26 ธ.ค. 2019 เวลา 08:29 • ธุรกิจ
เซ็นทรัล รีเทล พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
เซ็นทรัล รีเทล หรือ ‘CRC’ ประกาศเรื่องสำคัญครั้งประวัติศาสตร์
พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือ IPO
เพื่อต่อยอดความสำเร็จในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทยกว่า 72 ปี
หลังจากสำนักงาน ก.ล.ต ได้อนุมัติแบบคำขอฯ และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยในวันนี้
โดย CRC ประกาศแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,691,000,000 หุ้น แบ่งออกเป็น
(1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,331,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
2
ซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ ผู้ถือหุ้นของบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ROBINS’ ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผ่านการแลกหุ้น (Share Swap)
และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายและจัดสรรให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก
(2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Hawthorn Resources Limited (ผู้ถือหุ้นเดิม) จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
1
และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option หรือ Greenshoe) จำนวนไม่เกิน 169,100,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้
เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
พร้อมกันนี้ CRC ประกาศเดินหน้าทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ ROBINS ที่ราคา 66.50 บาทต่อหุ้น
เพื่อแลกกับหุ้น IPO ของ CRC ตามช่วงอัตราแลกหุ้นเบื้องต้น
ที่ 1.39 ถึง 1.66 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ CRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิมของ ROBINS
ในระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม และเป็นตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agent)
หลังจากนั้นหุ้นของ ROBINS จะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับหุ้น IPO ของ CRC เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่างๆ อาทิ
1. การขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์
2. การขยายสาขาของไทวัสดุ
3. การขยายสาขาของบิ๊กซี/GO! ในประเทศเวียดนาม
4. การปรับปรุงสาขาต่างๆ ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
3
ทั้งนี้ CRC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมภายหลังจากหักภาษี
การ IPO ของ CRC ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุน ที่จะได้ร่วมเป็นเจ้าของและเติบโตไปกับ CRC ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจรีเทลในประเทศไทย
ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี
3
CRC เป็นแหล่งรวบรวมแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำหลากหลายประเภท (Multi-category) ใน 3 กลุ่มหลัก คือ
กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และกลุ่มฟู้ด ในหลากหลายรูปแบบและช่องทาง (Multi-format) ที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ (Multi-market)
CRC มีร้านค้าทั้งหมดประมาณ 1,922 ร้านค้าใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำมากมาย อาทิ
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 23 สาขา, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 49 สาขา, ซูเปอร์สปอร์ต 209 สาขา, เพาเวอร์บาย 104 สาขา, ไทวัสดุ และบ้าน แอนด์ บียอนด์ 55 สาขา, ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 204 สาขา, แฟมิลี่มาร์ท 964 สาขา
เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ผู้แทนจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากต่างประเทศ ผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า และโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย
1
รวมไปถึง บิ๊กซี/GO! Hypermarket อันดับ 1 ในประเทศเวียดนาม 37 สาขา
เหงียนคิม ร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางในประเทศเวียดนาม 71 สาขา
ลานชีมาร์ท ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กถึงกลางในประเทศเวียดนาม 25 สาขา
รีนาเซนเต ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี 9 สาขา
2
ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ของ CRC
มีรายได้รวม 159,506 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.1 จากรายได้รวมในช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า
โฆษณา