20 ธ.ค. 2019 เวลา 15:54 • ความคิดเห็น
คนบางคนไม่ต้องการอะไร...ขอแค่มี “บ้าน” ให้อยู่
สวัสดีครับวันนี้ผมกลับมาเขียนบทความที่ให้ข้อคิดจากหนังอีกครั้ง โดยหนังเรื่องนี้ยังเป็นหนึ่งในหนังแฟรนไชส์ของ Marvel Cinematic Universe ( MCU ) คือเรื่อง Captain Marvel ( Mar-Vell อ่าน 2 คำแบบไม่ติดกัน )
โดยเนื้อเรื่องของหนังให้ความบันเทิงอย่างครบรส เช่น เดียวกับหนังเรื่อง Black Panther ที่ผมได้เขียนไปมี CG ที่อลังการ ความดราม่าของชนเผ่า
หนึ่งที่พวกเขาไม่ต้องการอะไรจากจักรวาลนี้เลย แต่พวกเขาเพียงแค่ต้องการ “บ้าน” ให้เขาและครอบครัวของเขาได้พักอาศัยเท่านั้น ซึ่งทำให้ผมนึกถึงคนเร่ร่อน ที่มักเห็นเป็นประจำ ตอนเดินทางไป-กลับที่ทำงานเลย...
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามอ่านได้เลยครับ
Carol Danvers ( ตัวเอกของเรื่อง ) หลังจากตนเองได้ความจำเดิมกลับคืนมา จึงได้รู้ความจริงว่าตนเองถูกกดพลัง ( พลังที่ได้จาก TESSERACT หนึ่งใน 6 Infinity Stones )
TESSERACT หรือ SPACE STONE หินเม็ดสีฟ้า
และถูกหลอกใช้ทำภารกิจต่างๆ ร่วมกับหน่วย Starforce ของพวก Kree*ภารกิจของหน่วย Starforce ที่ทำให้ Carol Danvers ได้รู้ความจริง คือ ภารกิจตามล่า พวก Skrull*
หน่วย Starforce
เนื่องจากความสามารถของ Skrull เป็นภัยต่อพวก Kree และดาวบ้านเกิดของพวกเขา เพราะ Skrull สามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ แค่มองคนๆนั้น และแปลงร่างเหมือนลึกถึงระดับ DNA ด้วยความสามารถอันน่าทึ่งนี้ จึงถูกพวก Kree หมายหัวและใส่ความว่าเป็นชนเผ่าที่มักแทรกซึมและทำลายดาวต่างๆทั่วทั้งจักรวาล
หมายเหตุ* Kree และ Skrull เป็นเผ่า Aliens ในจักรวาล MCU
เมื่อ Talos หัวหน้าพวก Skrull ช่วยเหลือ Carol ให้รู้ความจริง จึงขอให้ Carol ช่วยเหลือพวกของตน เพื่อสานต่อเจตนาของ Dr. Walter Lawson (ตายแล้ว) ซึ่งเป็นคนที่ Carol นับถือมากที่สุด
ความจริงแล้ว Carol เป็นนักบิน
จากบทสนทนา
Talos: Lawson อยากให้เจ้าช่วยเหลือพวกเราตามหาแก่นพลังงาน (TESSERACT) มันจะเป็นพลังงานให้ยานขนาดใหญ่ พาเราหนีไปยังดาวดวงใหม่ ที่พวก Kree ไม่อาจตามไปพบ
Carol: ถ้าเจอแล้ว...แกเอามาฆ่าพวกเราหล่ะ ( ถามด้วยความที่ยังไม่เชื่อใจ 100% )
Talos: เราขอแค่ “บ้าน....”
หลังจากนั้น Carol ก็ได้ร่วมมือกับ Talos ค้นหา TESSERACT ซึ่งอยู่ในยานอวกาศที่โคจรรอบโลก จนพบ และ Carol ก็ได้พบอีกว่า มีชาว Skrull จำนวนหนึ่งรอการช่วยเหลืออย่างมีหวัง ให้พาพวกเขาหนีจากการตามล่าของพวก Kree
TESSERACT กับ น้องแม๊ว กรู้ส
Carol ได้เชื่อใจ Talos เต็ม 100% แล้วตอนนี้ และเธอพร้อมที่จะปกป้องพวก Skrull จากพวก Kree และหาดาวดวงใหม่ที่สามารถเรียกว่า “บ้าน” ให้แก่พวกเขา
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง คนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็ต้องเคยพบเจอ อย่างผมก็เคยเจอคนกลุ่มนี้เป็นประจำ เมื่อเห็นพวกเขาแล้ว รู้สึกเวทนา สงสาร และในใจก็อยากช่วยเหลือเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเขาอย่างไร และกลัวเขาที่อาจมาทำร้าย
ไทยรัฐออนไลน์ ได้เขียนสถิติจำนวนคนเร่รอนในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไว้ ใน วันที่ 23 ต.ค. 2562
สิทธิพล ชูประจง หน.โครงการผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงา เล่าให้ฟังว่า
ในปี 2551 เคยสำรวจกลุ่มคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้าน ตามพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯและปริมณฑล พบ 675 คน อายุ 26-45 ปี
ในปี 2553 สำรวจพบ 1,093 คน แยกเป็นชาย 922 คน หญิง 141 คน เด็ก 30 คน ประเภทครอบครัว 25 ครอบครัว
ในปี 2554 พบ คนไร้ที่อยู่อาศัยมีจำนวน 3,676 คน ในปี 2557 มี 3,249 คน ชาย 2,003 คน หญิง 1,246 คน
ในปี 2558 พบ1,300 คน
นับตั้งแต่ปี 2559 รัฐบาลจัดระเบียบคนเร่ร่อน ทำให้กลุ่มคนไร้บ้าน อยู่กันแบบกระจัดกระจาย ไม่เกาะกลุ่มกันเหมือนเดิม บางส่วนขยายไปอยู่ชายขอบเมือง เช่น เขตพระราม 2 เขตบางขุนเทียน จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และบางส่วนถูกพาไปอยู่ในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง...สถานสงเคราะห์
แต่...ปัจจุบันคาดการณ์ตัวเลขคนเร่ร่อนไร้บ้านน่าจะมีถึง 2,500 คน ในจำนวนนี้ถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มคน คือ 1.คนเร่ร่อน 2.คนป่วยจิตเวช 3.อดีตผู้ต้องขัง”
1. “คนเร่ร่อน” 90% ของจำนวนทั้งหมด 3 กลุ่ม มีบ้านและครอบครัว แต่มีปัญหาครอบครัวไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ อาจจะด้วยสาเหตุมีฐานะยากจน ถูกผลักดันออกมาเร่ร่อนนอกบ้าน “วิถีเส้นทางคนข้างถนน” กลายเป็น “คนไร้บ้านโดยปริยาย”
หลายคนเข้าใจว่าคนไร้บ้านเป็นคนขี้เกียจ ไม่มีงานทำ แต่ความจริง มีจำนวนไม่น้อยที่มีงานทำ เพียงแต่รายได้ไม่มากพอสร้างความพอสร้างความมั่นคงในชีวิต เช่าห้องพักอาศัย หรือสะสมเงินทองให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีได้
1
2. คนไร้บ้าน 8 % ที่มีอาการป่วยจิตเวช ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติทางสมอง หรือจากปัจจัยทางจิตสังคม ความเครียดต่างๆ รวมถึงกลุ่มคนติดสุรา ยาเสพติด เข้าไม่ถึงระบบการรักษา จนเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช...เดินออกจากบ้าน ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเดินไปไหน กลายเป็น “คนหาย”
บางครอบครัวออกตามหา แต่บางครอบครัวก็ไม่ได้ออกตามหา เพราะมีฐานะยากจนไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการติดตามคนหาย
นับรวมไปถึง...คนต่างจังหวัด เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ แต่ตกงานกลับบ้านภูมิลำเนาไม่ได้ ต้องนอนกินอยู่ตามป้ายรถเมล์ เมื่อใช้ชีวิตเร่ร่อนในระยะหนึ่ง บางคนเกิดสะสมความเครียด นึกถึงอนาคตจะอยู่ต่อไป เริ่มมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวลสูง หันมาติดเหล้า ติดยา เพราะสภาพแวดล้อมข้างถนนไม่ได้อยู่แบบเรียบง่าย จนมีอาการทางจิต พูดคนเดียว เห็นภาพหลอน หูแว่ว กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวชข้างถนน...
3.“อดีตผู้ต้องขัง” อีก 2% ที่เหลือ กลุ่มนี้เคยติดคุกพ้นโทษออกมา เมื่อกลับบ้าน ครอบครัว หรือญาติไม่ให้การยอมรับ หรือกลับไปแล้วแต่ครอบครัวย้ายบ้านไปอาศัยพื้นที่อื่น ติดต่อใครไม่ได้ ทำให้ไม่มีบ้านเหมือนเดิม ต้องจำใจมาเร่ร่อนหางานในเมืองหลัก
แต่กลายเป็นถูกตีตราว่า “คนขี้คุก...ขี้ตะราง” ไม่มีใครยอมรับเข้าทำงาน สุดท้ายต้องเป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อนอาศัยหลับนอนอยู่ใต้สะพานลอย ตอนกลางวันออกขอเงินผู้ใจบุญตามแหล่งชุมชน
จากข่าวของไทยรัฐออนไลน์ จะเห็นได้ว่า พวกเขาที่ถูกเรียกว่า “คนเร่ร่อน” ไม่มีใครอยากเป็น หรือตั้งใจที่จะเป็น “คนไม่มีบ้าน” พวกเขาอยากมีชีวิตที่ดี บางคนที่เห็นคนเหล่านี้ อาจดูถูก รังเกียจ เดินหนี
แต่จริงๆแล้วเขาเหล่านี้ถูกบีบไม่มีทางเลือก จำใจต้องเป็น “คนไร้บ้าน” ก็เหมือนเช่น พวก Skrull ในหนัง ที่พวกเขาไม่ต่างอะไรจาก "คนเร่ร่อน" และต้องการใครบางคนยื่นมือเข้ามาช่วย เพื่อทำความหวังในสิ่งที่เขาต้องการเพียงแค่ “บ้าน” ให้เป็นจริง
จบแล้วครับหวังว่าเพื่อนๆจะชอบนะครับ ช่วยกดไลค์👍 แชร์👌 ติดตาม 🙏 เพื่อเป็นกำลังใจ💓 ด้วยนะครับ
ปล. ชอบ Brie Larson ที่รับบทเป็นคุณแม่ (Captain marvel) มาก ขนาดเธอดูไม่ผอมยังสวยขนาดนี้ และชอบน้องแม๊วกรู๊ส น่ารักน่าหยิกจริงๆ😊
ขอขอบคุณ
- ภาพจากหนัง Captain Marvel โดย Marvel Studio
- ภาพสวยๆจาก pexels., pixabay

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา