29 พ.ย. 2019 เวลา 10:00 • ความคิดเห็น
การเดินทางจากก้าวแรก
6 ตุลาคม 2562 นับเป็นวันแรกที่เริ่มออกเดินทาง จนถึงวันก็...วัน ขอไม่นับละกันครับ เพราะยังไม่หยุดเดิน 😁 ยังพอมีแรงเดินต่ออยู่ครับ
ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณผู้ติดตามทั้ง 2.4k ด้วยนะครับ ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจติดตามมากขนาดนี้ 🙇‍♂️ ขอบคุณอีกครั้งครับ 🙏
จากวันแรกที่เริ่มออกเดินทางบนถนนสายนักเขียน การเดินทางจะไปไม่ถึงไหนเลย หากขาดผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ผู้นั้นคือ “นักอ่าน” นั่นเองครับ ซึ่งบางครั้งนักเขียนเองก็เป็นนักอ่านได้เช่นกัน
นักอ่านเปรียบเสมือนเพื่อนของนักเขียนที่ดีที่สุด นักเขียนจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย หากงานเขียนนั้น ๆ ไม่มีคนอ่าน
นักอ่านจึงเป็นกระจกเงาที่สะท้อนงานเขียนของนักเขียนได้ดีที่สุด งานเขียนดีมีคุณภาพนักอ่านก็ชื่นชอบ งานเขียนไม่ดีไม่มีคุณภาพนักอ่านก็เลื่อนผ่าน
นักเขียนจึงต้องสังเกตเสมอว่าแต่ละครั้งที่เผยแพร่งานเขียนไป ผลตอบรับเป็นเช่นไร มีจุดผิดพลาดตรงไหน หรือมีจุดดีตรงไหน ผู้อ่านชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร
เปรียบเหมือน พ่อครัวผู้ฉลาด ทำอาหารถวายพระราชา มีอาหารรสหวานบ้าง เปรี้ยวบ้าง เผ็ดบ้าง พ่อครัวจะสังเกตว่าพระราชาชอบอาหารรสไหน เขาก็จะเน้นรสนั้นเป็นพิเศษ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พ่อครัวผู้ฉลาดได้รับรางวัลจากพระราชาอย่างมากมาย เพราะเหตุเป็นผู้รู้จักสังเกตนั้น ๆ
นักเขียนต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่มีใครเขียนเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ทักษะการเขียนเป็นสิ่งที่ฝึกฝนให้เก่ง ให้ชำนาญได้ ไม่เชื่อลองกลับไปอ่านงานเขียนของตัวเองชิ้นแรก แล้วลองเทียบกับผลงานชิ้นล่าสุดดูครับ จะพบเลยว่ามีความแตกต่างเกิดขึ้นแน่นอน
สิ่งที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้นเขียน นักเขียนจะไม่สามารถสร้างสรรค์งานเขียนออกมาได้ดีเลย หากปราศจากความรักในการเขียน ความรักในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวอักษรเพราะความรักเป็นเหตุใกล้ของความสุข
เมื่อมีความรักในการเขียน ความพยายาม ความมีวินัย จะตามมา มาเองโดยอัตโนมัติ นักเขียนที่ประสบความสำเร็จหลายท่านหากเราไปสังเกตดูจะพบว่า พวกเขาเหล่านั้นมีวินัยต่องานเขียนที่ดีมาก
ตัวผมเองก็ไม่ได้เขียนเก่งอะไรหรอกครับ แต่มีความเชื่อมั่นแน่วแน่ว่า หากเรารักในสิ่งที่เราเขียนจริง สักวันเราต้องเก่งขึ้นแน่นอน เก่งขึ้นในทุก ๆ วัน ที่ได้เขียน ผมเชื่ออย่างนั้น
ที่สำคัญเลยอย่าลืมผู้อ่านเป็นอันขาด พึงระลึกไว้เสมอว่าผู้อ่านเราเป็นใคร และเราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราได้เขียนและเผยแพร่มันออกไป
สิ่งนี้จะเห็นได้ชัดในงานเขียนประเภทวิชาการ ซึ่งงานเขียนของผมรวมอยู่ในประเภทนี้ด้วย ดังนั้นเรื่องความถูกต้องของข้อมูลจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ ตรวจสอบมาแล้วเป็นอย่างดี เขียนบนพื้นฐานหลักการที่มีแหล่งอ้างอิง มิใช่กล่าวอ้างมาลอย ๆ เว้นแต่ส่วนไหนเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเอง ก็อาจทำเครื่องหมายให้ผู้อ่านได้ทราบว่า นี้เป็นความคิดเห็น
นักเขียน เขียนงานผ่านเพจ หลายเพจมีนักเขียนหลายคน จำเป็นต้องมีจุดยืนของเพจหรือไม่ จุดยืนเป็นสิ่งที่ช่วยบอกนักอ่านว่างานเขียนของเพจเรา หากเข้ามาอ่านจะได้ประโยชน์อะไร ส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่ปิดกั้นไม่ให้เราเขียนงานเขียนลักษณะอื่น ๆ
ดังเช่นเพจของผมเอง แม้เริ่มต้นจะเขียนเรื่องราวของยา แต่ระหว่างทางที่ได้เดินทางบนสายงานนักเขียนนี้ ผู้อ่านจะเป็นสิ่งช่วยสะท้อนให้เราครับว่า เราควรเขียนสิ่งไหน เพราะผู้อ่านอาจจะชื่นชอบภาษาที่เราเขียนมากกว่าเรื่องราวที่เราเขียนก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทิ้งจุดยืนของเราไป
นักเขียนในบางครั้งก็คือนักอ่าน ณ จุดหนึ่งที่เราเป็นนักอ่าน เราไม่อยากอ่านงานเขียนแบบไหน สิ่งไหนที่เราไม่ชอบ เป็นเรา เรายังไม่อ่านเลย นั่นแหละครับ สิ่งนั้นต้องไม่ปรากฎอยู่ในงานเขียนของเรา
ประเด็นที่ผู้อ่านเสนอไว้ผมไม่เคยลืมเลย เช่น
1. เรื่องการใช้ testosterone replacement : จากอาจารย์หมอเพจหมอสมองประจำบ้าน
2. เรื่องการใช้ growth hormone เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับคนนอนไม่เป็นเวลา : จากคุณเป้ย เพจจะเล่าอะไรให้ฟัง
3. เรื่องหนูทดลอง : จากคุณแบม เพจเรื่องเล่าจากดาวนี้ และคุณแมว เพจแมวพิมพ์
4. เรื่องนรก : จากหลาย ๆ ท่าน
มีเรื่องอื่นอีกไหมเอ่ย หากผมติดค้างเรื่องไหนไว้ทักท้วงได้ครับ 😂
สุดท้ายขอใช้บทความเรื่อง “การเดินทางจากก้าวแรก” ในการขอบคุณผู้ติดตามทั้ง 2.4k อีกครั้งครับ 🙇‍♂️🙏 และขอเป็นกำลังใจให้นักเขียนทุกท่านที่กำลังท้ออยู่ เราท้อได้ครับเพราะผมก็เคยท้อ แต่พอนึกถึงเพื่อนของเรา (นักอ่าน) ความท้อได้หายไปเองเลย และหากใครที่กำลังงง ๆ ในงานเขียนของตนเอง บทความนี้ก็อาจมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อยครับ เมื่อมีก้าวแรกแล้ว มาร่วมก้าวไปด้วยกันครับ นักเขียน นักอ่าน ทั้งหลาย
ขอขอบคุณภาพจาก pixabay

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา