15 ธ.ค. 2019 เวลา 02:20 • บันเทิง
MovieTalk Special Series:
STAR WARS SAGA
Star Wars มหากาพย์แห่งกาแลกซี่ Part III (Episode IV-VI)
A long time ago in a galaxy far, far away…
ในบทความนี้จะเล่าเรื่องราวของ Star Wars ต่อจาก Part II โดยจะเริ่มต้นที่ภาคส่วนขยาย Rogue One และต่อด้วย Episode IV, V, VI ซึ่งจะจบเรื่องราวที่มาจากไอเดียของ จอร์จ ลูคัส เพราะหลังจากนั้นตั้งแต่ Episode VII – IX ได้มีการปรับเปลี่ยนไอเดียของลูคัสออกไป และเป็นไอเดียจาก เจ.เจ.เอบรัมส์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโดยส่วนตัวแม้จะมีการหยิบยืมตัวละครเดิมมาใช้ และสร้างงานแบบบูชาครู แต่มันก็ยังคงมีความรู้สึกว่า “ไม่ใช่งานสตาร์ วอร์ส ของ จอร์จ คูคัส” อยู่ดี
ทั้งนี้ผมจะเล่าเรื่องย่อให้พอเข้าใจเรื่องราว ซึ่งจะมีการสปอยล์เนื้อหาของหนัง ทั้งนี้ผมเชื่อว่าหลายท่านได้เคยดูผ่านตาไปแล้ว และก็ทราบเรื่องคร่าว ๆ ของแต่ละภาคอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการรีวิวเพื่อเก็บรายละเอียด พร้อมกันแนะนำฉากไฮไลท์ที่ต้องตั้งตาดู ส่วนท่านที่สนใจแนะนำให้ลองหาชมกันเองตามช่องทางต่าง ๆ ครับ
เช่นเคย เรามาทวนลำดับเรื่องราวกันก่อน เส้นเรื่องที่เกิดขึ้นตาม Timeline ไม่ใช่ตามปีที่มีการสร้างออกฉาย ดังนั้น สรุปว่าเราจะเล่าเรื่องราว Star Wars ตาม Timline ดังต่อไปนี้
ไตรภาคที่ 1 ยุคแห่ง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์
Episode I: The Phantom Mence ภัยซ่อนเร้น
Episode II: Attack of the Clones กองทัพโคลนโจมตี
Episode III: Revenge of the Sith ซิธ ชำระแค้น
เชื่อมต่อด้วย Rogue One: A Star Wars Story โร้ค วัน: ตำนาน สตาร์ วอร์ส
จากนั้นเข้าสู่ไตรภาคที่ 2 ยุคแห่ง ลุค สกายวอล์คเกอร์
Episode IV: A New Hope ความหวังใหม่
Episode V: The Empire Strikes Back จักรวรรดิเอ็มไพร์โต้กลับ
Episode VI: Return of the Jedi การกลับมาของเจได
และปิดท้ายเข้าสู่ไตรภาคที่ 3 ยุคแห่งเรย์ อุบัติการ์ณแห่งพลัง
Episode VII: The Force Awakens อุบัติการณ์แห่งพลัง
Episode VIII: The Last Jedi ปัจฉิมบทแห่งเจได
Episode IX: The Rise of Skywalker กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์
ถ้าพร้อมแล้วเราจะทะยานเข้าสู่ไฮเปอร์สเปซกันได้เลยครับ
3...2...1...GO!
STAR WARS SAGA
คำเตือน!!! บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังในแต่ละ Episode
Rogue One: A Star Wars Story โร้ควัน: ตำนาน สตาร์ วอร์ส
Directed: Gareth Edwards/Starring: Felicity Jones, Diego Luna, Ben Mendelsohn, Donnie Yen, Jiang Wen, Riz Ahmed, Mads Mikkelsen, Forest Whitaker/Running Time: 133 Mins
จิน ลูกสาวของเกเลน เออร์โซ นักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างเดธสตาร์ ยอมรับข้อเสนอของกลุ่มฝ่ายกบฎต่อต้านเพื่อที่จะพากัปตันแคสเซียน แอนดอร์ไปพบกับ ซอว์ เกอร์เรรา ผู้ก่อการร้ายแห่งอวกาศเพื่อจะนำทางไปสู่การพบตัวเกเลน เออร์โซ ขณะเดียวกับที่เดธสตาร์ แต่จริง ๆ แล้ว แคสเซียนได้รับภารกิจให้สังหารเกเลนก่อนที่จะสร้างดาวมรณะสำเร็จ
แต่สุดท้ายแคสเซียนก็ไม่สามารถลั่นไกสังหารเกเลนได้ แต่แล้วก็เกิดการโจมตีทางอากาศจากฝ่ายต่อต้าน ก่อนตายเกเลนได้บอกความลับของผังดาวมรณะก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์พร้อมจะทำลายล้างฝ่ายกบฏ ทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือการลอบเข้าไปขโมยแผนผังเดธสตาร์ที่เก็บรักษาไว้บนดาวสการิฟ ซึ่งไม่ต่างจากภารกิจเอาชีวิตไปทิ้ง
แม้เหล่าฝ่ายต่อต้านที่เข้าร่วมประชุมจะไม่เห็นด้วยกับการเสี่ยงครั้งนี้ แต่ในที่สุด จิน-แคสเซียน ได้รวบรวมกลุ่มเดนตายลอบเข้าไปเพื่อหาทางชิงเอาแผนผังดาวมรณะที่ซ่อนอยู่ในคลังข้อมูลของฐานทัพจักรวรรดิเอ็มไพร์ แม้จะสามารถส่งข้อมูลไปให้ยานรบของฝ่ายต่อต้านได้ แต่ข้าหลวงทาร์กินก็นำดาวมรณะออกจากไฮเปอร์สเปซ และสั่งทำลายล้างดาวทั้งดวงจนหายไปพร้อม ๆ กับชีวิตของจินและแคสเซียน ส่วนข้อมูลลับผังดาวมรณะตกไปอยู่ในมือของเจ้าหญิงเลอาที่อยู่บนยานลำนั้น
ยัอนกลับไปเมื่อครั้งที่มหากาพย์แห่งดวงดาว Star Wars ออกฉายเมื่อปี 1977 หลังจากที่ตัวอักษร Star Wars สีเหลืองปรากฏบนจอพร้อมกับธีมดนตรีประกอบอลังการของจอห์น วิลเลียมส์ ก็นำเข้าสู่ตัวอักษรที่ระบุเรื่องย่อ Episode 4: A New Hope ซึ่งได้ย่อความถึงหน่วยกองโจรฝ่ายกบฏที่เสี่ยงชีวิตลอบเข้าไปขโมยแผนผังดาวมรณะออกมา จนกระทั่งภายหลังตกอยู่ในมือของเจ้าหญิงไลอา (จำได้ไหมเอ่ย?) ที่เกริ่นมาทั้งหมดก็เพราะนี่ล่ะคือพล็อตหลักของ Rogue One ที่ถูกนำมาขยายเป็นเรื่องราว จึงอาจกล่าวได้ว่านี่คือสตาร์ วอร์สอยู่ตรงกลางระหว่าง E.P.3: Revenge of the Sith กับ E.P.4: A New Hope ผู้หรือจะบอกว่านี่คือ Star Wars Episode 3.5
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากการต่อสู้ของชีรุตนักบวชตาบอดที่มีพลังคล้ายกับเจได วาดลวดลายเอาชนะหน่วยสตอร์มทรูปเปอร์
ต้อง ‘เฮ’ ดังลั่นเพราะในที่สุดจักรวาลสตาร์ วอร์ส ก็มีพื้นที่ให้คนเอเชียได้ปรากฏตัวกับเขาเสียทีและน่าจะเป็นครั้งแรกเลยด้วย แม้จะมาจากภายใต้เงื่อนไขการตลาดในประเทศจีนก็ตาม Rouge One จึงนำตัวละครที่คล้าย ๆ เจไดมาปรากฏตัว นั่นคือ ชีรุต รับบทโดย ปรมาจารย์ยิปมัน ดอนนี่ เยน นักบวชตาบอดที่เก่งโคตร และ บาซ นับรบผู้พิทักษ์ข้างกายชิรุตต์ รับบทโดย เจียงเหวิน รายนี้ถนัดใช้ปืนกลหนักมากกว่า
การปรากฏตัวของดาร์ธ เวเดอร์ ฉากที่ดาร์ธ เวเดอร์ปรากฎตัว ซึ่งตามไทม์ไลน์ในหนัง คือการปรากฏตัวหลังจากแอนนาคินกลายเป็นดาร์ธเวเดอร์ที่รักษาตัวหายขาด และเข้าสู่ด้านมืดอย่างแท้จริงแล้ว และอีกครั้งกับการปรากฏตัวช่วงท้ายพร้อมกับไลท์เซเบอร์สีแดง และเสียงลมหายใจสุดคลาสิก
การกลับมาของ ‘ตัวพ่อ’ ดาร์ธ เวเดอร์ ซึ่งยังคงให้เสียงพากย์โดย คุณปู่เจมส์ เอิร์ล โจนส์ เหมือนเดิม แต่คนที่สวมชุดเวเดอร์ไม่ใช่คุณปู่เดวิด พราวส์ ที่อายุ 80 ปีเข้าไปแล้ว ต้องยอมรับว่านี่คือตัวละครที่อมตะนิรันดร์กาล และทรงอำนาจมากที่สุด อยู่ในใจคนดูมากที่สุดด้วยเช่นกัน
Star Wars Episode IV: A New Hope (1977) ความหวังใหม่
Directed: George Lucas/Starring: Mark Hamill, Harrison Ford, Carrie Fisher, Alec Guinness, Peter Cushing/Running Time: 121 Mins.
เจ้าหญิงเลอาได้รับผังดาวมรณะเดธสตาร์ออกมา แต่ก่อนจะถูกดาร์ธเวเดอร์จับ เธอได้ซ่อนไว้ในหุ่น R2D2 และ C3PO หุ่นทั้งสองหลบหนีด้วยยานช่วยชีวิตตกลงมายังดาวทาทูอีน แต่ก็ถูกพวกจาวาจับตัวไป ลุค สกายวอล์คเกอร์หนุ่มชาวไร่ได้ซื้อหุ่นทั้งสองมาจากพวกจาวาเพื่อใช้งาน เขาพบข้อความที่เลอาฝากไว้ และเธอขอให้เขาไปขอความช่วยเหลือจากโอบีวัน เคโนบี
หลังจากนั้นทั้งลุคและโอบีวันเดินทางเข้าเมืองเพื่อว่าจ้างยานเดินทางไปยังดาวอัลเดอรานที่เลอาบอกไว้ ฮาน โซโล และ ชิวแบคก้า ได้ตกลงที่จะพาทั้งสองไป เมื่อไปถึงพิกัดที่ว่า ดาวอัลเดอรานได้ถูกเดธสตาร์ทำลายไปแล้ว ยานมิเลนเนียมฟอลคอนถูกดูดเข้าไปในเดธสตาร์ ทั้งหมดหลบหนีการจับกุม ลุคหาทางช่วยเลอาออกมาเป็นผลสำเร็จ ส่วนโอบีวันต้องดวลดาบเลเซอร์กับดาร์ธเวเดอร์อีกครั้ง ก่อนจะถูกฟันตาย โอบีวันได้สูญหายไป ส่วนพวกของลุคได้หลบหนีออกมาได้และตามไปรวมตัวกับกลุ่มกบฏเพื่อวางแผนทำลายเด็ธสตาร์ ลุคขอทำหน้าที่ขับเครื่องบินเข้าร่วมศึกครั้งนี้ เสียงของโอบีวันชี้แนะให้ลุคใช้พลังที่นำไปสู่สมาธิเพื่อทำลายเดธสตาร์เป็นผลสำเร็จ ชัยชนะเป็นของฝ่ายกบฏ
อันที่จริงนี่คือการปรากฏตัวครั้งแรกของหนัง Star Wars ที่กลายเป็นตำนาน หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น มันจึงเป็นการเกิดขึ้น ‘ครั้งแรก’ ในโลกภาพยนตร์ จนกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มี New Hope ก็จะไม่มี Star Wars เรื่องที่เหลือทั้งหมด
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากดวลไลท์เซเบอร์ระหว่าง โอบีวันเคนโนบี กับ ดาร์ธเวเดอร์ ทั้งตื่นตาและตื่นใจกับจินตนาการ แม้ว่าทุกวันนี้กับเด็กรุ่นใหม่อาจจะมองเป็นเรื่องเฉย ๆ ก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่า นี่คือการปรากฏบนจอหนังเป็นครั้งแรกของโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ และเมื่อดูเรียงตามลำดับ เราจะพบว่ามันเป็นการต่อสู้อีกครั้งของอาจารย์และศิษย์
ส่วนฉากที่เหลือ เมื่อดูจากสเปเชียลเอฟเฟ็คในปัจจุบัน แม้ว่าจอร์จ ลูคัส จะใช้ซีจีเพิ่มเติมแก้ไขให้ทันสมัยขึ้น แต่มันก็ยังคงมีความเชย และล้าสมัยกว่าเมื่อเทียบกับภาคปัจจุบันที่ซีจีถูกพัฒนาไปไกลอย่างมาก
แต่ความเชยเหล่านั้นก็ถูกทดแทนด้วยความคลาสิกของการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น ยานเอ็กซ์วิงที่ล้ำมาจนทุกวันนี้, ดาวมรณะเดธสตาร์ ที่ติดตากับอำนาจทำลายล้าง หรือกระทั่งการปรากฏตัวของบรรดาตัวละครในตำนาน ลุค สกายวอล์คเกอร์, ฮาน โซโล เจ้าหญิงเลอากับทรงผมซาลาเปาสองลูกที่ศรีษะทั้งสองข้าง (ฮา) ตลอดจน ซีทรีพีโอและอาร์ทูดีทู ที่มีบทบาทตลอดทุกภาค
Star Wars Episode V: The Empire Strikes Back (1980) จักรวรรดิเอ็มไพร์โต้กลับ
Directed: Irvin Kershner/Starring: Mark Hamill, Harrison Ford, Carrie Fisher, Bill Dee Williams /Running Time: 124 Mins.
ชัยชนะที่ได้มาไม่ได้ทำให้จักรวรรดิพัลพาทีนสั่นคลอน กองทัพของจักรวรรดิถูกส่งไปทำลายฝ่ายกบฏไม่ให้เหลือซาก ลุคกับเลอาต้องหลบหนีออกมาจากดาวโฮธ ทั้งสองได้แยกกันเดินทาง ลุคไปตามเสียงของโอบีวันให้ไปยังดาวเดโกบาห์เพื่อตามหาปรมาจารย์โยดา ส่วนเลอา, ฮาน โซโล และชิวแบคก้า หลบหนีการตามล่า ในขณะที่ความรักแบบพ่อแง่แม่งอนของฮานกับเลอาเริ่มก่อตัวขึ้น ทั้งหมดหลบไปพักพิงที่ดาวคลาวด์ซิตี้ของแลนโด้ เพื่อนเก่าฮาน อดีตเจ้าของยานมิเลนเนียมฯ แต่แลนโด้หักหลังส่งตัวฮานให้แก่ดาร์ธเวเดอร์ ฮานถูกแช่แข็งและส่งต่อให้โบบ้า เฟ็ทท์ (ลูกชายของจังโก้เฟ็ทท์) เพื่อนำไปส่งมอบต่อ แจ็บบ้าเดอะฮัท ส่วนเลอาถูกใช้เป็นเหยื่อล่อให้ลุคมาติดกับ
ลุคสัมผัสได้ถึงอันตรายของเพื่อน เขาจึงทิ้งการฝึกฝนเจไดกลายคัน และเดินทางไปช่วยเลอา ที่นั่น ลุคต้องเผชิญหน้ากับดาร์ธเวดอร์ ทั้งสองดวลดาบเลเซอร์กัน ก่อนที่ลุคจะพ่ายแพ้โดยตัดมือขวาขาด แต่ที่ช็อคยิ่งกว่าคือ ดาร์ธเวเดอร์บอกว่า ตนคือพ่อของลุค ซึ่งเขารับไม่ได้และไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ขณะเดียวกับที่แลนโด้กลับใจช่วยเลอาและชิวแบคก้าออกมาได้ ขณะจะหนีเลอาสัมผัสได้ถึงลุค เธอย้อนกลับมาช่วยเขาไว้ทันก่อนจะหลบหนีไป แลนโด้และชิวแบคก้าร่วมกันวางแผนไปชิงตัวฮานจากแจ็บบ้าเดอะฮัทที่ดาวทาทูอีน
หนึ่งในหนังภาคต่อที่ทำได้ดีกว่าเดิม ลูคัสทำให้ The Empire Strikes Back ดาร์คขึ้นกว่า A New Hope หนังแยกเส้นเรื่องราวคู่ขนานที่เล่าไปพร้อม ๆ กัน เรื่องแรกคือ ฮานกับเลอา ที่หนีตายกองทัพจักรวรรดิจนไปจบลงที่นครเมฆา อีกส่วนหนึ่งคือการฝึกฝนเพื่อเป็นเจไดของลุคกับอาจารย์โยดา
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
หลังจากเปิดเรื่องผ่านไปแล้ว ก่อนจะแยกกันหนี ได้มีฉากสงครามในดาวน้ำแข็ง ที่ถือได้ว่าเป็นฉากที่น่าจดจำฉากหนึ่งของสตาร์ วอร์ส โดยเฉพาะงานออกแบบ อิมพีเรียล วอล์คเกอร์ AT-ATs แม้จะผ่านมาถึงเกือบสี่สิบปีก็ยังดูสมัยใหม่อยู่เลย
ฉากความลับช็อคโลก
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า The Empire Strikes Back ออกฉายเมื่อปี1980 ซึ่งในเวลานั้นไม่มีใครเคยรู้ว่า ดาร์ธเวเดอร์คือแอนาคินพ่อของลุค ดังนั้นพอถึงฉากที่ลุคดวลไลท์เซเบอร์แพ้แล้ว ดาร์ธเวเดอร์บอกกับลุคว่า “I am Your Father”
มันจึงกลายเป็นประโยคช็อคคนดูที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์ และฉากนี้คือภาพจำคนที่โตทันดูครั้งแรก
Star Wars Episode VI: Return of the Jedi (1983) การกลับมาของเจได
Directed: Richard Marquand/Starring: Mark Hamill, Harrison Ford, Carrie Fisher, Bill Dee Williams /Running Time: 131 Mins.
ลุค, เลอา, แลนโด้ และชิวแบคก้า วางแผนช่วยฮานจากแจ็บบ้าเดอะฮัท แต่ทั้งหมดถูกจับ ระหว่างจะถูกโยนลงไปในทะเลทรายให้สัตว์ยักษ์กิน ลุคได้ใช้ดาบเลเซอร์จัดการกับสมุนของแจ็บบ้า ส่วนตัวแจ็บบ้าถูกเลอาใช้โซ่รัดคอจนตาย ภายหลังจากช่วยเหลือฮานออกมาได้
ลุคขอแยกตัวกลับไปยังดาวเดโกบาห์อีกครั้งเพื่อฝึกฝนการเป็นเจไดให้สำเร็จ แต่โยดาได้บอกว่าลุคฝึกฝนสำเร็จแล้ว พร้อมทั้งเปิดเผยความจริงว่าเขามีน้องสาวฝาแฝดอีกคน ลุคใช้พลังจนสัมผัสได้ว่า เลอาคือน้องสาวของตน
ฝ่ายกบฏได้พบว่ามีการสร้างเดธสตาร์ดวงที่สอง จักรพรรดิพัลพาทีนจะเดินทางมาควบคุมด้วยตนเองพร้อมทั้งดาร์ธเวเดอร์ หนทางทำลายเดธสตาร์คือทำลายฐานบาเรียที่อยู่บนดวงจันทร์เอนดอร์ ฮานกับเลอาจึงได้ลอบไปที่ดวงจันทร์เอ็นดอ
ชนเผ่าอีว็อคได้เข้าร่วมกับเลอาเพื่อทำลายฐานบาเรีย ส่วนลุคเดินทางไปเผชิญหน้ากับดาร์ธเวเดอร์อีกครั้ง สองพ่อลูกประดาบเลเซอร์กัน ครั้งนี้ดาร์ธเวเดอร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และโดนตัดมือขวาขาด พัลพาทีนให้ลุคฆ่าดาร์ธเวเดอร์และเข้าสู่ด้านมืดเพื่อเพิ่มพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ลุคปฏิเสธ พัลพาทีนจึงใช้พลังทำร้ายลุคหมายจะให้ตาย แต่ดาร์ธเวเดอร์ได้ใช้ชีวิตตนเองป้องกันลุคก่อนจะจบชีวิตตนเองพร้อมกับพัลพาทีน
ก่อนตายดาร์ธเวเดอร์ได้กลับมาเป็นแอนาคิน สกายวอล์คเกอร์อีกครั้ง และมองดูลูกชายตนเองก่อนจากไปอย่างสงบ ฝ่ายกบฏสามารถทำลายเดธสตาร์ดวงที่สองได้สำเร็จ จักรวรรดิพัลพาทีนที่ 1 ก็ถึงการล่มสลาย พร้อมกับสันติสุขคืนสู่กาแล็กซี่อีกครั้ง ลุคมองเห็นภาพพลังของปรมาจารย์โยดา, โอบีวัน เคโนบี และ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ พ่อของเขา ที่ดูสงบ และหมดกังวล
มาถึงงานปิดไตรภาคที่สอง เดิมที ลูคัส จะใช้ชื่อ Revenge of the Jedi แต่ในเวลาต่อมาเปลี่ยนเป็น Return of the Jedi แทน เพราะเจไดเป็นนักรบแห่งแสงสว่างไม่ควรจะมีอารมณ์ล้างแค้น ซึ่งเมื่อดูจากทั้งเรื่อง เราจะเห็นความรักของดาร์ธเวเดอร์ซุกซ่อนอยู่ในนั้น และนั่นคือเหตุผลที่จอมวายร้ายแห่งจักรวาลได้กลับใจมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง เพราะความรัก สอดคล้องกับงานปิดไตรภาคแรก ที่แอนนาคินเข้าสู่ด้านมืดเพราะกลัวสูญเสียคนรัก แพดเม่ ส่วนงานปิดไตรภาคที่สอง ดาร์ธเวเดอร์คืนกลับสู่ด้านแสงสว่างเพราะกลัวสูญเสียคนรักเช่นกัน นั่นคือลุค
ถือเป็นงานปิดไตรภาคทั้งสองที่งดงามมาก จนทำให้งานไตรภาคที่สามดูเป็นส่วนเกินที่พยายามเล่าต่อมากกว่าจะเป็นงานที่มีอารมณ์เป็นเนื้อเดียวกัน
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากไล่ล่าของสปีดเดอร์ไบค์ในป่าใหญ่ ที่ทำได้ตื่นตาตื่นใจและมีลุ้นกับความเร็ว หากพิจารณาจากมุมมอง CG ยุคปัจจุบันก็ถือว่าล้าสมัย แต่ในเวลานั้นฉากไล่ล่าด้วยสปีดเดอร์ไบค์นี้ถือว่าเป็นแมทซ์ภาพที่สุดยอดแล้วในเวลานั้น
ฉากดาร์ธเวเดอร์กลับใจ ถือเป็นฉากที่ดาร์ธเวเดอร์ได้ใจคนดูไปเต็ม ๆ กับการทำหน้าที่พ่อที่ปกป้องลูก จนเมื่อถึงยามที่ลุคถอดหน้ากากดาร์ธเวเดอร์ออก เพื่อใช้สายตาตนเองมองดูลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย เป็นฉากหนึ่งที่จับใจมาก
ฉากปิดท้าย ร่างฟอร์ซของสามเจไดในตำนาน หลังจากได้รับชัยชนะแล้ว ลุคยืนมองดูที่มุมหนึ่ง และเขาพบร่างฟอร์ซของ อาจารย์โยดา, โอบีวันเคนโนบี และ แอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ทั้งหมดยืนมองดูและยิ้มให้กับลุค ฉากนี้ในฉบับฉายใหม่ ลูคัสใช้ซีจีลบภาพ เดวิด พราวส์ ที่แสดงเป็นดาร์ธเวเดอร์ แ ละแทนที่ด้วยภาพของ เฮย์เดน คริสเตนเซ่น แอนาคินในวัยหนุ่มแทน แต่ลูคัสก็ไม่ใช้ภาพ ยวน แม็คเกรเกอร์ ที่เป็นโอบีวันวัยหนุ่ม แต่ก็มีให้เหตุผล เพราะที่แอนาคินกลับมาเป็นหนุ่มเพราะนั่นคือช่วงเวลาก่อนเขาสู่ด้านมืด ส่วนอาจารย์โยดา กับ โอบีวันคือแก่จริงจนตายกลายเป็นพลังฟอร์ซ
ทั้งหมดคือเรื่องราวอันยาวนานของ Star Wars: Legends ส่วนในตอนต่อไป จะเป็นการวิเคราะห์ตัวละครสำคัญ และตีความเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่จะนำไปสู่ Episode VII และ VIII ขอได้โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอพลังจงอยู่คู่ท่าน
สำหรับท่านที่สนใจต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับจักรวาลสตาร์วอร์สทั้งหมด ผู้เขียนขอแนะนำเว็ปไซต์ จักรวาล สตาร์วอร์ส ซึ่งจะทำให้ทุกท่านเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของสตาร์วอร์ส ตาม Link นี้ครับ
และเว็ปไซต์ทางการ http://www.starwars.com ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสตาร์วอร์ส
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, starwars.com, Starwars.siligon.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา