#ตกลงพ่อแม่อยู่ฝ่ายหนูหรือเปล่า
บ่อยครั้งที่เราซึ่งเป็นพ่อแม่มักฟังตัวเองและฟังคนอื่นมากกว่าลูก
พี่ทะเลาะกับน้อง โทษพี่ก่อน เพราะพี่โตกว่า ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยใครผิดใครถูก ลูกโมโหต่อว่าคนนั้นคนนี้ เราปักธงไว้แล้วว่าลูกนิสัยไม่ดี พูดจาไม่เคารพผู้ใหญ่ ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่า เรื่องมันเป็นมาอย่างไร
วันก่อน แม่หมีได้อ่านบทความนึงค่ะ คุณครูในโรงเรียนขอให้เด็กวาดภาพพ่อแม่ของฉันเพื่อนำไปแสดงในนิทรรศการของโรงเรียน เด็กชายเก่ง (นามสมมติ) วาดรูปพ่อแม่ถูกฆ่าตาย และเขียนว่าผมอยากให้พ่อแม่ตายๆ ไปซะที...โชคดีว่า คุณครูท่านนี้ มีหลักจิตวิทยาที่ดีมาก จึงไม่ส่งรูปดังกล่าวไปให้พ่อแม่เด็ก แต่ตรงกันข้าม หลังเลิกเรียน แต่ละวันก็ชวนเด็กพูดคุย และค่อยๆ ตีสนิทกับเด็กไปเรื่อยๆ จนนำมาถึงจุดประสงค์ที่คุณครูอยากรู้ว่าเหตุใดเด็กจึงอยากให้พ่อแม่ตาย
คุณครูพบว่า เด็กชายเก่งถูกพ่อแม่ตีบ่อยมาก เพราะแย่งของเล่นกับน้องบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวเองเล่นอยู่ก่อน ถูกพ่อแม่ด่าว่าว่านิสัยไม่ดี เป็นเด็กเลว ไม่มีใครรัก ทั้งๆที่หลายครั้ง สิ่งที่เด็กทำ เด็กไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน...เรื่องน่าเศร้าคือ เด็กคนนี้พึ่งอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้นเองค่ะ
เรื่องที่ลูกอยากให้พ่อแม่ตาย นี่เป็นเรื่องใหญ่มากๆ นะคะ เพราะนั่นหมายถึงสายสัมพันธ์ในครอบครัวมันขาดลงอย่างไม่เป็นชิ้นดี
แม่หมีอ่านแล้วกลับมาคิดย้อนดูเรื่องราวต่างๆ ในอดีตเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่เป็นครู Sunday School ... คุณครูที่มีโอกาสเห็นตอนพ่อแม่จัดการลูกตัวเอง เวลาที่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างเด็กในชั้นเรียน
คำถามคือ เวลาที่เกิดเรื่อง เราอยู่ฝ่ายลูก หรืออยู่ฝ่ายไหนกันแน่ เราเคยลงไปถามลูกมั้ยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมลูกถึงทำแบบนั้นแบบนี้
แม่หมีไม่ได้หมายถึงให้เราเข้าข้างลูกทั้งๆที่เค้าทำผิดนะคะ แต่พบว่า หลายครั้ง เราแสดงพฤติกรรมที่อยากจะหาพยานมาช่วยกล่าวหาความผิดของลูก
...ไหน พี่เลี้ยงเล่าซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น
... แม่ไปถามคุณครูมาแล้ว คุณครูบอกว่าเราเกเรมาก ชอบตีเพื่อน
...คุณปู่บอกว่า เรานิสัยไม่ดีเลย ที่ไม่รู้จักแบ่งขนมให้น้อง
พยานแวดล้อมเต็มเลยค่ะ แต่ไม่มีจุดไหนที่บอกว่า ได้ถามลูกแล้ว...
สรุป เราเป็นพ่อแม่หรือผู้พิพากษาลูกกันแน่? แล้วตกลง เราต้องการแก้พฤติกรรม แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หรือเราต้องการสอนให้เด็กรู้ว่าโลกนี้มันไม่ยุติธรรม และพ่อแม่คือฝ่ายตรงข้าม กันคะ?
ฝากไว้เป็นคำถามปลายเปิดให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน รวมถึงตัวเองด้วย เพื่อที่ว่าวันนึงพอเจอเหตุการณ์ต่างๆ เราจะมองลูกอย่างเข้าใจ และฟังลูกให้มากขึ้นกว่าเดิม (deep listening)
สำคัญมาก คือ เวลาฟังลูก อย่าทำให้ลูกเกิดคำถามอีกว่า 'ตกลงพ่อแม่จะฟังมั้ย'
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
23 ธันวาคม 2562
แม่หมี ผู้พบว่า ทักษะการฟัง เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญในการเป็นพ่อแม่จริงๆค่ะ
ขอบคุณรูปประกอบจาก asiaparent
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
