Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หมออัฑฒ์ แพทย์ทางไกล
•
ติดตาม
20 ธ.ค. 2019 เวลา 12:01 • สุขภาพ
อีกมุมมองของ "เบียร์" เบียร์ก็เป็นยาถ้าใช้เป็น ...ตอนที่1...ประวัติอันยาวนาน
ไม่ได้ยุให้ดื่มนะครับ แต่อยากให้รู้จักอีกมุมของมันครับ มองให้ลึกถึงตัวตนของ เบียร์
ที่จริงแล้วเบียร์มีประวัติมากว่า 8000 ปีแล้วโดย มีการค้นพบหลักฐาน ว่า มีการทำเบียร์จากข้าวบาร์เลย์ ในสุมาเรีย และ บาบิโลเนีย
มีหลักฐานหลงเหลืออยู่บนหลุมฝังศพของอียิปต์เมื่อ 4400 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงว่ามีการทำเบียร์แห้ง
heartlandbrewery.com
โดยการบดข้าวบาร์เลย์ให้แตกเป็นผงหยาบ แล้วผสมน้ำให้เปียก แล้วทำให้เป็นก้อน ผสมกับน้ำตั้งทิ้งไว้แป้งมันก็จะคายแอลกอฮอล์ออกมาในน้ำ
นี่คือเบียร์ในสมัยเริ่มแรก
ด้วยหลักการนี้เองเบียร์ก็เริ่มมาแพร่หลายจากเอเชียกลางเข้าสู่ทางยุโรป
การทำเบียรสมัยก่อน
พลินี และ ทาสิทัส เป็นนักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน นายศตวรรษที่หนึ่งได้บันทึกไว้ว่า
พวก แซกซอน เซลท นอร์คิด และ เยอรมัน ชอบดื่มสุราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เอล (ALE)
ในยุคกลางศาสนจักรประกาศให้การทำเบียร์เป็นอาชีพสงวน
heartlandbrewery.com
จะเห็นได้ว่าเบียร์สมัยเริ่มแรกก็คือเหล้าที่หมักจากข้าวเช่นเดียวกับการแช่หรือสาเกของประเทศญี่ปุ่น
จนถึงประมาณศตวรรษที่ 11 ก็เริ่มมีการเติม ฮอปส์(Hops) ลงในเบียร์
Hops
รู้จักกับฮอปส์กันครับ
ฮอปส์ เป็นพืชชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า humulus lupulus
ดอกตัวเมียของ ฮอปส์ ทำให้เกิดรสขมและกลิ่นเฉพาะตัวของเบียร์
รสขมในเบียร์ก็จึงเกิดจากตัวฮอปส์นี่เอง
จนถึงศตวรรษที่ 15 ถึงได้แพร่หลายไปทั่วยุโรปและเข้าสู่อังกฤษ โดยผ่านทางประเทศเนเธอร์แลนด์
หลังจากนั้นการทำเบียร์ได้รับการพัฒนาอย่างมากในประเทศเยอรมัน ในปีคศ 1420
เยอรมันมีความประสบความสำเร็จจากการหมักเบียร์จากด้านล่าง
pixabay
แต่เดิมใช้วิธีหมักด้านบนคือยีสต์จะอยู่ด้านบนสุดของภาชนะ
และเยอรมันยังค้นพบวิธีหล่อน้ำแข็งเพื่อเก็บเบียร์หมักไว้ได้ในหน้าร้อนอีกด้วย
เบียร์เยอรมันขึ้นชื่อว่า lager Beer ซึ่งคำว่า Lager เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า เก็บสะสม
ต่อมาเมื่อถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ได้มีการนำอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเครื่องจักรมาใช้ในการผลิตเบียร์มากขึ้น
เช่นวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์ วัดความหวานด้วย saccharometer
ซึ่งเป็นวิทยาการของประเทศอังกฤษ และแล้วก็กลับเข้ามาแพร่หลายเข้ามาในยุโรปอีกครั้งหนึ่ง
ในขณะเดียวกันกับที่มีผู้ผลิตตู้เย็นควบคุมอุณหภูมิและเครื่องทำน้ำแข็งในปลายศตวรรษที่ 19 จึงช่วยทำให้เบียร์เป็นสหกรรมใหญ่ ที่ขายได้ทุกฤดูกาล
และในปีพศ. 1860 นักเคมีชาวฝรั่งเศส หลุยส์ปาสเตอร์ ได้ใช้ความรู้ทางด้านจุลชีวะ วิทยา ช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตเบียร์ เป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกับนักพฤกษศาสตร์ชาวเดนมาร์กชื่อ อิมิลี แฮนแกน ซึ่งเป็นผู้ปรับปรุงกระบวนการเพาะเชื้อยีสต์ให้ได้เป็นสายพันธุ์บริสุทธิ์ ช่วยทำให้เบียร์มีรสชาติและคุณภาพสม่ำเสมอ
และในระหว่างนั้นเองเบียร์เยอรมันก็เลยรับเทคโนโลยีมาใหม่ๆ และ พัฒนาตนเองกลายเป็นเจ้ายุทธจักรเบียร์
เยอรมันจึงยึดครองทวีปอเมริกาเกือบทั้งหมด จนในศตวรรษที่ 19 จึงไม่มีใครอยากจะดื่มเบียร์ที่ผลิตจากที่อื่นนอกจากเยอรมัน
ครั้นเมื่อถึงศตวรรษที่ 20 อุตสาหกรรมเบียร์ก็กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของโลก ไปในที่สุด
ทุกวันนี้เบียร์ถูกหมักในถังเหล็กไร้สนิม ควบคุมอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้รสชาติสม่ำเสมอที่สุด
ส่วนในเยอรมันมีกฎหมายควบคุมการผลิตเบียร์โดยเฉพาะ
กฎหมายดังกล่าวมีข้อกำหนดความเข้มข้นความแรงของเบียร์แต่ละชนิดเพื่อให้เยอรมันคงเป็นเจ้าแห่งเบียร์ตลอดไป
ตอนต่อไปก็จะเป็น บททีเขียนถึง ชนิดและคุณสมบัติทางยาของเบียร์ และอันตรายของเบียร์ที่เกิดขึ้นได้ถ้าดื่มมากจนเกิดการสะสมครับ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วน
https://belgium.beertourism.com/about-beer/history-of-beer
เขียนรับใช้เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สวัสดีครับ
18 บันทึก
132
87
33
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
มหากาพย์ของเบียร คุณและโทษ
18
132
87
33
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย