2 ธ.ค. 2019 เวลา 10:13
เรื่องสั้นขนาดยาว ชุดนทีแห่งชีวิต
EP.4...นิรันดร "Infinity"
ตอนที่1 ...รักอันเป็นที่นิรันดร์
 
♡♡♡♡♡♡♡
ขอโทษ...
....คำว่าขอโทษเป็นคำที่ทรงคุณค่า
คำว่าขอโทษมีพลังอำนาจสูงเปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตร
แสดงว่าผู้นั้นเห็นอัตตาของเขา
และอัตตานั่นจะอยู่ไม่ได้ถ้าเอ่ยคำว่าขอโทษจากหัวใจ
ลูกจ๋า..จงทลายกำแพงด้วยคำว่าขอโทษ ที่มาจากในนี้ ผู้เป็นแม่เอาฝ่ามือประกบที่หัวใจของชายหนุ่ม จนรู้สึกได้ว่าฮอบบิทตัวน้อยกำลังเริงร่าอยู่ภายในอกเขา
แล้วคำว่าอภัยจะเกิดขึ้นนะลูกรัก....
______________
.
.
.
.
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า....
.
.
เอี้ยดดด…!! .ชายหนุ่มแทบล้มคะมำด้วยแรงเบรค ตามด้วยเสียง เอะอะโวยวายของชายคนขับรถประจำทาง
"ไอ่เด็กเวร พวกมึงจะไปตีกัน ก็ไปตีกันที่อื่นมาไล่ตีกันกลางถนนไม่อายหมารึไง กุเบรคไม่ทันก็ซวยกุอีก "
สิ้นเสียง ของชายขับรถ เพล้งงง..!กระจกหน้ารถประจำทางร้าวเป็นทาง ผู้โดยสารกรูกันออกจากรถด้วความตกใจ ปล่อยให้ชายขับรถนั่งเกาหัวแกร๊กด้วยความงง
เด็กหนุ่มรีบลงรถ เห็นหลังไวไว นั่นมันไอ่เขื่อนนิหว่า มันจะเรียนหาพระเสาร์รึไงวะ มันน่าจะจบได้แล้ว ชายหนุ่มจำได้
ไอ้เขื่อนถ้าจำได้ก็คือหนึ่งในหัวโจกที่เคยฟัดกัน หน้าห้องน้ำคราวช่วยไอ่เจียวพี่ชายโดนแกล้ง
ที่จริงมันก็ไม่ได้ชื่อเขื่อน แต่โดน ชายหนุ่มเสยดั้งที่มีอยู่น้อยนิดหัก ระเห็จไปทำดั้งใหม่โด่งยังกะสันเขื่อน ไอ้เขื่อนจึงเป็นสมญาตั้งแต่นั้นมา
ไม่รู้จักจบทำมาหากิน วิ่งไล่ตีกันได้อะไรว้า ชายหนุ่มพึมพำเดินเลี่ยง ดีนะถึงซอยหน้าบ้านพอดี ไม่งั้นมีหวังเดินขาลาก
"เชี่ย..อะไรวะเนี่ย" ชายหนุ่มเกือบลื่นล้ม
" ใครทำถุงไข่แตกเรี่ยราดวะ" ให้มันได้ยังงี้ซิว้า..ชายหนุ่มหัวเสีย
เอาเลยพวกมรึง..เอาตีกันเข้าไป ชายหนุ่มเหลือบมองที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอย กลุ่มไอ่เขื่อนเพื่อนเคยร่วมสถาบัน
เขาจำเสื้อเจ็กเก็ต
รุ่นสมัยที่เขาเคยเรียนปี1ช่างศิลป์ก่อนจะย้ายมาเรียนกับพี่ชาย กำลังตะลุมบอลกับเด็กสถาบันอื่น
ซัดนัวกันอย่างเมามัน
ชายหนุ่มส่ายหน้ารีบเดินกับเข้าบ้าน
"แม่..แม่.." ชายหนุ่มเรียก ผู้เป็นมารดาตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวเข้าประตูบ้าน
" อิยะเหรอ " แม่โผล่มาจากครัว
" อ้าวพี่จิหล่ะลูก"
"อยู่ข้างบนห้องมั้ง"
" มีไรกินมั้งคุณน้ำตก... หิวมากกก.."ชายหนุ่มลากเสียงยาว
" วันนี้มีประชุม พี่แซ่บโยนงานให้หนูอีกแระ คราวนี้ได้ไปญี่ปุ่นด้วย กะว่าจะชวนไอ่จิ
เอ้ย..พี่จิไปด้วย" ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนสรรพนามพี่ชายทันทีทีคุณหญิงน้ำตกมองค้อน แต่ยังคงสรรพนามว่าหนูอยู่เช่นเดิม
พร้อมกับโอบกอดมารดาด้านหลังขณะที่เธอกำลังทำกับข้าว ผู้เป็นแม่อมยิ้มพร้อมส่ายหัว
"จิไปซื้อไข่หน้าปากซอยนี่ ไม่เจอกันเหรอลูก"
" แม่เสื้อนี่ไปไหน ชายหนุ่มหมายถึงเสื้อแจ็คเก๊ตที่พาดกับเก้าอี้ไม้ ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
ไม่รู้สิ สงสัยพี่จิใส่ไป เห็นว่าแดดมันร้อนมั้ง พี่เขายืมเดี๊ยวเดียวทำเป็นหวงไปได้ ลูกคนนี้นี่"
.
.
.
" อ้าวพูดไม่ทันขาดคำ จะไปไหนล่ะนั่นหนะ"
ชายหนุ่มวิ่งไปหน้าปากซอย อย่านะมึงไอ่เจียว
ชายหนุ่มนึกหวั่น กับเหตุการณ์ตะลุมบอนกันของคู่อริต่างสถาบันกับเศษไข่แตกเรี่ยราดบนพื้นถนน
ทันทีที่ชายหนุ่มถึงหน้าปากซอย กลุ่มนักศึกษาตีกันยังไม่เลิก คราบเลือดเจิ่งนอง ไปทั่งบริเวณ สังเกตเห็น ชายสวมเสื้อแจ็คเก็ต
นอนฟุบที่ขอบฟุตบาทหน้าป้ายรถเมล์
"ไอ่เจียว ไอ่เจียว เมิงอย่าเป็นอะไรนะ" ชายหนุ่มรีบพลิกตัว หมายว่าชายที่อยู่เบื้องหน้าคือไอ่เจียวพี่ชาย
" อ้าว..ไอ่เขื่อน มรึงเป็นไรมากมั้ย" ใจหนึ่งก็โล่งใจที่ไม่ใช่พี่ชาย แต่ไอ้ที่อยู่ตรงหน้าก็ตาลอย เลือดไหลจากจมูกและปาก เห็นทีจะไม่ไหว
" ใครก็ได้ช่วยที ตามรถโรงบาลหน่อย 191ก็ได้พี่ "ชายหนุ่มตะโกน บอกคนรอบข้างที่อยู่บริเวณนั้น แต่ไม่มีใครเข้ามาใกล้เนื่องจากกลัวลูกหลง
" พี่สาวช่วยโทรหน่อย "ชายหนุ่มตะโกนบอก ผู้หญิงที่ไกลออกไป พลางมองหาผู้เป็นพี่ชาย
ปังง….!!ชายหนุ่มนามว่าอิยะรู้สึกชาที่หลัง
" โอ้วะ…!!"
และไม่กี่นาทีนั้นเองเสียงปืนดังอีกเป็นครั้งที่สอง
ปัง..!!
.
.
.
.
.
"ลูกจ๋า...
หนูเป็นไงบ้างลูก "ผู้เป็นมารดาเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
สองมือแม่กุมมือลูกทั้งสอง
คราบเลือดไหลเจิ่งนอง
อกของแม่ปริ่มใจจะขาด...
"ญาติรอข้างนอกก่อนนะคะ" พยาบาลห้ามผู้เป็นมาดาก่อนนำรถเข็นเข้าห้องไอซียู
เรี่ยวแรงของผู้เป็นแม่ แทบไม่เหลือ
ทรุดนั่งก้มหน้า น้ำตาไหลเป็นทาง
ทุบอกตัวเองปานหัวใจจะแตกออกเป็นเสี่ยง
 
************
ก่อนหน้านั้น
.
.
.
"คุณหมอ…ลูกคุณหมอโดนยิง"
ลุงขายไข่รีบมาส่งข่าว
ทันทีที่เห็น กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาล
ไม่ใช่สองแต่เป็นสาม เขื่อน อิยะ และจิ
พี่ชายหลังจากเห็นน้องถูกยิง
จิซึ่งหลบข้างถังขยะ วิ่งออกไปโอบกอดหมายจะช่วยน้องชาย
…ปัง…!!เสียงปืนดังขึ้นมาอีกครั้ง
.
.
.
เขื่อนพ้นขีดอันตรายแล้ว
เหลือเพียงลูกชายสองหนุ่ม ที่ยังแน่นิ่งอยู่กับเครื่องหายใจ
หากใครมีทิพยญาณ จะเห็นฮอบบิทตัวน้อยทั้งสองจับมือลอยออกจากร่างที่นอนสงบอยู่บนเตียง
.
.
.
สองพี่น้องฮอบบิทล่องลอยขึ้นไปในอากาศ เหล่าหิ้งห้อยมากมายเข้ามารายล้อมรายล้อมเกิดเป็นแสงเรืองรองรอบฮอบบิทน้อยทั้งสอง ซึ่งหันมายิ้มให้กัน ปีกน้อยๆโบยบินไปอย่างอิสระ…
.
.
.
🎶...เด็ก น้อยได้ยินเรื่องราว กล่าวขานมานาน
หากใครได้จับหิ่งห้อย มาเก็บเอาไว้ใต้หมอน🎶
นอนคืนนั้นจะฝันดี จะฝันเห็นดวงดาวมากมาย
🎵
ฝันเห็นเจ้าชายเจ้าหญิง ฝันแสนสวยงาม...
ยินดีต้อนรับกลับบ้านเรา เหล่าหิ่งห้อยขับขาน เชื้อเชิญฮอบบิทตัวน้อยคืนรัง
ผู้พี่ยิ้มละไมพร้อมพยักหน้า ปล่อยมือน้องชายก่อนเข้าประตูกระท่อมหลังเล็ก ผู้เป็นน้องพยายามคว้ามือพี่ชายไว้ไว้ แต่เหมือนไกลออกไปทุกที ผู้เป็นพี่ชายยิ้มโบกมือลาน้องชายครั้งสุดท้าย ...
ร่างฮอบบิทผู้น้องปลิดปลิว ห่างไกลจากผู้พี่ ไกลออกไป ..
ไกลออกไป ..
ผู้น้องสุดจะทัดทานแรงดึงดูดอันหาที่มาไม่ได้
**********
ตี้ด..ตี้ด..ตี้ด..
…คุณหมอค่ะสัญญาณชีพ คนไข้มาแล้วค่ะ พยาบาลรายงานหลังจากดูจอมอนิเตอร์ ความพยายามปั้มหัวใจ…สำเร็จมาหนึ่ง…อีกหนึ่งกลับเกร็งกระตุก และค่อยๆอ่อนกำลัง หากใครสังเกตจะเห็นหยาดน้ำตาค่อยๆไหลจากหางตา....ของ..คนผู้เป็นพี่ชาย......
ท้ายบท
ภัยใกล้ตัว โรคซึมเศร้า
สาเหตุ
ปัจจุบันแนวคิดเกี่ยวกับสาเหตุของโรคซึมเศร้านั้น เชื่อกันว่าสัมพันธ์กับหลายๆ ปัจจัย ทั้งจากด้านกรรมพันธุ์ การพลัดพรากจากพ่อแม่ในวัยเด็ก พัฒนาการของจิตใจ รวมถึงปัจจัยทางชีวภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองบางตัวเป็นต้น
 
ปัจจัยสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคซึมเศร้าได้แก่
1.กรรมพันธุ์ พบว่ากรรมพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องสูงในโรคซึมเศร้าโดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีอาการเป็นซ้ำหลายๆ ครั้ง
2.สารเคมีในสมอง พบว่าระบบสารเคมีในสมองของผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติอย่างชัดเจน โดยมีสารที่สำคัญได้แก่ ซีโรโทนิน (serotonin) และนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ลดต่ำลง รวมทั้งอาจมีความผิดปกติของเซลล์รับสื่อเคมีเหล่านี้ ปัจจุบันเชื่อว่าเป็นความบกพร่องในการควบคุมประสานงานร่วมกัน มากกว่าเป็นความผิดปกติที่ระบบใดระบบหนึ่ง ยาแก้ซึมเศร้าที่ใช้กันนั้นก็ออกฤทธิ์โดยการไปปรับสมดุลย์ของระบบสารเคมีเหล่านี้
3.ลักษณะนิสัย บางคนมีแนวคิดที่ทำให้ตนเองซึมเศร้า เช่น มองตนเองในแง่ลบ มองอดีตเห็นแต่ความบกพร่องของตนเอง หรือ มองโลกในแง่ร้าย เป็นต้น บุคคลเหล่านี้เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน เช่น ตกงาน หย่าร้าง ถูกทอดทิ้งก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการซึมเศร้าได้ง่าย ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมอาการอาจมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้
โรคซึมเศร้านั้นไม่ได้มีสาเหตุจากแต่เพียงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น เหมือนกับการป่วยเป็นไข้หวัด ก็มักเป็นจากร่างกายอ่อนแอ จากพักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกาย ขาดสารอาหาร ถูกฝน อากาศเย็น ร่วมกับการได้รับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัด ถ้าเราแข็งแรงดี แม้จะได้รับเชื้อหวัดก็ไม่เป็นอะไร ในทำนองเดียวกัน ถ้าร่างกายเราอ่อนแอ แต่ไม่ได้รับเชื้อหวัดก็ไม่เกิดอาการ การเริ่มเกิดอาการของโรคซึมเศร้านั้นมักมีปัจจัยกระตุ้น มากบ้างน้อยบ้าง บางครั้งอาจไม่มีก็ได้ซึ่งพบได้น้อย
อย่างไรก็ตาม การมีสาเหตุที่เห็นชัดว่าเป็นมาจากความกดดันด้านจิตใจนี้ มิได้หมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนเราไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน การพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นผิดปกติหรือไม่ เราดูจากการมีอาการต่าง ๆ และความรุนแรงของอาการเป็นหลัก ผู้ที่มีอาการเข้ากับเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้านั้น บ่งถึงภาวะของความผิดปกติที่จำต้องได้รับการช่วยเหลือ
ขอขอบพระคุณบทความศาสตราจารย์นายแพทย์มาโนช หล่อตระกูล คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล รพ.รามาธิบดี🙏
โฆษณา