16 ธ.ค. 2019 เวลา 03:10 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้ เหตุผลที่ชุดนักบินอวกาศมีสีส้มและสีขาว
ในระหว่างภารกิจนอกโลกของนักบินอวกาศ ซึ่งสภาพแวดล้อมไม่ได้เหมือนกับบนพื้นโลก มนุษย์อวกาศทุกคนจึงต้องมีการสวมใส่ชุดที่มีความเหมาะสมในการปฎิบัติหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป เมื่ออยู่บนพื้นโลก พวกเขาจะสวมใส่ชุดปกติ แต่ก่อนที่ยานอวกาศจะทะยานขึ้นจากผิวโลก ชุดสีส้มของพวกเขาที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จะถูกสวมใส่ในทันที
ภายในชุดอวกาศนั้นมีอะไรมากมายกว่าที่คิด ซึ่งไม่ได้มีเพียงนำ้หนักที่เยอะมากเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่พร้อมจะช่วยให้มนุษย์อวกาศทำภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ชุดอวกาศที่มีสีส้ม จะถูกสวมใส่ขณะที่ยานถูกปล่อยขึ้น ภายในนั้นจะมี ส่วนประกอบที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อก ร่มชูชีพ อุปกรณ์สื่อสาร ถุงมือ และรองเท้าบูท ชุดสีส้มที่ว่านี้ สามารถที่จะ ปรับความดันภายในเพื่อป้องกันนักบินจากการเปลี่ยนแปลงความดันและอุณหภูมิกระทันหันในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องจนต้องสละยานทิ้ง อีกทั้งสีส้มของชุด จะช่วยในเรื่องของการกู้ภัยขณะที่นักบินอวกาศใช้ร่มชูชีพแล้วร่อนลงมาถึงพื้นดินหรือกลางมหาสมุทรได้
1
แต่ในขณะที่อยู่บนอวกาศแล้ว นักบินอวกาศไม่จำเป็นที่จะต้องสวมใส่ชุดสีส้มอีกต่อไป ชุดที่พวกเขาสวมใส่จะทำจากผ้าธรรมดาที่มีสมบัติติดไฟได้ยากเท่านั้น เพราะภายในยานนั้นจะถูกออกแบบมาให้มีการปรับความดัน และอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับกาดำรงชีวิตของมนุษย์อยู่แล้ว
และเมื่อใดที่พวกเขาต้องปฏิบัติภารกิจนอกยานหรือสถานีอวกาศ พวกเขาจะต้องสวมชุดอวกาศที่มีชื่อว่า EMU หรือ Extravehicular Mobility Unit ที่เป็นสีขาว
และเหตุผลสำคัญที่มนุษย์อวกาศโดยจะต้องสวมใส่ชุดอวกาศดังกล่าวนี้ เป็นเพราะว่าในอวกาศนั้นไม่มีความดันบรรยากาศ ไม่มีการออกซิเจน หากไม่มีการสวมใส่ชุดอวกาศที่เหมาะสม อาจจะหมดสติได้ภายในเวลา 15 วินาที เนื่องจากไม่มีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงระบบเลือดและของเหลวภายในร่างกายจะเดือด เนื่องจากไม่มีความดันบรรยากาศ ทั้งหมดนั้นจะส่งผลให้ผิวหนังหัวใจและอวัยวะภายในระเบิดออก
1
นอกจากนั้นแล้วสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกับอุณหภูมิที่ผันแปรอย่างรวดเร็วจาก 120 องศาเซลเซียสในบริเวณที่ดวงอาทิตย์ที่ส่องถึง แต่ถ้าเป็นบริเวณที่ดวงอาทิตย์ส่องไม่ถึง จะมีอุณหภูมิติดลบถึง 120 องศาเซลเซียส
ความพิเศษของโครงการต้องการอพอลโลที่สร้างความหวังให้กับมนุษยชาติ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการนำยานอวกาศลงจอดบนดวงจันทร์ เพื่อทำการสำรวจในปี 1967 ถึง 1972 นักบินอวกาศจำเป็นจะต้องสวมชุดอวกาศที่สามารถแยกตัวอิสระจากยานได้ ดังนั้นชุดอวกาศในภารกิจนี้ จึงเป็นชุดแรกที่มีการออกแบบให้มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเป้ที่ติดอยู่ด้านหลัง ประกอบไปด้วยทั้งออกซิเจนอุปกรณ์ช่วยในระบบหายใจ อุปกรณ์ใช้ระบบควบคุมความดันและระบายอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิ
อีกทั้งยังมีระบบ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ติดอยู่กับชุดอีกด้วย ทำให้นักบินอวกาศสามารถเดินได้อย่างสะดวกบนผิวดวงจันทร์ สำหรับความพิเศษของชุดนักบินอวกาศที่ออกแบบมาให้มีการปรับความดันภายในได้ ประกอบไปด้วยวัสดุหลายชั้น ชั้นในสุดเป็นการควบคุมอุณหภูมิทำจากไนลอน มีระบบท่อน้ำกระจายอยู่โดยรอบ
ถัดมาเป็นฉันควบคุมความดัน เพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงดันภายในชุด ถัดออกมาอีก เป็นชั้นป้องกันความร้อน และชั้นสุดท้ายเป็นชั้นป้องกันไฟ ความร้อน และอันตรายจากก้อนหิน สะเก็ดดาว หรือความร้อนสูง นอกจากนี้ภายในชุดอวกาศยังมีอุปกรณ์สำหรับเก็บปัสสาวะและถุงน้ำดื่ม รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็กประกอบด้วยหูโทรศัพท์ ที่สำคัญ ยังมีอุปกรณ์ ตรวจวัดการทำงานของหัวใจระบบสมอง และอวัยวะสำคัญอื่นๆ ของนักบินอวกาศ
อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ช่วยให้ผู้สวมใส่เกิดความสบายและปลอดภัย นอกจากนี้แล้วนักบินอวกาศจำต้องให้ไม่ลืมที่จะสวมใส่รองเท้าบู๊ท ถุงมือและหมวกกันน็อค สำหรับน้ำหนักรวมของชุดนักบินอวกาศบวกกับเป้หลังหลังจะมีน้ำหนักถึง 82 กิโลกรัมบนโลก แต่เมื่ออยู่บนดวงจันทร์แล้ว น้ำหนักจะเหลือเพียง 14 กิโลกรัมเท่านั้น และไฮไลท์สำคัญภายใต้สภาพการใช้งานปกติ “ชุดนักบินอวกาศสามารถใช้งานได้ถึง 8 ปีเลยทีเดียว”
ชุดอวกาศในปัจจุบัน มีการพัฒนาขึ้นมาก การผลิตในแต่ละชิ้นส่วนจะผลิตให้มีขนาดแตกต่างต่างกัน เพื่อที่จะสามารถนำมาประกอบให้เข้ากับรูปร่างของนักบินอวกาศแต่ละคนได้ แล้วเมื่อเสร็จภารกิจสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง อีกทั้งในกรณีที่มีการเดินในอวกาศนักบินจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า MMU ซึ่งมีลักษณะขายเครื่องเจ็ทไอพ่นขนาดเล็ก ทำให้นักบินอวกาศสามารถบินรอบๆยาน หรือบริเวณใกล้เคียงได้
อย่างไรก็ตาม ชุดอวกาศในโลกอนาคต ยังคงมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ในภายภาคหน้าชุดอวกาศจะถูกพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นสูง อาจจะทำจากวัสดุใหม่ที่มีการค้นพบในอนาคตก็เป็นได้ อีกทั้งระบบต่างๆ อาจจะถูกย่อขนาดให้เล็กลง เพื่อที่จะให้มีน้ำหนักที่เบา แต่มากด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และเมื่อถึงเวลานั้นการท่องอวกาศ จะไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินฝันสำหรับทำมนุษยชาติอีกต่อไป
ชื่นชอบ บล็อกของ Swivel อย่าลืมกดแชร์ กดติดตามและกดไลค์กันเยอะๆนะ ที่สำคัญ ติชม และให้กำลังใจผ่านคอมเมนท์ข้างล่างนี้ได้เลย
สำคัญไปกว่านั้น ทุกคนสามารถรับคอนเทนท์ดีๆ บวกกับความบันเทิงอย่างมีสาระผ่านช่องทางนี้เลย http://nav.cx/2z8bFq6
"Infinite Development Drive By Swivel" "Everything Are Swiveling"
โฆษณา