16 ธ.ค. 2019 เวลา 06:50
ก่อนจะประสบความสำเร็จได้ เราต้องใช้...ความเชื่อ (Believe) ให้เป็นซะก่อน
EP.08 พลังแห่ง...ความเชื่อ (Believe)
"ความเชื่อ" เปรียบเหมือน "สะพาน" ที่เป็นจุดเชื่อมโยงความฝันสู่ความจริง ที่เป็นเหมือนเส้นทางเดินจากความคิดไปสู่ความสำเร็จที่เป็นจริง
Image by David Mark from Pixabay
ผมกำลังพูดถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ซึ่งก็คือการคิดและการลงมือทำ
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมา จะเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1เกิดจากความคิด จากจินตนาการและครั้งที่ 2 เกิดจากการกระทำตามความคิดนั้น
การจะสร้างสิ่งใดสักสิ่งหนึ่งขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน รถยนต์ เรือ หรือตึกระฟ้า เราต้องคิด ต้องจินตนาการขึ้นมาก่อนทั้งนั้นว่าอยากให้หน้าตาสิ่งนั้นเป็นแบบไหน เราต้องคิดขึ้นก่อนเป็นลำดับแรกครับ จากนั้นจึงลงมือทำตามความคิดนั้น ให้สิ่งที่เราคิดกลายเป็นจริงขึ้นมา
และสิ่งที่จะทำให้ความคิดกลายเป็นความจริงได้ชัดเจน และรวดเร็วที่สุดก็คือ ความเชื่อ ครับ
2
Image by Lorenzo Cafaro from Pixabay
ความเชื่อ เป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมโยงเปลี่ยนจากความคิดให้กลายเป็นความจริง เพราะเมื่อคุณเชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็จะหาวิธีการ วิถีทางต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จตามความคิดที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้
แต่หากคุณไม่เชื่อ คุณก็จะไม่เริ่มต้นทำ หรือเริ่มต้นทำได้ยาก
แต่เทคนิควิธีการที่ง่ายและได้ผลที่สุดในการเริ่มต้นคือ การลองทำไปก่อนทั้ง ๆ ที่ไม่เชื่อนั้นแหละครับ ที่สำคัญเลิกสงสัยไปชั่วคราว ถือว่าสนุกๆ ก็ไม่เสียหายอะไร =] จริงไม๊ครับ
Image by Pexels from Pixabay
ซึ่งเรื่องนี้ต่อเนื่องจากเรื่อง Visualization ใน EP.07 การสร้างภาพในความคิดที่มีการทำ “กระดานภาพความคิด” (Visual board) ขึ้น ให้ตรงกับเป้าหมายที่เราได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมก็ทำตามไปก่อนทั้ง ๆ ที่ไม่เชื่อครับ เพราะมีหลักฐานว่ามีคนทำสำเร็จมาแล้ว
ผมลองเขียนลองทำ 10 เป้าหมายไว้หลายปีม
าแล้ว เมื่อย้อนดูก็พบว่า เป็นจริงไปแล้วถึง 6 อย่าง ซึ่งแต่ละอย่างก็เป็นเป้าหมายสำคัญ ทั้งบ้าน รถ การเรียนจบเอก หรือการมีลูกชายสักคน ก็ล้วนอยู่ในเป้าหมายทั้งสิ้น
สำหรับเป้าหมายที่เหลือที่ยังไม่สำเร็จ แน่นอนครับที่เป้าหมายใหญ่โตมักจะใช้เวลาสำเร็จนานกว่าเป้าหมายเล็ก แต่อาจเพราะผมยังให้พลังความเชื่อกับสิ่งนั้นไม่มากพอ ไม่เต็ม 100 แต่พอสิ่งที่ผมทำได้เป็นจริง ไปกว่า 6 อย่าง …ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละครับ
Image by reenablack from Pixabay
แต่ก็อย่างที่บอกครับ แม้จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ลองทำไปก่อนแล้วกันครับ แล้วเมื่อผลลัพธ์ค่อยๆ ปรากฎเป็นหลักฐานชัดเจน ก็จะทำให้เราเชื่อได้มากขึ้นครับว่า ความฝันของเราเกิดเป็นความจริงขึ้นได้ด้วยความเชื่อ
โรเบิร์ต ดิลตส์ (Robert Dilts) นักเขียนชื่อดังได้ให้คำนิยามของความเชื่อว่า “เป็นการตัดสินและประเมินผลตัวเราเอง คนอื่น และสิ่งรอบตัว ความเชื่อเป็นแบบแผนเปลี่ยนแปลงได้ยาก เมื่อเราเชื่อในบางสิ่งว่าจริง แม้ว่ามันจะจริงหรือไม่ เขาก็จะทำตามสิ่งที่เขาเชื่อ พร้อมหาข้อมูลพิสูจน์ว่าความเชื่อนั้นจริง แม้ว่ามันจะจริงหรือไม่ก็ตาม”
มาร์ค เรคคลาว (Marc Reklau) นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตนเอง กล่าวถึงความเชื่อว่า “ความเชื่อจะมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของคุณ อารมณ์ของคุณจะส่งผลต่อการกระทำของคุณ และสิ่งที่คุณกระทำจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ในท้ายที่สุด ชีวิตของคุณจะไปในทิศทางไหนก็ขึ้นกับระบบความคิดของคุณเอง”
ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่เราประสบพบเจอในชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญครับ แต่เป็นผลจากความคิดความเชื่อของเราเองนี่แหละ หากเราต้องการให้ชีวิตของเราเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ก็เพียงแต่เปลี่ยนความเชื่อ เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเราครับ
Image by Gerd Altmann from Pixabay
อันที่จริงแล้วไม่มีใครบอกได้หมดทุกอย่างหรอกครับว่าความเชื่อแบบไหนผิดหรือถูก แต่หากความเชื่อนั้นก่อให้เกิดประโยชน์แก่เรา ความเชื่อนั้นไม่ได้ทำร้ายผู้ใดหรือสิ่งใด มันก็ไม่ผิดครับที่เรา "เลือกจะเชื่อ"
… ใช่ครับ อยู่ที่เรา “ตัดสินใจเลือก” ที่จะ “เชื่อ” ด้วยครับ พร้อมๆ กับการเลือกที่จะ “ไม่เชื่อ” ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับเรา คุณเคยได้ยินคำกล่าวแบบนี้ไม๊ครับ เช่น โอกาสมีแค่ครั้งเดียว อย่าทำเลยมันยากความสำเร็จมีแค่ 1 ในล้าน ฯลฯ
มีงานวิจัยของ โรเบิร์ต โรเซนธาล (Robert Rosenthal) นักจิตวิทยาจาก Harvard University ได้วิจัยว่า ระดับสติปัญญาของหนูทดลองเพิ่มขึ้นหรือต่ำลงได้จากความเชื่อของนักวิจัยผู้ทดลองเอง คือเมื่อผู้ทดลองเชื่อว่าหนูของตนฉลาด หนูก็จะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น แต่หากเชื่อว่าหนูนั้นโง่ หนูก็จะเรียนรู้ได้ช้าลง
จากงานวิจัยเรื่องหนู ทำให้ เลนอร์ จาคอบสัน (Lenore Jacobson) ครูใหญ่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในซานฟรานซิสโก ก็ร่วมทำวิจัยเรื่องความเชื่อกับ โรเบิร์ต โรเซนธาล โดยแบ่ง เด็ก นักเรียนออกเป็น 3 ระดับ IQ คือ กลุ่มสูง ปานกลาง และต่ำ
ซึ่งผลวิจัยพบว่า กลุ่มเด็กนักเรียน ที่ครูใหญ่แจ้งตอนแรกว่าเป็นกลุ่ม IQ สูงก็สามารถทำคะแนนได้สูงตามความคาดหวังของครูผู้สอน ซึ่งเฉลยภายหลังว่า แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีการจัดกลุ่มแบ่งระดับจริง แต่ใช้วิธีสุ่มแบบคละกัน
นี่จึงนับเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์สามารถพัฒนาตนเองได้สูงขึ้นได้จากความเชื่อที่แรงกล้า
เพราะมีความเชื่อแบบนั้น มันจึงส่งผลให้เกิดเป็นความจริงขึ้นมา ถ้าเราไม่เชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ลืมความเชื่อเก่าๆ ทิ้งไป เราก็สามารถสร้างชีวิตใหม่ของเราขึ้นมาได้ไม่ยากครับ
Image by TeroVesalainen from Pixabay
คุณเองก็สามารถสร้างความเชื่อดีๆ เพื่อให้ชีวิตของตัวคุณเองดีขึ้นได้เช่นกัน ส่วนตัวผมเชื่อว่า “ถ้าในโลกนี้มีคนสักคนหนึ่งทำเรื่องนั้นๆ ขึ้นมาได้ เราก็ต้องทำเรื่องนั้นได้เช่นกัน ไม่เกินความพยายามของมนุษย์หรอกครับ”
ขอแค่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องการมันอย่างแท้จริงๆ ลองถามตัวเองอีกครั้ง คุณต้องการมันจริงๆ หรือเปล่า ? ถ้าใจคุณเต้นแรง ใจคุณเรียกร้อง อย่าสงสัย คิดแล้วก็ต้องลงมือทำ มันก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วละครับ
ด้วยความปรารถนาดี เป็นกำลังใจให้ครับ
#success #target #ความสำเร็จ #เป้าหมาย #อัปเกรดความคิด #mindset #คำคม #ความอดทน #ความเพียร #กำลังใจ #คิดบวก #ความคิด #คิดบวกบวก #คำบันดาลใจ #Quotes #ความเชื่อ #believe

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา