1 ก.พ. 2020 เวลา 09:45 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
คืนชีพเชื้อปริศนาฆ่าล้างโลก
ตอนที่ 2: ตำนานแซนด์วิชปลิดวิญญาณ
จุดเริ่มต้นของมหันตภัยเขย่าโลก มาจากแซนด์วิชชิ้นเดียว?
28 มิถุนายน 1914
ณ เมือง ซาราเยโว (Sarajevo) แห่ง บอสเนีย (Bosnia)
เกวริโล ปรินซิพ (Gavrilo Princip) ชาวเซิร์บ-บอสเนีย อยู่ที่ร้าน ชิลเลอร์ เดลี่ (Schiller's Deli) เพื่อต่อแถวซื้อแซนด์วิช ด้วยความผิดหวังจากการที่เพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขาผิดพลาดทำ "ไก่ตื่น"
ด้วยความตั้งใจที่จะปลดปล่อยบอสเนียจากจักรวรรดิ ออสโตร-ฮังกาเรียน (Austro-Hungarian Empire) ปรินซิพ เป็น 1 ใน 7 มือสังหาร และ ไก่ที่พวกเขาตามล่า คือ อาร์ชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Franz Ferdinand) รัชทายาทแห่งบัลลังก์ออสเตรียที่เสด็จมา ซาราเยโว
1
หนึ่งในทีมสังหาร ได้โยนระเบิดมือใส่รถพระที่นั่งขององค์รัชทายาทและพระชายา ซึ่งกระดอนตกลงบนถนน และระเบิดใส่รถที่ตามมาทีหลังในขบวนรถ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่องค์รัชทายาทปลอดภัยดีทุกประการ มือสังหารถูกจับกุม อีก 6 คนที่เหลือ รวมทั้ง ปรินซิพ หมดหวังในการปฏิบัติภารกิจ และแยกย้ายกันไป
แต่วงล้อแห่งชะตากรรม กำลังหมุนไปในทิศทางที่จะนำโลกไปสู่หายนะ
ด้วยความรักที่มีต่อพระชายาโซฟี (Sophie, Duchess of Hohenburg) องค์รัชทายาท เฟอร์ดินานด์ ได้ทรงพาพระชายามาซาราเยโวด้วย ซึ่งเป็นที่ที่พระองค์สามารถเชิดชูพระชายาออกงานเคียงคู่ให้สมเกียรติได้
การแต่งงานของทั้งสองพระองค์ เป็นการแต่งข้ามฐานันดร นั่นทำให้โอรส ธิดาที่ประสูติจากพระชายาโซฟี ไม่มีสิทธิในบัลลังก์ และ พระชายาไม่มีสิทธิอยู่เคียงคู่กับองค์รัชทายาทในพระราชพิธีต่าง ๆ ในออสเตรีย
ด้วยความรักที่มีต่อองค์รัชทายาทเฟอร์ดินานด์เช่นกัน พระชายาโซฟีจึงทรงติดตามมาด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัย เพราะทรงทราบว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีในซาราเยโว
หลังเหตุวุ่นวาย องค์รัชทายาทและพระชายาเสด็จไปทาวน์ฮอลล์ (Town Hall) ต่อ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ องค์รัชทายาททรงมีดำริที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดข้างต้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินขบวนรถ เลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการไปโรงพยาบาล
1
แต่ด้วยความผิดพลาดในการสื่อสารและการละเลย ข้อมูลเส้นทางนี้ไปไม่ถึงโชเฟอร์ของพระองค์ รถประจำพระองค์จึงเลี้ยวไปผิดเส้นทาง เข้าสู่ถนนสายที่จะพาพระองค์และอนาคตของมนุษยชาติไปเสิร์ฟให้มือสังหาร
1
ความรัก ความห่วง ความผิดพลาด ความรักชาติ ความละเลย ความบังเอิญ อุบัติเหตุ ได้กลายเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารจานเด็ดที่เรียกว่า "โศกนาฏกรรมของมวลมนุษย์"
1
แต่ยังก่อน รถพระที่นั่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ย่อมเป็นการยากที่มือสังหารจะยิงใส่เป้าหมาย
ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องปรุงสุดท้ายที่โรยความพินาศมาสู่องค์รัชทายาทและมนุษยชาติ กลับกลายเป็น ความพยายามในการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้อง
1
นั่นคือคนที่นั่งอยู่ด้วยสังเกตเห็นว่ารถพระที่นั่งออกนอกเส้นทางที่ตกลงไว้ จึงบอกให้โชเฟอร์หยุดรถเพื่อเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้รถพระที่นั่งจอดนิ่งอยู่หน้าร้านชิลเลอร์เดลี่พอดี
"ปัง! ปัง!"
ปรินซิพ มือสังหารที่กำลังทานแซนด์วิชอยู่ตรงจุดนั้น ก้าวเข้าไปจ่อยิงพระชายาและองค์รัชทายาทในระยะประชิด
"โซฟี! โซฟี! อย่าตายนะ! อยู่เพื่อลูก ๆ ของเรา!" นี่คือคำพูดสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาทที่กล่าวแก่พระชายาที่นอนฟุบอยู่บนตักของพระองค์
ในอีกไม่กี่ปีถัดมา เราจะได้ยินคำสั่งเสียเช่นนี้จากกว่าล้านครอบครัวทั่วโลก ที่เด็ก ๆ จะต้องกำพร้าพ่อแม่ไปก่อนเวลาอันควรจากมหันภัยที่กำลังจะตามมา
กระสุนได้เจาะหลอดเลือดดำใหญ่ที่คอ (jugular vein) ทำให้องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ในเวลาไม่นานหลังจากถึงโรงพยาบาล
1
การสูญเสียองค์รัชทายาทจากมือสังหารชาวเซิร์บทำให้ออสเตรียกล่าวหาว่า เซอร์เบีย อยู่เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์ ชนวนความขัดแย้งนี้จะขยายวงกว้างจนดึงเอาประเทศต่าง ๆ มาเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งระหว่าง ฝ่ายมหาอำนาจกลาง กับฝ่ายสัมพันธมิตร เข้าห้ำหั่นกันเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
แม้หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง แต่ปมความขัดแย้งและความโกรธแค้นยังคงอยู่ ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้นในไม่กี่ทศวรรษถัดมา
อาจกล่าวได้ว่ากระสุนนัดนี้ของมือสังหารปรินซิพ ไม่เพียงแต่ปลิดชีพขององค์รัชทายาท แต่ยังรวมไปถึงชีวิตของทหารหาญและผู้บริสุทธิ์นับล้านในสงครามโลกทั้งสองครั้ง
ยังมีกระสุนอีกนัดที่ปรินซิพลั่นออกไป ตอนแรกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ คิดว่ากระสุนนัดนั้นพลาดเป้า และที่พระชายาโซฟีฟุบลงกับตักองค์รัชทายาทเป็นเพราะทรงตกพระทัยจนหมดสติ
แต่เมื่อถึงโรงพยาบาล และถอดเครื่องทรงออกจึงเห็นแผลกระสุนที่ท้อง ซึ่งได้ตัดหลอดแดงใหญ่ ทำให้พระชายาโซฟีสิ้นพระชนม์ล่วงหน้าพระสวามีตั้งแต่ยังมาไม่ถึงโรงพยาบาล
จัดได้ว่าเป็นกระสุน "ลูกหลง" เพราะปรินซิพไม่ได้ตั้งใจจะสังหารพระชายา แต่ผลของมันกลับร้ายแรงยิ่งกว่า
1
เช่นเดียวกัน ลูกหลงจากการลอบสังหารและสงครามโลก จะก่อให้เกิดหายนะที่เลวร้ายยิ่งกว่าตัวสงครามโลกเสียอีก และยังส่งผลกระทบมาถึงพวกเราในยุคปัจจุบันทุก ๆ คนอีกด้วย
มันคือ "การระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic)" ที่คร่าชีวิตไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของมนุษย์ มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกเสียอีก
มีคนกล่าวว่าสาเหตุที่แท้จริงของสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง รวมไปถึงการระบาดใหญ่ มาจากแซนด์วิชเพียงชิ้นเดียว เพราะปรินซิพจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะหากเขาไม่ได้ไปทานแซนด์วิชชิ้นนั้นที่ร้านชิลเลอร์เดลี่
อันที่จริงเรื่องแซนด์วิชมรณะที่มีคนพูดถึงในวงกว้าง อาจไม่มีอยู่จริง แต่อาจเป็นเพียงข้อผิดพลาดของรายการทีวีชื่อดัง
ข้อพิรุธมีหลายประการ
ทั้งเรื่องว่าอาหารประเภทแซนด์วิชยังไม่น่าจะมีขายที่ซาราเยโวในยุคนั้น หรือต่อให้มีก็ไม่น่าเป็นอาหารที่คนทั่วไปจะเลือกทาน
การลอบสังหารเกิดขึ้นที่เวลา 10.55น. ก็ค่อนข้างเร็วเกินจะทานมื้อเที่ยง
ที่สำคัญในคำให้การของปรินซิพเอง รวมถึงผู้อยู่ในเหตุการณ์์ก็ไม่มีการกล่าวถึงแซนด์วิชแต่อย่างใด เขาไปรออยู่หน้าร้านชิลเลอร์เดลี่ก็สมเหตุสมผลดีเพราะเป็นทางผ่านขบวนรถก่อนเปลี่ยนแผนอยู่แล้ว
เรื่องแซนด์วิชของปรินซิพพึ่งเป็นที่กล่าวขวัญถึงในช่วงหลัง แต่ไม่เคยมีในบันทึกเก่า ๆ เลย สาเหตุน่าจะมาจาก สารคดีทางทีวีเรื่อง "วันเขย่าโลก" (Days that Shook the World) ออกอากาศครั้งแรกทางบีบีซีในปี 2003 และฉายซ้ำอีกหลายครั้ง ซึ่งในบทได้กล่าวว่าปรินซิพกำลังทานแซนด์วิชอยู่ก่อนเขาจะลงมือสังหาร ทำให้ไอเดียเรื่องแซนด์วิชเป็นสาเหตุของสงครามโลกเป็นที่นิยม
เมื่อมีการสอบถาม ทางผู้จัดทำสารคดีทำก็ไม่สามารถระบุได้ว่าข้อมูลเรื่องแซนด์วิชมาจากแหล่งใด
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ปรินซิพทานแซนด์วิชถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี 2001 แต่ไม่ใช่ในเอกสารของทางราชการหรือแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ มันถูกพูดถึงนวนิยาย เรื่อง "Twelve Fingers" ซึ่งตัวเอกจะเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของโลก และมีตอนที่ตัวเอกได้คุยกับปรินซิพซึ่งกำลังทานแซนด์วิชอยู่ และนั่นอาจจะถูกผสมปนเปลงไปในสารคดีปี 2003
จะเห็นได้ว่าเฟคนิวส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีมาทุกยุคทุกสมัย ตราบใดที่เรายังชอบและเลือกที่จะเชื่อเรื่องที่ฟังดูชวนตะลึงตื่นเต้นระทึกขวัญสะเทือนใจ แม้จะแทบเป็นไปไม่ได้ มากกว่าเรื่องราวที่สมเหตุสมผลแต่จืดชืด
1
แซนด์วิชของปรินซิพ จะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม แต่คอนเซ็บของแซนด์วิชสามารถใช้อธิบายเชื้อมรณะที่กำลังจะก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เป็นอย่างดี
เมื่อพูดถึงโครงสร้างของแซนด์วิช มันประกอบด้วยชั้นต่าง ๆ แต่ละชั้นมาจากคนละแหล่ง เนื้อสัตว์-หมู ไก่ วัว ปลา, ผัก-มะเขือเทศ หัวหอม มะนาวดอง ผักกาด, ซอสสารพัด, ชีส, ฯลฯ ประกบอยู่ภายใต้ขนมปังแบบต่าง ๆ
1
คุณสามารถสลับสับเปลี่ยนองค์ประกอบในแต่ละชั้น เกิดเป็นแซนด์วิชรสชาติใหม่ ๆ หากโชคดีมันอาจติดตลาดขายได้ทั่วโลก
CLUB Sandwich บางคนว่าย่อมากจาก Chicken and Lettuce Under Bacon (เครดิตภาพ: Erik Forsberg ที่มา: https://www.flickr.com/photos/hepp/16600641702/sizes/s/
เชื้อที่ว่านี้ก็เช่นกัน มันกำลังสลับสับเปลี่ยนไส้ในอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อใดที่ได้ส่วนผสมที่ลงตัว ถูกปากมนุษยชาติ มันจะออกอาละวาดล่าสังหารไปทั่วโลก
สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้เองที่จะทำหน้าที่เป็นธานอสแห่งอินฟินิตี้วอร์ระหว่างมวลมนุษย์กับโรคร้าย ช่วยรวบรวมส่วนผสมที่จำเป็นมาจัดเรียงกัน กำเนิดเป็นเชื้อมฤตยู ที่รอดีดนิ้วเพื่อล้างบางมนุษยชาติ
ปรินซิพอายุเพียง 19 ปีขณะทำการปลงพระชนม์ จึงรอดจากโทษประหาร แต่ยังต้องโทษจำคุก 20 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดสำหรับผู้เยาว์ และเสียชีวิตในไม่กี่ปีต่อมาจากวัณโรค โรคที่ยังไม่มีวิธีรักษาในเวลานั้น
ตัวปรินซิพเองก็คงไม่ได้ตระหนักว่ากระสุนที่เขาลั่นไกออกไปนั้น จะส่งผลต่อมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
1
บางคนมองเขาเป็นอาชญากรผู้เป็นชนวนของสงครามโลก ในขณะที่ชาวเซิร์บบางคนมองเขาเป็นวีรบุรุษผู้เปิดประตูสู่อิสรภาพ
แต่ในสายตาของธรรมชาติและเหล่าเชื้อโรคที่ไร้อัตตาไม่มีสมองที่จะปรุงแต่งเหตุผลเข้าข้างตัวเอง คงมองว่านี่มันเรื่องไร้สาระที่มนุษย์อย่างเราเอาความยึดมั่นถือมั่นมาฆ่ากันไม่รู้จบ
มันจึงต้องแสดงแสนยานุภาพของกองทัพมัจจุราชที่ไม่มีกองกำลังใดจะเทียบเคียง ก่อความเสียหายที่ไม่มีสงครามใดจะเทียบเท่า
เวลาใกล้สุกงอมแล้ว และมันกำลังจะมา!
โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนที่ 3: กำเนิดปราณรัศมีม่วง
References

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา