14 ธ.ค. 2019 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
ในเมื่อหลายคนประสบความสำเร็จในธุรกิจกาแฟ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะล้มเหลวเหมือนกัน
https://www.posttoday.com/life/healthy/340561
คำพูดนี้เป็นคำพูดของผู้ชายชนเผ่าอาข่า ที่พ่อแม่ต้องหนีสงครามมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย ชายคนนี้ชื่อว่า ลี อายุ จือปา เจ้าของกาแฟ “อาข่า-อ่ามา”
ที่มา: Th.tripadvisor.com
“ยุคใหม่การตลาดของไทย” ได้รู้จักผู้ชายคนนี้จากโฆษณาในโรงภาพยนตร์ของรถยนต์ดังยี่ห้อหนึ่ง จึงสงสัยว่าผู้ชายชนเผ่าที่มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งเชื้อชาติ ทั้งฐานะ ทั้งการยอมรับของสังคม แต่สามารถสร้างแบรนด์กาแฟไทยสู่ระดับโลกและสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้คนได้อีกมากมายได้อย่างไร
โฆษณาในโรงภาพยนต์
จนวันหนึ่งได้เห็นรายการ Perspective ที่ออกรายการทางช่อง 9 อสมท. สัมภาษณ์ผู้ชายคนนี้ จึงได้นำข้อมูลที่สร้างแรงบันดาลใจจากคนๆนี้มาแบ่งปันต่อในครั้งนี้
รายการเปอร์สเปกทีฟ ทางช่อง9
ลี อายุ จือปา ผู้มีเชื้อสายอาข่า อาศัยอยู่ ณ จังหวัดเชียงราย ที่มีความฝันว่าอยากจะจบปริญญาตรีเป็นคนแรกของชนเผ่า และเขาก็ทำได้พร้อมกับเกียรตินิยม จนได้รับทุนการศึกษาให้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แต่เขาได้ปฎิเสธทุนที่ได้รับ เพราะมีปณิธานอันแน่วแน่ในการกลับมาพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง
ที่มา : Prespective TV
เขาจึงได้กลับมาทำวิสาหกิจชุมชนพัฒนากาแฟจนมีชื่อเสียงระดับโลก ที่ชื่อว่า “อาข่า อ่ามา” ทั้งที่ก็ไม่เคยเรียนรู้เรื่องการปลูกกาแฟมาก่อนเลย และคำว่าอ่ามาก็แปลว่าแม่ ภาพในเครื่องหมายสินค้า (Logo) กาแฟก็คือภาพแม่ของเขานั่นเอง
ร้านกาแฟ “อาข่า อ่ามา” คว้ารางวัลชนะเลิศ dtac Smart Farmer 2016 ที่มา: Wongnai.com
จากการที่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์คุณลี อายุ จือปา พบว่าเขามีความคิดที่เปิดกว้าง เริ่มต้นตั้งแต่การที่ยอมรับการผสมผสานของวัฒนธรรมไม่ยึดติดว่าฉันเป็นอาข่าแท้ๆต้องไม่รับวัฒนธรรมใดๆ แต่ที่สำคัญว่าไม่ว่าจะมาจากไหนต้องไม่ลืมรากฐานที่มา
อาข่ามีรากเหง้าที่มาด้วยความคิดที่ว่าเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ได้เป็นปัจเจกบุคคล การพัฒนาไม่ใช่ว่าจะต้องทิ้งสิ่งเดิมที่มี เรายังคงสิ่งที่เป็นรากฐานดีๆไว้
คุณลี อายุ จือปา มีการนำเสนอสินค้ากาแฟที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว การที่สร้าง อาข่า อ่ามา ก็มี 3 ปัจจัยหลักด้วยกันคือ
1.เศรษฐกิจชุมขน
2.การศึกษา
3.สิ่งแวดล้อม
เรามาขยายความแต่ละข้อกัน เริ่มต้นจากเรื่องเศรษฐกิจครัวเรือน ที่เกิดจากคนปลูกกาแฟมีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ มีเม็ดกาแฟคาอยู่ในหมู่บ้านหลายตันเลย
ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมคนปลูกกาแฟถึงจนอยู่ แต่ในขณะที่การบริโภคกาแฟสูงขึ้น และกาแฟมันมีมูลค่าไม่ใช่แค่คุณค่า ต่างประเทศบริโภคกาแฟกันเยอะมากและมีมูลค่าที่สูงมาก ซึ่งเขามั่นใจว่ามีตลาดรองรับผลผลิตที่เกษตรกรปลูก
ที่มา: Bravoyourcity.com
เขาเชื่อว่านวัตรกรรมโรงคั่วกาแฟที่เขาสร้างขึ้นนี้ จะก่อประโยชน์ให้ส่วนรวมให้พี่ๆน้องที่ปลูกกาแฟ โดยทำการซื้อเมล็ดกาแฟจากชุมชนโดยให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดทั่วไป แม้จะดูว่าเป็นเหมือนคนกลางทั่วไปที่ดูว่าจะเอาเปรียบเกษตรกรได้ แต่เขายึดมั่นคือจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านที่มีส่วนรวมกับเรามีปากมีเสียง ที่สามารถบอกได้ว่ากาแฟของเราควรที่จะขายได้ในราคาเท่าไรจึงจะยุติธรรม
สิ่งที่บอกว่ายุติธรรมที่คุณลีพูดถึงคือยุติธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่เพียงต่อผู้ผลิตและเกษตรกร ต้องยุติธรรมต่อผู้บริโภคด้วย
ที่มา: Posttoday.com
เป็นการดำเนินการที่สร้างให้เกิดความยั่งยืนนั่นเอง เปิดโอกาสให้ทุกคนว่าสามารถที่จะนำกาแฟไปขายที่อื่นก็ได้
ซึ่งกาแฟที่ปลูกก็มีโอกาสขายให้โรงคั่วกาแฟรายอื่นๆได้ด้วย จากการประสานงานติดต่อของคุณลีเอง เศรษฐกิจจึงแก้ไขได้ง่ายมากเลย โดยการสร้างงานสร้างเงินให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั่นเอง
คนที่ทำงานในโรงคั่วอาข่า อ่ามา 50%มาจากลูกหลานของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ แม้ว่าคุณลีจะสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญมาได้แต่ก็เลือกให้กลุ่มนี้ทำงาน เพราะเป็นการสร้างเกราะป้องกันโดยให้คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถในการดำเนินการเองแม้วันที่เขาไม่อยู่ในโลกใบนี้แล้วก็ตาม
รายได้ 40% มาจากหน้าร้าน ทำให้มีเงินที่จะมาใช้จ่ายในการดูแลพนักงานมากกว่า 20 ชีวิตได้ และอีก 60% มาจากการขายเม็ดกาแฟและกำไรที่ได้ก็หมุนเวียนกลับสู่ชุมชน
จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้กิจการไปต่อไม่ได้ ถ้าจะไปต่อไม่ได้จากการที่ทุกคนสามารถไปทำของตัวเอง วันนั้นเขาก็จะรู้สึกดีใจ เพราะเขาสามารถไปทำอย่างอื่นก็ได้
เมื่อมีรายได้ที่ดีเข้ามาก็ทำให้เกิดการศึกษาที่ดีที่เป็นเหตุผลข้อที่ 2 และข้อสุดท้ายเรื่องสิ่งแวดล้อมคือ เขาจะไม่ทำงานกับคนที่ปลูกกาแฟเชิงเดี่ยวจะทำงานกับคนที่ปลูกแบบผสมผสาน โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9
เพราะการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเสี่ยงต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ทำลายสมดุลทางธรรมชาติ ซึ่งพืชผสมผสานยังสามารถสร้างรายได้จากพืชผสมผสานได้อีก ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงพืชที่ปลูกขายเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่สร้างออกซิเจนเป็นปอดของโลกด้วย
ภาพจากโฆษณาในโรงภาพยนต์
นี่คือตัวอย่างของคนที่ชื่อว่าเป็นประชากรของโลกอย่างแท้จริงคนหนึ่ง แม้ว่าทางกายภาพจะดูว่าเป็นคนสมัยใหม่ แต่ในรากฐานทางความคิดเขาก็ยังคงเป็นคนที่ดำรงไว้ซึ่งรากเหง้าที่ดีของบรรพบุรุษของตนเองด้วย
เนื่องจากมีเนื้อหาที่น่าสนใจอีกมาก เพื่อให้ทุกท่านที่มีโอกาสได้เข้ามาพบกับเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ “ลี อายุ จือปา” อย่างเต็มอิ่ม “ยุคใหม่การตลาดของไทย” จึงขออนุญาตแบ่งปันต่อในตอนต่อไปนะครับ
ที่มาของข้อมูลต้องขอบคุณรายการ Perspective TV
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
หากชื่นชอบและถูกใจบทความนี้ ฝากกด Like กด Share และติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา