24 ธ.ค. 2019 เวลา 08:33 • ธุรกิจ
"นักลงทุนระดับโลกจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไร" ตอนที่ 2 การประยุกต์ใช้
วันนี้เรามาดูในส่วนของการประยุกต์ใช้งาน "แนวคิดการลงทุนของนักลงทุนระดับโลก" กันครับว่า
เราสามารถทำแบบเดียวกันกับเขาได้หรือเปล่า
4. Example - ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน
หลายๆคนคงรู้สึกว่าการที่จะไปลงทุนต่างประเทศมันเป็นเรื่องยากเสียเหลือเกิน
ถ้า... หมูน้อยจะบอกว่า การลงทุนในต่างประเทศ มันง่ายยิ่งกว่าเราทานข้าว ท่านจะเชื่อผมไหมครับ?
ผมอยากแนะนำให้ท่านรู้จักกองทุนเปิดอีกประเภท นอกเหนือไปจาก LTF และ RMF ซึ่งกองทุนตัวนี้มีชื่อว่า
1
"กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ(Foreign Investment Fund: FIF)"
https://bangkokbiznews.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com/image/kt/media/image/news/2019/12/13/858140/750x422_858140_1576227083.jpg
กอง FIF คือกองทุนรวมที่มีจุดมุ่งหมายหลักคือ การนำเงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนภายในประเทศเพื่อ "ไปซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน"
80% ของพอร์ตต้องไปลงในสินทรัพย์ต่างประเทศ
20% ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆได้
ซึ่งข้อดีของกองประเภทนี้นอกเหนือไปจากที่มันเอาเงินเราไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้แล้ว
"FIF เป็นกองที่อยู่ในระบบ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทั้งทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการ ก.ล.ต."
ดังนั้น เราจึงสามารถวางใจได้ว่า กองนี้อย่างน้อยที่สุดก็มีหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือคอยควบคุมดูแลอยู่
แต่ใช่ว่ากองทุนประเภทนี้จะไม่มีข้อเสียเลย
ด้วยความที่กอง FIF ไปลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้นเราจึงมีความเสี่ยงเรื่อง
"ความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของค่าเงิน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ภายในประเทศที่กอง FIF เลือกลงทุน"
เป็นสองความเสี่ยงหลักที่เราจะต้องพบเจอ
ซึ่ง กอง Foreign Investment Fund: FIF นี้ก็มีการลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยง ระดับ 3 ไปจนถึงระดับ 8 ให้เราเลือกสรร
ผมจะลองยกตัวอย่าง ประสิทธิภาพการทำงาน(Performance)
ของกองทุน LTF RMF และ FIF เทียบกันให้ท่านดูนะครับว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมานี้ ผู้นำอันดับ 1-5 ของ LTF RMF และ FIF มีผลงานต่างกันอย่างไร
*หมายเหตุสำคัญ ผมไม่ได้แนะนำให้ท่านไปซื้อกองทุนตัวหนึ่งตัวใดในนี้เพียงแค่นำผลงานออกมาแสดงให้ทุกท่านดูเท่านั้น เพราะ
"การดำเนินงานในอดีต ไม่ได้การันตีว่าการดำเนินงานในอนาคตจะเป็นเช่นเดียวกัน"
1. กอง LTF อันดับ 1-5
เนื่องด้วยกองทุน LTF จะมีข้อจำกัดหลักข้อหนึ่งคือ "ต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65%" ประกอบกับในปี 2562 นี้ตลาดหุ้นในประเทศไทยปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้ผลงานไม่ดีเท่าช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นในหลายๆปีที่ผ่านมา
2. กอง RMF อันดับ 1-5
ในขณะที่กอง RMF สามารถลงทุนในทรัพย์สินที่มีความหลากหลายกว่าทำให้สามารถสร้างกลยุทธ์ได้มากกว่า จึงไม่ต้องแปลกใจว่าในกลุ่มผู้นำของกองทุน RMF สามารถทำผลงานได้ดีกว่ากอง LTF แน่นอน
1
*ข้อเสียหลักๆของกอง RMF คือ มันต้องถือยาวไปจนเราอายุ 55 ปี แต่ข้อดีที่มี มากมายมหาศาล
3. กอง FIF อันดับ 1-5
1
กอง FIF ที่นำเงินเราไปลงทุนในต่างประเทศ เมื่อได้ดูประสิทธิภาพของกองทุนระดับ TOP 5 ทิ้งกอง LTF ไปไม่เห็นฝุ่น
**อย่างที่ผมได้เกริ่นๆไว้ในหลายๆบทความก่อนหน้านี้ว่า ตัวสินทรัพย์ หรือ กองทุนแต่ละแบบ มีสามารถทำงานได้ดีในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยความที่ตลาดหุ้นไทยเป็นขาขึ้นมาในหลายๆปี ทำให้ ท่านที่ถือกองทุน LTF ในระยะเวลาที่ผ่านมานี้ได้กำไรกันเป็นกอบเป็นกำ
ผมอยากให้ท่านลองไป ตรวจสอบดูครับว่า กองทุน LTF ที่ท่านถือ ราคา(หรือ NAV) เมื่อตอนต้นปี เมื่อเทียบกับเวลานี้ ต่างกันมากหรือเปล่า
เราสามารถ "สลับกองทุนประเภทเดียวกันโดยไม่ผิดเงื่อนไขการขาย" ได้นะครับ
จะดีกว่าไหมถ้าเราสลับไปยังกองทุนที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่าในสภาวะที่ตลาดย่ำแย่
ต่อให้ต้องเสียเวลาไป 1-2 วัน(หากต้องย้ายกองข้ามธนาคาร) แต่ถ้ามันทำให้"เงินของเรา" ยังคงมีเท่าเดิม หรือ กำไรมากขึ้น (1% ก็เอา เอาหมด)
***ถ้าท่านใช้ internet banking ในส่วนของขั้นตอนการส่งคำสั่ง ท่านสามารถสลับกองทุนชนิดเดียวกันด้วยเวลาไม่ถึง 10 วินาที มันง่ายถึงขนาดนั้นเชียวล่ะครับ
ไม่เพียงแค่การสลับกองทุนเท่านั้น แม้แต่การซื้อกองทุนก็สามารถทำได้ง่ายๆผ่านการกดปุ่มในมือถือไม่กี่ปุ่ม (แต่แน่นอนนะครับว่าก่อนที่เราจะซื้อกองทุนใดๆก็ตามเราต้องศึกษามันมาพอสมควรแล้ว)
ผมอยากทำให้ทุกท่านได้เห็นถึงความสะดวกของการลงทุน
ของ Mobile banking ขอยกตัวอย่าง K Plus ของกสิกร ซึ่งผมมีความชอบโดยส่วนตัวเพราะ ตัว App ออกแบบดี สะอาดตา ง่ายต่อการใช้งาน
ยกตัวอย่างบ่อยขนาดนี้ ถ้าโฆษณาของ Kbank จะเข้า หมูน้อยยินดีนะครับ
บทความดี มาตรฐานเด่น ทัศนคติเยี่ยม พร้อมเป็นพันธมิตรกับท่าน 55555
1
อะแฮ่ม เข้าเรื่องๆ
1
ตัว Application K - Plus
ของ ธนาคารกสิกรไทย นับว่าเป็น Application ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการทำธุรกรรมทางการเงินได้ในระดับที่ ผมขอเรียกว่า ไร้รอยต่อ (Seamless) ตั้งแต่การทำธุรกรรมทางการเงินพื้นฐาน อย่าง ฝาก ถอน โอน จ่ายบิล ซื้อของ ขอสินเชื่อ ฯลฯ
แต่ผมจะแนะนำในส่วนของ การเข้าถึงการลงทุนที่สะดวกสำหรับผู้ใช้งานอย่างเรา ตามผมมาเลยครับ
https://www.macthai.com/2018/10/11/k-plus-all-new-design-app/
https://www.kasikornbank.com/th/personal/digital-banking/kplus/functions/investment/Pages/my-port.html
https://www.kasikornbank.com/th/personal/digital-banking/kplus/functions/investment/Pages/my-port.html
https://www.kasikornbank.com/th/personal/digital-banking/kplus/functions/investment/Pages/my-port.html
https://www.kasikornbank.com/th/personal/digital-banking/kplus/functions/investment/Pages/my-port.html
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากได้ดูกันแล้ว
เราสามารถสั่งซื้อกองทุนประเภทต่างๆได้เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน
แม้แต่การสับเปลี่ยนกองทุน LTF หรือ RMF ก็ทำได้ด้วยการกดไปยัง ปุ่ม "ซื้อขายและสับเปลี่ยน" กองทุนเท่านั้นเอง
สำหรับท่านใดที่มีความกังวลว่าการซื้อขายกองทุนแล้วยังต้องการสมุด เพื่อเป็นหลักฐาน เราก็สามารถพกโทรศัพท์มือถือ เดินไปยังสาขาใกล้บ้านท่านได้เลย
อยากให้ท่านได้ทราบครับว่า ปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ ง่าย และ สะดวกกว่าเดิมมาก
หากท่านยังไม่มีบัญชีกับทางกสิกร การเปิดบัญชีก็สามารถทำได้รวดเร็วเช่นกัน ไม่เกิน 15 นาทีครับ
พกไปแค่บัตรประชาชนกับมือถือ ทางพนักงานก็จะนำแทปเลตมาอำนวยความสะดวกให้ท่านในการเปิดบัญชีและเปิดการใช้งาน application
เพื่อซื้อขายกองทุน ได้อย่างรวดเร็ว เลยทีเดียว
มาถึงจุดนี้ผมอยากบอกอีกครั้งนะครับว่า ถ้าโฆษณาของ Kbank จะเข้า หมูน้อยยินดีนะครับ 55555
5. Conclusion - สรุป
ดังนั้น เราสามารถใช้กอง FIF เพื่อกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้
เหมือนๆกับนักลุงทุนระดับโลก
แต่สิ่งคำคัญก็คือ เรายังมีความจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนและทำการบ้านอย่างหนัก
เนื่องด้วยกอง FIF เน้นการลงทุนในต่างประเทศ
เราจึงต้องคำนึงถึงเรื่องความเสี่ยงจากเรื่องค่าเงิน และ ปัจจัยเฉพาะตัวของประเทศนั้นๆ ที่กองทุน FIF ได้ไปลงทุนเอาไว้
ติดตามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจในสเกลที่ใหญ่มากขึ้น
และ ภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำผลงาน และ มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ดีหากเรายังคงอ่านแค่ข้อมูลภาษาไทย ค่อยๆฝึกกันครับ
https://www.slideteam.net/media/catalog/product/cache/960x720/a/s/asset_allocation_equity_bonds_and_real_estate1_Slide01.jpg
หลังจากที่เรารู้จักกอง Foreign Investment Fund: FIF กันแล้ว เราก็ต้องออกแบบกลยุทธ์การลงทุนของเราว่า
- จะกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อะไร
- เป็นสัดส่วนเท่าไหร่
- ลงทุนสินทรัพย์นั้นไปยังประเทศใด
อย่างที่ผมได้แสดงตัวอย่างให้ท่านดูในส่วนที่ 3
"Broaden your perspective - เปิดมุมมองการลงทุน"
ในบทความก่อนหน้า
หากท่านจะถามผมว่า สัจธรรมของชีวิตคืออะไร
คำตอบของผมคือ ชีวิตมนุษย์ มี แค่ 2 สิ่งที่หนีไม่พ้น
" หนึ่ง คือ ความตาย และ สอง คือ ภาษี "
ในเมื่อ เราลดหย่อนภาษีได้น้อยลง แทนที่จะเอาเงินเราไปขังอยู่ในกองทุนบางประเภทเป็นระยะเวลานาน เราก็เอาไปลงกับกองที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ "ชดเชย/cover ภาษีส่วนนั้นได้"
ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่มีเหตุมีผลเช่นกัน
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Wisdom and Vision ที่เรามีแล้วล่ะครับ ว่า
กลยุทธ์และกองทุนที่เราเลือกใช้จะสามารถทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ไกลเพียงใด
หวังว่าทุกท่านจะได้รับสาระดีๆ และ ความสนุกจากบทความของผมเช่นเคย
1
ขอบพระคุณทุกท่านที่คอยติดตามและสนับสนุนกระผมเสมอมาครับ
รักทุกท่าน
ผมขอมอบบทความสองตอนนี้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับทุกท่าน
ส่วนคืนนี้หมูน้อยขอไปจิงกะเบลล่วงหน้าก่อนนะครับ
*สำหรับท่านใดที่อยู่ต่างประเทศแน่นอนว่าย่อมมีกองทุนที่มีลักษณะเดียวกับ Foreign Investment Fund: FIF เช่นกัน ลองศึกษาดูนะครับ
reference

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา