29 พ.ย. 2019 เวลา 11:53
เรื่องสั้นขนาดยาว ชุดนทีแห่งชีวิต
ALONE "เคว้ง"
ตอนที่2 Alone
ณ.เกาะฮ่องกง
เคยมั้ยที่ตื่นนอนแต่ไม่อยากลุกออกจากที่นอน คำถามนี้มันคงง่ายไป ใครๆก็คงเป็น
แล้ว....เคยมั้ยเมื่อเปิดเปลือกตา สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าและรอบด้านกลับยืดหยุ่น เหมือนจมอยู่ในน้ำ มองเห็นอยู่ตรงหน้าจะคว้ากลับเอื้อมไม่ถึง และถ้าถึงก็พบกับความว่างเปล่า
.....เคยมั้ยที่บ่อยครั้งแยกความแตกต่างระหว่างความจริงและความไม่จริงออกจากกันไม่ได้
.....เคยมั้ยที่จะตัดสินใจออกเดินแต่ก็กล้าๆกลัวๆเพราะทุกครั้ง ที่ก้าวกลับแยกไม่ออกว่าขาที่ก้าวไป จะข้ามแอ่งน้ำเล็กๆได้อย่างไร
หลายครั้งที่ผมต้องหยุดชะงักไม่ใช่เพราะการดีเลย์ของสมองแต่เป็นการแยกระหว่างความจริงกับความไม่จริงออกจากกันไม่ได้ กลายเป็นความหวาดกลัว
ผมเองปราถนาจะหลุดพ้นจากภาวะนี้แต่จนแล้วจนรอด…ไม่สามารถหลุดพ้น
โซ่ตรวน….ที่พันธนาการไว้กับความซึมเศร้านิรันดร
ผมชื่อนายจิระธารา เรียบร้อย ผมก็มีชื่อเล่นเหมือนกันครับ ริวจิแม่น้ำตกตั้งให้ ก็นางธาราริน เทพพิทักษ์กุล แต่มักจะเรียกสั้นๆว่าจิ ส่วนเจียวหรือเจี๊ยว อันนี้น้องชายมันเรียก ก็อิยะ หรือนายอิสริยะ เรียบร้อย
555แค่ชื่อเล่นผมก็น่างงอยู่ไม่น้อย เรียกกันจนผมเริ่มสับสนเหมือนกัน ส่วนนามสกุลไม่เหมือนกันกับแม่เพราะแม่แยกทางกับพ่อนายแพทย์ชลธีร์ นามสกุลเรียบร้อย เราสองคนพี่น้องใช้นามสกุลพ่อ ส่วนแม่ก็กลับเป็นสาวโสดอีกครั้ง
ความจริงแล้ว ผมก็เหมือนเด็กทั่วไปว่านอนสอนง่ายบ้างไม่ง่ายบ้าง ไม่เหมือนอิยะน้องชาย เป็นตัวแสบประจำบ้าน คราใดที่สอบได้เลขตัวเดียว พ่อแทบจะปิดซอยจัดงานกันเลยทีเดียว
แต่ก็เห็นอยู่ครั้งเดียวตอนประถมหนึ่งเทอมแรกและเทอมเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่ามันกลัวพ่อเปลืองเงินมันจึงสอยเลขสองตัวรั้งท้ายตลอดมา เหตุผลที่ดีแต่พ่อไม่ปลื้มสักเท่าไร
หลายครั้งผมล่ะก็อิจฉาน้องชายไม่น้อย นอกจากความสามารถที่ปรับตัวได้ต่อทุกเหตุการณ์หรือที่เรียกว่ามึนขั้นโคม่า อิยะยังมีความสามารถถอดกางเกงในม้วนเป็นรูปเลขแปดได้ด้วย ผมว่ามันโคตรน่าทึ่งนะ5555
อัจฉริยะในเรื่องที่เขาไม่ทำกันนั่นล่ะน้องผม ส่วนตัวผมเองแทบจะหาความหวือหวาในชีวิตไม่ได้ บอกอะไรก็ทำ ไม่ทำมากกว่านั้น ชีวิตผมขลุกอยู่แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยม มันก็มีความสุขดี ถ้าจะออกไปข้างนอก เดินไปปากซอยเพื่อซื้อไข่ กับรอรับอิยะที่ป้ายรถเมล์ กับเดินเข้าบ้าน ถ้าไปไกลกว่านั้นมีหวังหลงทาง
อ้อ..ผมชอบอ่านหนังสือทุกประเภทและหลงใหลในตัวหนังสือ และมักทนไม่ได้กับที่ครูพูดซ้ำๆในเรื่องเดิมๆ จนครูเขม่นเอาหลายต่อหลายครา ด้วยคิดว่าผมไม่ตั้งใจเรียน ผมก็ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง ทำไงได้ผมมีพ่อเป็นฮีโร่นิครับ พ่อเก่งทุกอย่าง เสียอย่างเดียวไม่ค่อยคุย แต่ถ้าคุยแต่ละทีกดดันน่าดู หลักการและเหตุผลจะนำหน้าเสมอ
บางทีพ่อไม่พูดถ้าผมพลาดในบางอย่างแต่ผมก็รู้ด้วยตัวเองว่าพ่ออาจไม่พอใจ น้ำเสียงที่เยือกเย็นมันบาดใจมากกว่าเสียงบ่นของคุณนายน้ำตกเสียอีก ยิ่งด้วยแล้วการเป็นลูกคนแรกมักจะถูกเพ่งเล็งจากคนรอบข้างเสมอ
การเรียกหมอริวจิตั้งแต่ผมจำความได้จากคนที่คุ้นเคยกับพ่อ คนข้างบ้าน ไม่เว้นที่ทำงานพ่อ
จะเป็นการล้อเล่นหรือเนื่องด้วยที่ผมเรียนเก่งติดท้อปเท็นของโรงเรียนมาตลอด ทำให้ผมกลายเป็นว่าที่คุณหมอโดยคำพิพากษาของคนรอบข้างไป
จนผมเองก็ไม่รู้ว่าผมชอบหรือเปล่า จะว่าไปในใจก็ไม่ชอบเท่าไร ได้แต่ยิ้มเนือยๆเออออกับเขาไป เนื่องด้วยเห็นพ่อกับแม่ทำงานหนักการรับผิดชอบสิ่งๆหนึ่งที่มีชีวิต มันเหมือนกับการเดิมพันระหว่างชีวิตคนใข้และชีวิตหมอแลกกันให้ตายไปข้างหนึ่ง
ยิ่งทำให้ผมอิจฉาไอ่น้องชายมากขึ้น มันชอบขีดเขียน ดื้อไปสอบช่างศิลป์ ก็ไม่มีใครว่าอะไร พ่อก็ได้แต่มองบนด้วยหาเหตุผลที่จะรั้งให้มันเรียนต่อม.4ไม่ได้ ส่วนตัวผมก็ได้แต่อยู่ในกรอบที่ใครก็ไม่รู้วางไว้และผมเองก็ไม่กล้าออกจากนอกกรอบ ด้วยความกลัวความผิดพลาด ชีวิตผมเหมือนกับพายเรือในอ่างวนไปวันแล้ววันเล่า
และด้วยความที่ผมเป็นคนพิเศษนี่เอง ทำเอาเพื่อนหลายคนไม่พอใจ แอบแกล้งตามภาษาคนยิ่งอ่อนยิ่งได้ใจ ยิ่งเห็นผมเอ๋อๆก็ยิ่งแกล้งบ่อยด้วยความที่ไม่ทันคน ผมไม่สามาถแยกแยะระหว่างความจริงกับการล้อเล่นออกจากกันได้ ที่เล่ามานี่ไม่ใช่นิยายนะครับ มันอาจจะเกิดกับใครคนใดคนหนึ่งในบ้านใครก็ได้
……..และด้วยความที่รู้สึกว่าเราไม่เหมือนใคร ทำให้เราห่างไกลจากพวกเขาทุกทีทุกทีจนดูเหมือนว่าความโดดเดี่ยวเริ่มครอบงำ
จะมีเพียงเรื่องเดียวที่พอจะยึดได้คือการเรียน
วันที่สอบเข้า ม.4 ผมรู้สึกตื้อที่หัว อาจเป็นเพราะเพิ่งฟื้นไข้ ปรากฏว่าทำข้อสอบไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ....พลาด
ผมรั้งอันดับท้ายของผู้ที่จะอยู่ห้องคิง คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องงี่เง่าแต่สำหรับผมคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฮีโร่ผมภูมิใจ ...
ความออ่นไหวในตัวผม....
เริ่มทำงาน ...
ฮีโร่ไม่ว่าอะไรแต่ก็ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
"ทำไม"
.
.
ผมเดินเข้าห้องน้ำ นั่งอยู่บนฝาโถชักโครกอยู่เนิ่นนาน....สุดท้ายผมก็ลงโทษตัวเองได้สำเร็จ หยิบดินสอกดปลายหัวแหลม กดที่หน้าขาอย่างลืมตัว ความรู้สึกเจ็บเริ่มขึ้น...แปล๊บ..
.
.
.
.
การลงโทษสำเร็จแล้ว...ผมยิ้มทั้งน้ำตา
.
.
.
.
“ไอ่เจียว ไอ่เจียว. เสียงแว่วๆแล้วค่อยดังขึ้น ร่างกายผมเหมือนถูกโยนไปมา
ผมค่อยๆเปิดเปลือกตา ภาพเคลื่อนไหวที่ตรงหน้าที่เลือนรางค่อยๆชัดเจน
“อิยะ”
“เออกูสิวะ เนี่ยมันแปดโมงเช้าแล้วนะเว้ย รีบจัดการตัวเอง เดี๋ยวกรูไปกินข้าวข้างล่างที่ห้องอาหาร วันนี้ต้องไปอีกเกาะลันเตา..เมื่อก่อนตื่นมาขรี้ตอนเจ็ดโมงเช้า เดี๋ยวนี้นาฬิกาชีวิตเมิงเริ่มเพี้ยนล่ะกุว่า กุเขย่าตั้งนาน”
น้องชายหันมาย้ำก่อน จะลงไปยังห้องอาหาร ชั้นล่างของโฮสเทลใจกลางเมืองบนเกาะฮ่องกง
อากาศฮ่องกงมันช่างหนาวจนมึนหัว 14องศา ชายหนุ่มควานหาแว่นตาคว้าขึ้นมาใส่
…ลืมเอายามา…ชายหนุ่มพึมพำ ก่อนที่จะเดินตัวอ่อนปวกเปียกเข้าห้องน้ำ ร่างกายที่สัมผัสน้ำอุ่นๆเรียกความแช่มชื่นออกมาได้มากทีเดียว
ไม่กินสักสองสามวันคงไม่เป็นไร….
.
.
.
.ชายหนุ่มรำพึง
พรุ่งนี้ติดตามต่อนะครับ..แล้วผมจะมาเล่าให้ฟัง
.
.
จิระธารา (ริวจิ)
🎯ท้ายบท...
โรคซึมเศร้าคืออะไร
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วคำว่าโรคซึมเศร้าฟังดูไม่คุ้นหู ถ้าพูดถึงเรื่องซึมเศร้าเรามักจะนึกกันว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสียมากกว่าที่จะเป็นโรค ซึ่งตามจริงแล้ว ที่เราพบกันในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกธรรมดาๆ ที่มีกันในชีวิตประจำวัน มากบ้างน้อยบ้าง อย่างไรก็ตามในบางครั้ง ถ้าอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง มีอาการต่างๆ ติดตามมา เช่น นอนหลับๆ ตื่นๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงมาก หมดความสนใจต่อโลกภายนอก ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายของโรคซึมเศร้าแล้ว
 
คำว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติธรรมดาที่ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวคลี่คลายลง หรือมีคนเข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้านี้ก็อาจหายได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่างๆ แล้ว การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันก็แย่ลงด้วย
คนที่เป็นแม่บ้านก็ทำงานบ้านน้อยลงหรือมีงานบ้านคั่งค้าง คนที่ทำงานนอกบ้านก็อาจขาดงานบ่อยๆ จนถูกเพ่งเล็ง
เรียกว่า**ตัวโรคทำให้การประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆ บกพร่องลง **
หากจะเปรียบกับโรคทางร่างกายก็คงคล้ายๆ กัน เช่น ในโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นก็จะมีอาการต่างๆ ร่วมกับการทำอะไรต่างๆ ได้น้อยหรือไม่ดีเท่าเดิม
 
ดังนั้น **การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค **
กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตรต่างๆ ดังเดิม
 
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก การเปลี่ยนแปลงหลักๆ จะเป็นในด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม ร่วมกับอาการทางร่างกายต่างๆ
ขอขอบคุณบทความศาสตราจารย์นายแพทย์มาโนช หล่อตระกูล มาณ.โอกาสนี้ด้วยครับ
โฆษณา