศ.1881 (พ.ศ.2424) เรือ “เอลเลน ออสติน (Ellen Austin)” กำลังล่องอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางเหนือของทะเลซาร์แกสโซ
เอลเลน ออสติน (Ellen Austin)
อยู่ๆ ลูกเรือก็เห็นอะไรบางอย่างกำลังลอยอยู่กลางทะเล
“เรือร้าง”
กัปตันเรือเอลเลน ออสตินใช้เวลาสังเกตการณ์อยู่ถึงสองวันเพื่อให้แน่ใจว่าเรือร้างนั้นไม่มีคนอยู่จริงๆ เนื่องจากนี่อาจจะเป็นกับดักของพวกโจรสลัด
เมื่อแน่ใจว่าเรือที่เห็นนี้เป็นเรือร้างจริงๆ เขาจึงส่งลูกเรือลงเรือเล็ก และพายไปสำรวจเรือร้างลำนั้น
เมื่อลูกเรือไปถึงเรือร้าง พวกเขาก็ทำการสำรวจเรือร้าง และก็พบว่าเรือลำนี้มีบางส่วนที่หายไป แต่โดยรวม ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดี แถมบนเรือยังมีเสบียงอยู่เต็มลำเรือ
กัปตันเรือเอลเลน ออสตินจึงสั่งให้ลูกเรือบางส่วนล่องเรือร้างลำนี้กลับไปยังนิวยอร์ก โดยล่องเรือร้างติดตามมากับเรือเอลเลน ออสติน โดยในเวลานั้น หากใครพบเรือร้างกลางทะเลและนำกลับเข้าฝั่ง ก็จะได้รับเงินรางวัล
แต่ในระหว่างที่เดินทางกลับนั้น เรือเอลเลน ออสตินเกิดพลัดหลงกับเรือร้างที่ลูกเรือขับตามมาเนื่องจากหมอกลงจัด
ไม่กี่วันต่อมา กัปตันเรือเอลเลน ออสตินก็ได้พบกับเรือร้างลำนั้นอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าบนเรือนั้นกลับไม่มีคน ลูกเรือที่กัปตันส่งให้มาคุมก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
1
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้ ก็ได้มีรายงานเหตุการณ์ที่หาคำอธิบายไม่ได้อีกหลายครั้ง
ค.ศ.1909 (พ.ศ.2452) “โจชัว สโลคัม (Joshua Slocum)” นักเดินเรือชาวอเมริกันผู้โด่งดังจากการล่องเรือรอบโลกเพียงลำพัง ได้ออกล่องเรือไปหมู่เกาะเวสต์อินดีส์
โจชัว สโลคัม (Joshua Slocum)
เส้นทางการล่องเรือของเขานั้นจะล่องเรือทะลุเข้าไปยังสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าโดยตรง
สโลคัมนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ต่อมา ค.ศ.1918 (พ.ศ.2461) เรือของกองทัพเรือสหรัฐที่ชื่อ “ไซคลอปส์ (USS Cyclops)” ก็ได้หายสาปสูญไปโดยไม่มีแม้แต่สัญญาณขอความช่วยเหลือ
การที่เรือไซคลอปส์ไม่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือนับเป็นเรื่องที่แปลก เรือลำนี้มีวิทยุ ทำไมลูกเรือถึงไม่ขอความช่วยเหลือ?
ลูกเรือจำนวน 309 นายและเรือไซคลอปส์หายสาปสูญอย่างไร้ร่องรอย และเรือไซคลอปส์ก็เป็นเรือขนาดใหญ่ที่หายสาปสูญกลางทะเล
เรือไซคลอปส์ (USS Cyclops)
เรือไซคลอปส์นั้นออกเดินทางจากเกาะบาร์เบโดสในมหาสมุทรแอตแลนติก มุ่งไปอ่าวเชซาพีกในสหรัฐอเมริกา
เส้นทางเดินเรือนั้นได้มุ่งเข้าไปยังใจกลางของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
เรืออีกลำแล้วที่หายไปโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
และแน่นอน เรือไซคลอปส์นี้ไม่ใช่เรือลำสุดท้ายที่หายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
เรื่องราวของเส้นทางนี้เป็นอย่างไรต่อ รอติดตามในตอนหน้านะครับ
โฆษณา