15 ธ.ค. 2019 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของลี อายุ จือปา ที่ทำให้เกิดอุดมการณ์ที่อยากจะทำเพื่อชุมชนของตนเองและเพื่อคนอื่นๆ
รายการ Perspective
จากการที่คุณลีได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานในมูลนิธิเกื้อฝันเด็กในช่วง
ที่ฝึกงานตอนที่เป็นนักศึกษาและได้ร่วมงานหลังเรียนจบมาในช่วงแรกๆ มูลนิธินี้เป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะกลับไปดูแลบ้านเกิดและชุมชนของตัวเอง และยังทำให้คุณลีอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
ซึ่งมูลนิธินี้ถูกจัดตั้งมาด้วยวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้านการศึกษาโดยผ่านโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชนสำหรับเด็กด้อยโอกาส ลำดับต่อมาคือดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่อยู่ในแค้มป์ผู้ลี้ภัย ดูแลเรื่องสุขภาพ
ลี อายุ จือปา เกิดในครอบครัวอาข่าที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ซึ่งพ่อกับแม่หนีสงครามมาจากดินแดนจีนทางตอนใต้ จากสิบสองปันนาแล้วมาตั้งรกรากอาศัยอยู่ในเขตแม่สลอง
ตอนที่เกิดมาพ่อแม่ยังไม่มีสัญชาติเลย ได้รับบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะไม่หลักฐานอะไรเลย ไม่มีใบเกิด ปัจจุบันก็ไม่รู้วันเกิดที่แท้จริง
ตอนที่เกิดไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ปัจจุบันใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ คุณลี ประทับใจความเป็นธรรมชาติของตัวเองมาก และยังมีความโชคดีอีกอย่างคือที่หมู่บ้านมีรงเรียนเตรียมก่อนวัยเรียน ซึ่งน่าจะเป็นประมาณระดับอนุบาล โดยสมเด็จย่าทรงสร้างโรงเรียนนี้ขึ้นมา
กลุ่มชาติพันธ์ต่างๆในพื้นที่สูงรวมถึงชนเผ่าอาข่าต่างผูกพันกับสมเด็จย่ามาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพ การศึกษา และความเป็นอยู่ ล้วนแล้วได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จย่า ที่ท่านทรงลงมาช่วยพัฒนาชีวิตของกลุ่มชาติพันธ์ (ชาวเขา)
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
คนอาข่าไขว่คว้าโอกาสในการศึกษาเพื่อที่จะได้พัฒนาตนเองไปสู่ผู้มีความรู้ โดยพื้นฐานทางฐานะของคนอาข่าก็ไม่ได้มีศักยภาพที่จะมีโอกาสให้ลูกหลานได้รับโอกาสมากนัก อีกทั้งด้วยความเป็นพื้นที่สูงทำให้โรงเรียนอยู่ห่างไกลจากบ้านมาก คุณลีต้องเดินมาโรงเรียนไม่น้อยกว่า 3 กิโลเมตร
แม่ของคุณลีบอกว่า "ถ้าอยากสบายให้อยู่ที่บ้าน แต่ถ้าอยากเจอโลกกว้างให้ออกไปศึกษา"
จึงทำให้มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร เพราะเดิมภาษาที่ใช้เป็นภาษาอาข่าอย่างเดียว และเนื่องจากพ่อกับแม่ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนได้เพราะฐานะไม่ดี
ทำให้คุณลีต้องไปบวชเรียนที่วัดเป็นเณร เพื่อที่จะได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือในระดับมัธยมศึกษา 1-6 โดยเรียนที่ธรรมสาธิตศึกษา อยู่ที่จังหวัดลำพูน ทำให้มีโอกาสได้เรียนศาสตร์ที่หลากหลายทั้งวิทยาศาสตร์ การใช้ชีวิตศิลปะการใช้ธรรมะ
รายการ Perspective
ความไฝ่ฝันช่วงแรกก็อยากจะเป็นวิศวกร นายธนาคาร เหมือนๆกับเด็กคนอื่นๆที่ได้รับการปลูกฝังกันมารุ่นต่อรุ่น แต่พอเรียนไปเรื่อยๆก็พบว่าชีวิตเรามันมีอะไรมากกว่านี้อยากเป็นมาก มากกว่าที่จะเรียนจบมาทำงานแล้วก็จากโลกนี้ไป
ซึ่งคุณลีเห็นว่าชีวิตมันต้องมีความหมายมากกว่านี้ คือต้องทิ้งสิ่งที่ทำไว้ให้เกิดโยชน์ต่อโลกเมื่อตอนที่ได้จากโลกไป ซึ่งเราน่าจะเป็นหน่วยหนึ่งของสับคมที่เกิดมาเพื่อสร้างสิ่งที่สวยงาม ให้กับคนรุ่นต่อไปให้เขาเหล่านั้นได้ชื่นชมกัน
ในช่วงที่คุณลีศึกษาในระดับมัธยมปลายอยู่นั้น ก็เป็นช่วงที่มีองค์กรระหว่างประเทศหลายๆแห่งที่เข้ามาในประเทศไทย ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือต่อบุคคลยากไร้หรือบุคคลที่ขาดโอกาส ประจวบเหมาะกับที่คุณลีอยากจะเป็นตัวกลางในการประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์กรเหล่านี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในความฝันวัยเด็กของคุณลีด้วย
จึงทำให้คุณลีสนใจทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ เพื่อให้องค์กรเหล่านั้นได้รับรู้ว่าผู้ที่ต้องการรับความช่วยเหลือรู้สึกเช่นไรต้องการอะไรอยากทำอะไร
ในระหว่างนั้นคุณลีก็ได้สมัครเพื่อสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่เกรดไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้สอบเข้าไม่ได้ จึงต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน
ซึ่งเป็นความลำบากใจของคุณลีมากที่จะบอกพ่อแม่ว่าอย่างไร ช่วงนั้นก็ได้แต่บอกพ่อกับแม่ว่าโรงเรียนปิดภาคเรียน แต่อยู่ไปก็ไม่มีความสุขเพราะรู้สึกว่าหลอกตัวเองอยู่
โชคดีที่ระหว่างนั้นได้เห็นโฆษณาของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายเปิดหลักสูตรนานาชาติ ที่ทำการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษอยากไปเรียนมาก แต่สอบเทียบแล้วคะแนนก็ไม่ถึงเกณฑ์อีก
Facebook: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ในตอนนั้นคณะบดีคณะมนุษย์ศาสตร์ได้ให้คำแนะนำให้ไปเรียนอีกหลักสูตรหนึ่งที่เป็นการผสมผสานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ความตั้งใจคืออยากเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
คณะบดีฯจึงได้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และคุณลีก็มั่นใจและภูมิใจที่สามารถตอบได้ทุกคำถามที่ท่านถาม และท่านคณะบดีฯก็บอกกับคุณลีว่า “รู้ไหมว่าคุณลีตอบไม่ถูกสักข้อเลยนะ” เป็นคำตอบที่ไม่ตรงคำถาม และท่านก็ใจดีมากที่ไม่ดูถูกและหัวเราะใส่คุณลีเลย
ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของคุณลี จึงได้รับโอกาสได้เข้าเรียน ท่านคณะบดีฯจึงแนะนำให้เรียนหลักสูตรอื่นก่อนเพื่อปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษก่อน โดยให้เรียนในหลักสูตร “Business English” แล้วค่อยถ่ายโอนหน่วยกิจมาเรียนหลักสูตรที่คุณลีอยากเรียนในภาคเรียนต่อไป
นี่เป็นการเลือกในการตัดสินใจของท่านคณะบดีฯที่ไม่ต้องการให้เสียระบบของหลักสูตร และไม่ต้องการให้คุณลีเสียโอกาสด้วย แล้วก็พบว่าสิ่งที่ท่านแนะนำเป็นทางที่เหมาะสมที่สุด เพราะคุณลีจำเป็นต้องปูพื้นฐานที่ดีเสียก่อน
คุณลีสามารถจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีได้เป็นคนแรกของหมู่บ้าน แต่ในระหว่างนั้นก็มีคนอื่นๆในหมู่บ้านก็เรียนอยู่ในระดับเดียวกัน แต่จบช้ากว่าเพราะหลักสูตรที่คุณลีเรียนใช้เวลาสั้นกว่า จึงทำให้เขาได้เป็นคนแรกของหมู่บ้านที่จบปริญญาตรี
รายการ: Perspective
ความฝันในวัยเด็กคืออยากทำงานที่มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก จึงได้มาขอโอกาสจากผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ คือคุณมาร์คและคุณแดเนี่ยล ซึ่งทั้งคู่ก็บอกว่าการทำงานที่นี่ไม่มีการสอนการทำงานนะ
คุณลีจะต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงไปด้วยตนเอง โดยได้รับมอบหมายโครงการแรกคือ “การกลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง” ทำให้คุณลีมีโอกาสได้เข้าไปทำการช่วยเหลือหมู่บ้านตัวเองตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักศึกษาฝึกงาน
รายการ Perspective
ในครั้งแรกที่ได้รับมอบหมาย คุณลีก็พบปัญหาว่าโรงเรียนกับบ้านของนักเรียนชาวเขาอยู่ไกลมาก เด็กๆต่างก็ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกลโดยเฉพาะเด็กเล็กๆเป็นความลำบากของเขาเหล่านั้นมาก
จึงได้มองเห็นว่าควรพัฒนาโดยการทำหอพักใกล้ๆโรงเรียน และโรงเรียนต่างๆที่เคยเรียนอยู่ก็ผุพังไปตามกาลเวลา จึงทำโครงการให้ปรับปรุงอาคารเรียนที่มูลนิธิ โครงการนี้แล้วเสร็จตอนที่เรียนจบพอดี
คุณลีได้รับการทาบทามจากมูลนิธิฯให้เข้ามาทำงานหลังจากที่จบการศึกษาด้วย แต่ทว่าคุณลีพบว่ามีความฝันที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม นั่นคือไม่ได้แค่ทำเพื่อสังคมแต่อยากประกอบกิจการ แต่จะให้เป็นโมเดลของกิจการเพื่อสังคม นี่จึงเป็นจุดก่อกำเหนิด “Akha Ama” ที่เป็นธุรกิจเพื่อชุมชน
FB: Akha Ama Coffee
โดยครั้งแรกที่ลงมือทำก็ได้ไปหาทุนจากธนาคาร ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้รับความเห็นชอบ ด้วยที่ไม่มีหลักประกันอะไรที่จะทำให้ธนาคารเชื่อถือได้ และมองไม่ออกว่าจะประสบความสำเร็จได้จริงตามที่ตั้งใจ
บังเอิญในช่วงนั้นได้กลับมาที่มูลนิธิฯ จึงได้รับข่าวดีว่าพอดีมีครอบครัวจากสวิสเซอร์แลนด์ต้องการทำโครงการที่เรียกว่า SEG (Social Entrepreneurship Grant) หรือกองทุนตั้งต้นเพื่อกิจการของสังคม
โดยได้รับทุนก้อนแรกมา 300,000 บาท ซึ่งคุณลีก็ได้นำทุนนี้มาทำตามฝันของเขาในวันที่ 29 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นทั้งวันสุดท้ายที่ทำงานที่มูลนิธิฯและเป็นวันแรกที่เริ่มทำ Akha Ama เริ่มต้นจากคนที่ไม่เคยทำธุรกิจโดยการเช่าพื้นที่เล็กๆเป็นสำนักงานเพราะมีค่าใช้จ่ายไม่มาก
ในช่วงแรกที่ทำตลาดด้วยความที่ใหม่ไม่มีคนรู้จัก คุณลีจึงได้ใช้กลยุทธ์โดยการการวิ่งแจกกาแฟตามสี่แยกและหัวมุมต่างๆทั่วเมืองเชียงใหม่ จนมีเสียงล่ำลือว่ามีเด็กบ้าคนหนึ่งวิ่งแจกกาแฟในเชียงใหม่
ซึ่งเป็นกาแฟที่คั่วแล้วนำใส่ถุงเล็กๆไปแจกให้คนเชียงใหม่ได้ลองชิม และบอกกับผู้ที่รับตัวอย่างกาแฟไปว่าช่วยบอกด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้าชอบชอบก็เรียนเชิญมาอุดหนุนที่ร้าน โดยคุณลีได้แนบนามบัตรไปด้วย คุณลีเชื่อว่าน่าจะมี 8-9 คนที่ตอบรับจากคนที่ได้รับตัวอย่างกาแฟไปลองดื่ม
การต่อยอดกิจการไปสู่โรงคั่วกาแฟ ด้วยเล็งเห็นว่าฐานรากของธุรกิจยังไม่แข็งแรง ธุรกิจที่ทำอยู่มีการเช่าพื้นที่เพื่อขายกาแฟ มีสำนักงานที่เช่าอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจ้าของที่จะเปลี่ยนใจยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ จึงคิดว่าการที่จะไปต่อได้ต้องมีฐานรากที่มั่นคง จึงได้เก็บออมรายได้ที่ได้มาไปซื้อที่แปลงเล็กๆ
FB: Akha Ama Coffee
ในช่วงแรกตั้งใจว่าจะสร้างโกดังกับรงคั่วกาแฟ เพราะพื้นที่อยู่ในป่าเลยก็ว่าได้ แต่พอมาคุยกับทีมงานในบริษัทว่าไม่อยากมาทำงานในพื้นที่ที่เหมือนกับมาใช้แรงงาน คุณลือจึงต้องกลับไปคิดว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง จึงเกิดความคิดในการทำ Living Factory ต้องมีชีวิตชีวา จากการที่เป็นเพียงโรงงานก็กลายมาเป็นสถานที่ที่ไปแล้วต้องจรรโลงใจไปแล้วได้แรงบันดาลใจ
FB: Akha Ama Coffee
ด้วยความเชื่อที่ว่ากาแฟไทยไม่แพ้ชาติไดในโลก การที่จะบอกอย่างนั้นมันเองก็ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งต้องเกิดจากการที่ผู้คนที่ได้ดื่มรู้สึกเช่นเราเช่นกัน จึงได้ตัดสินใจส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดในเวทีกาแฟโลก ได้รับการคัดเลือก 3 ปีซ้อนให้อยู่ในกลุ่ม 21 กาแฟของโลก
FB: Akha Ama Coffee
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น หลังจากที่ส่งกาแฟไปประกวดที่ลอนดอนก็มีTV ยุโรปเข้าถ่ายทำเพื่อไปออกสื่อเมืองนอก ต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวก็เข้ามาอุดหนุน คนไทยที่เห็นว่ามีต่างชาติเข้ามาอุดหนุนก็เลยตามมาด้วย จึงเป็นที่มาของการสั่งซื้อเมล็ดกาแฟจากไทย คุณลีเองก็เชื่อมั่นอยู่แล้วว่ากาแฟไทยมีคุณภาพที่ดีแน่นอน
การส่งออกมีสัดส่วนไม่มากนักเพราะเน้นการบริโภคภายในเป็นหลัก แต่ยังว่าการบริโภคในประเทศครึ่งหนึ่งก็เป็นชาวต่างชาติแม้ว่าไม่ได้ส่งออกมากเท่าไรนัก การเป็นตัวตนของตนเองเป็นเนื้อแท้ที่เกิดจากรากเหง่าของบรรพบุรุษ ซึ่งต้องมีตัวตนที่ชัดเจน อาข่าอ่ามาคืออะไร “ชุมชนดีขึ้น สังคมดี ป่าอยู่ได้ สิ่งแวดล้อมอยู่ได้ขึ้น การศึกษาดีขึ้น” สิ่งที่เป็นจุดยืนเหล่านี้ คือสิ่งที่ตอบในใจผู้บริโภคเสมอ
FB: Akha Ama Coffee
คุณลีก็มีโอกาสได้ศึกษาความสำเร็จของกาแฟแบรนด์อื่นๆและพบว่า “ในเมื่อหลายคนประสบความสำเร็จในธุรกิจกาแฟ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะล้มเหลวเหมือนกัน”
ความเชื่อ ความหลงใหล ความตั้งใจ ความไม่ย่อท้อ กัดฟันสู้ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าความรู้ที่อ่านมาเป็นร้อยเล่ม การร่ำเรียนมาสูงๆแทบจะไม่มีความหมายเลยถ้าไม่ลงมือทำ
FB: Akha Ama Coffee
ด้วยความเป็นคนที่มีแนวคิดเปิดกว้าง คุณลีก็ได้ทำการขอไปฝึกงานที่ร้านสตาร์บัคแห่งแรกที่ Seattle สหรัฐอเมริกา โดยได้ขอนุญาตเข้าไปฝึกงานที่ Stumptown Coffee Roaster ที่ Portland
รายการ Perspective
ไปเรียนรู้ว่าเขาจัดการเรื่องการค้าส่งค้าปลีกอย่างไรสินค้าตงคลังบริหารอย่างไร บริษัทเขาตื่นเต้นมากที่ลูกหลานชาวสวนกาแฟจริงๆมาขอฝึกงานและเขาก็ใจดีมากด้วยที่ได้ให้โอกาสคุณลี
รายการ Perspective
ตอนแรกที่คิดว่าเขาจะดูถูกเพราะเป็นชาวเอเชียผมดำตัวเล็ก แต่ที่ไหนได้พอไปถึงกลับมีอะไรให้ทำเยอะแยะเลย
คุณลีเน้นย้ำเสมอว่า "สิ่งที่ทำได้ในทุกวันนี้ไม่ได้เกิดจากฝีมือของเขาเพียงคนเดียว ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งเหล่านี้"
คุณลีได้พิสูจน์แล้วว่าการที่ลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพียรพยายาม จะมีคนเห็นอกเห็นใจหยิบยื่นโอกาสมาให้ เพราะเราเป็นสัตว์สังคมที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว
ที่มาของข้อมูลต้องขอบคุณรายการ Perspective TV
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
หากชื่นชอบและถูกใจบทความนี้ ฝากกด Like กด Share และติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา